ผมตั้งตานับวันรอด้วยใจระทึกที่จะได้ไปฉลองกันสองต่อสองในวันเกิดของปอย
โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังจะได้รับบทเรียนของหัวใจกับคำว่า
"อกหัก" ในไม่ช้า... -02
บ่ายวันศุกร์มาถึงด้วยความที่เรียนเลิกช้า ผมรีบไปสถานที่นัดหมาย
โดยไปช้ากว่าเวลาที่นัดกันไว้เกือบครึ่งชั่วโมง เพราะฝนเจ้ากรรมดันมาตกในวันนั้นซะได้
เมื่อไปถึงผมก็พบกับปอยรออยู่หน้าร้านที่นัดกันเอาไว้ พร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน
"ปอย ก๊ำขอโทษนะ พอดีอาจารย์เค้าเลิกช้า แล้วฝนตกด้วยอ่ะ รถก็เลยยิ่งติด"
"ไม่เป็นไรก๊ำ รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า ปอยหิวแล้วอ่ะ" ปอยตอบมาด้วยน้ำเสียงสดใส
"คร๊าบ คร๊าบ"
ผมรีบเดินตามแม่สาวกรุงคนงามเข้าร้านไป แต่แล้ว.....
ผมก็ต้องอึ้งเมื่อเจ้าหล่อนเดินนำผมไป
และนั่งลงเคียงข้างกับเจ้าหนุ่มผมยาวที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ
พร้อมแนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าหนุ่มผมยาว
"ก๊ำ นี่พี่อ้ำนะ ที่ปอยเคยเล่าให้ฟังไงล่ะ พี่อ้ำ นี่ก๊ำญาติปอยที่เคยบอกว่ามาจากเชียงใหม่ค่ะ"
ก็จะใครเสียอีกละครับคนที่เธอเคยบอกกับผมว่าอดีตคนรู้ใจไงละครับ
แล้วผมกลายเป็นญาติจากเชียงใหม่ไปแล้วอ่ะ
"..."
ผมยืนตะลึงและพร้อมๆ ไปกับงูสองตัวที่วิ่งเข้ามาชนกันสนั่นหวั่นไหวในหัว ในชั่ววินาทีที่ปวดใจเหลือเกิน
ด้วยความที่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอความจริงอันโหดร้ายจากแม่สาวหน้าหวานในดวงใจในวันเกิดของเธอ
กว่าจะตั้งสติได้ก็เมื่อได้ยินเสียง พี่อ้ำของน้องปอยทักทายมาอย่างแจ่มใส
"สวัสดีครับ ก๊ำดีใจที่รู้จักครับ ปอยเคยพูดถึงก๊ำบ่อยๆ นะ นั่งก่อนสิ"
ผมค่อยๆ นั่งลงด้วยหัวใจที่แหลกสลายอย่างยับเยินกับความจริงที่ต้องรับรู้ในวันเกิดของแม่คนงามเมืองกรุง
ที่วาดฝันมาตลอดว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ฉลองวันเกิดของเธอร่วมกันอย่างมีความสุขเพียงสองคน
กล่าวทักทายกลับไปด้วยเสียงที่ไม่แน่ใจในตัวเองว่าพูดอะไรออกไป
"ส....สวัสดีค...ครับ พี่อ....อ้ำ"
แล้วผมก็แว่วถึงคำพูดของปอยที่เคยย้ำกับผมบ่อยๆ เมื่อเราเริ่มต้นคบกันใหม่ๆ ขึ้นมาได้ทันที
"
'ถ้าก๊ำเจอคนที่ดีกว่าปอย ก๊ำจะเลือกคนใหม่ก็ได้นะ ก๊ำมีสิทธิ์ที่จะเลือกนะ'
'เราคบกันเราก็ดูๆ กันไปก่อนเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะ ถ้าก๊ำเจอใครที่ถูกใจกว่าก็บอกปอยได้นะ' "
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดมาตลอดว่าปอยคือคนที่ผมเลือกแล้ว
ผมไม่คิดว่าผมจะต้องมาอกหักในวันที่เป็นวันสำคัญของเธอ
รสชาติอาหารเป็นอย่างไรผมไม่รับรู้แล้ว
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากับการตักอาหารให้กัน
การพูดจาหยอกล้อกันเหมือนกับว่าผมไม่ได้อยู่ร่วมโต๊ะด้วยต่างหาก
ที่ทำให้ผมอยากลุกหนีออกไปให้ไกลจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด
แต่ผมก็นั่งต้องทนอยู่ตรงนั้นมองภาพบาดใจอย่างเหลือที่จะทน
เมื่อยื่นของขวัญที่ตั้งใจหามาให้เธอ แต่สาวเจ้ากลับรับแล้ววางไว้อย่างไม่ใส่ใจ
จนกระทั่งอาหารมื้อนั้นสิ้นสุดลง พร้อมด้วยเสียงหวานๆ ที่ดังแว่วลอยมา
"เออ ก้ำเดี๋ยวก๊ำว่างป่ะ พอดีเราว่าจะไปนั่งฟังเพลงกันต่ออ่ะ พอดีพี่อ้ำเค้านัดกับกลุ่มเพื่อนเก่าเราไว้ด้วยอ่ะ"
"..."
มาถามผมทำไม
ชวนผมมาให้ช้ำใจ แล้วยังมา... ผมอีก
ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วทั้งนั้นละครับเวลานั้น
"เออ...พอดีอาทิตย์หน้าเรามีสอบ mid-term อ่ะ ต้องกลับไปอ่านหนังสือ" เสียงผมตอบแผ่วๆ กลับไปพยายามซ่อนความรู้สึกไว้
"เหรอ ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้เลยก็แล้วกันนะ แล้วก๊ำตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ แล้วไงก็โทรมาด้วยนะ"
"ค...ครับ แล้วเจอกันครับ" ผมรับคำด้วยหัวใจที่แหลกสลาย พร้อมๆ ไปกับสายฝนที่เริ่มโปรยลงมาอีกครั้ง
"ก๊ำ ไม่เป็นไรนะ"
"ครับ ไม่เป็นไรครับ" ผมกัดฟันตอบเธอไป
พร้อมกับนึกในใจว่าถ้าเป็นไรแล้วเธอจะกล้าปลอบใจผมต่อหน้าพี่อ้ำของเธอไหมง่ะ