Montfort27

Montfort 27 ของเรา => ห้องเก่าเล่าความหลัง => ข้อความที่เริ่มโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 06, 2008, 09:36:56 PM

หัวข้อ: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 06, 2008, 09:36:56 PM
ไม่รู้ว่าจะป่ะไว้ที่ไหน ขอเป็นที่นี่ก็แล้วกันเน้อ
ม่วนบ่ม่วนอย่างใดก็อ่านไปก็แล้วกั๋นครับ เป็นของขวัญปี๋ใหม่เมืองให้เพื่อนทุกคนครับ

   "Do you believe in destiny ?" เคยได้ยินคำถามนี้ไหมครับ สงสัยว่ามันจะมีอยู่จริงรึปล่าว ?
อยากหาคำตอบให้กับคำถามนี้บ้างหรือปล่าวครับ ถ้าอยากรู้คำตอบของคำถามประโยคนี้ ล้อมวงเข้ามาใกล้ๆ สิครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง

   ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินคำถามประโยคนี้มาจากหนัง ละคร เอ! หรือว่าเป็นเพลงหว่า ผมจำไม่ได้เสียแล้วสิครับ "Do you believe in Destiny?"
มันคืออะไร สิ่งแรกที่ผมคิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อได้ยินประโยคนี้
อุ๊บ! ขอโทษนะครับ ผมลืมแนะนำตัวเองไปเสียแล้วสิ ผมชื่อ ก๊ำ ครับ (คำนี้ในภาษาเหนือแปลว่า ค้ำชู ครับ)
มีวงเล็บคำแปลแบบนี้ไม่บอกก็คงรู้นะครับว่าเป็นคนเหนือ  ใช่ครับผมเป็นคนเชียงใหม่ ครับ ผมอยู่ในอำเภอเล็กๆ ทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่
เอาละครับแนะนำตัวไปแล้วก็มาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าครับ คำถามที่เกิดขึ้นในใจผมทันทีเมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้เป็นครั้งแรก
"มันมีอยู่จริงๆ เหรอ destiny เนี้ยะ" เอาละครับคุณอาจคิดต่อไปว่า "ไอ้นี่มันกำลังจะพูดเรื่องอะไรของมันฟ่ะ เมื่อไหร่มันจะเข้าเรื่องสักที"
ใจเย็นๆ ครับค่อยๆ ฟังผมเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ดีกว่าครับ ผมเองก็ได้ยินประโยคนี้นานมาแล้วเหมือนกัน
แต่มาเริ่มคิดถึงมันเมื่ออายุปาเข้าไปจะสามสิบนิดๆ เดี๋ยวนี้ก็ใกล้จะสี่สิบอีกไม่นานนี้แล้ว

   ครับ เมื่อผมได้ยินคำถามประโยคนี้อีกครั้ง ผมก็ค่อยๆ คิดทบทวนถึงเรื่องต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เล็กจนโต
คุณละครับเคยใช้เวลานั่งทบทวนถึงเรื่องแบบนี้บ้างหรือปล่าวครับ แต่ตอนนี้มาฟังเรื่องของผมต่อดีกว่าครับ

หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 06, 2008, 10:05:47 PM
ผมเริ่มต้นจากการเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลในอำเภอที่ผมอาศัยตั้งแต่เกิด จนกระทั่งเมื่อผมเรียนจบ ป.3 และกำลังจะขึ้น ป.4
เจ้า Destiny ก็เข้ามาทักทายกับชีวิตของผมเป็นครั้งแรก
เมื่อคุณนายของบ้านผมได้มีประกาศิตให้ผมไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อในโรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัด
ซึ่งท่านได้เรียกผมเข้าพบในวันหนึ่งช่วงปิดเทอมปลาย

   "ก๊ำเอ้ย แม่อยากให้ลูกเข้าไปเรียนในเวียง ลูกจะได้มีความรู้เป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่บ้านเรา" 
   "ครับ" ผมรับคำอย่างว่าง่าย เพราะผมเป็นคนว่าง่ายอยู่แล้ว

เนื่องจากว่าท่านได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ได้จัดการให้ลุงของผมไปติดต่อสมัครสอบให้เรียบร้อยแล้ว
และจะต้องไปสอบในวันรุ่งขึ้นทันทีแล้วผมจะว่าอย่างไรได้ละเนี้ยะ

   "เอ้าเอาไงก็เอากันฟ่ะ หนังสือก็ยังไม่อ่านด้วยดิ เพิ่งจะสอบไล่เสร็จ แท้ๆ เฮ้อ! กรรมของตูจริงๆเลย" อันนี้บ่นในใจครับพูดดังไม่ได้เดี๋ยวเจ็บครับ  :smile6:

วันรุ่งขึ้นผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปสอบตามบัญชาของคุณนายแม่ โดยมีคุณพ่อที่เคารพ และคุณลุงที่รักไปส่ง
ซึ่งจะประกาศผลสอบในวันถัดไป เรื่องการสอบผมไม่ขอพูดถึงเพราะจำไม่ได้
เอาเป็นว่าผมสอบติด แต่เป็นสำรองอันดับสามก็แล้วกัน  สรุปคือต้องรอว่าจะมีคนสละสิทธิ์ 3 คน ผมถึงจะได้เรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งนั้น
แล้วคุณว่ามันเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ

ใช่ครับ Destiny มันมาทักทายและเล่นตลกผมเป็นครั้งแรกครับ
ปรากฎว่าทางโรงเรียนเรียกตัวผมเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ ไปได้ 3 วันครับ
ผมยังจำได้ดีครับวันนั้นผมตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าตามปกติครับ
จากนั้นในคาบเรียนที่สอง คุณพ่อที่เคารพ และคุณลุงที่รักของผมก็มาที่ห้องเรียน

   "คุณครูครับ ขออนุญาตครับ ผมมารับก๊ำครับ" พ่อผมพูด ในขณะที่ผมเริ่มงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับตูฟ่ะ เมื่อเช้าก็ยังไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรเลยนี่หว่า
    "ก๊ำ พ่อมารับลูกโรงเรียน... ที่เราไปสอบไว้เค้าเรียกตัวลูกแล้วต้องไปมอบตัว และเริ่มเรียนวันนี้เลย"

   "เอาดิอะไรกันฟ่ะ" ผมเริ่มนึกในใจ
           "เปิดเรียนไปด้วยแล้วเนี้ยะนะ แล้วไงล่ะ จะต้องทำไงต่อละเนี้ยะ บ้านเรากับโรงเรียนก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ด้วยจะต้องทำอย่างไรบ้างอ่ะ"
   
ตกลงผมต้องเดินออกจากห้องเรียนโดยไม่มีโอกาสได้ลาเพื่อนเก่าๆ ที่ได้เล่นทะโมนมาด้วยกันสักคนเลยครับ
เดินมาที่รถของลุงด้วยความงงในชีวิตว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตูต่อไปฟ่ะ
   
   "พ่อ  แล้วผมต้องไปพักที่ไหนล่ะ หรือว่าพ่อจะไปส่งผมทุกวัน" ผมถามขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อย
   "อ๋อ แม่กับลุงเค้าจัดการติดต่อหอพักให้เรียบร้อยแล้ว ลูกไปมอบตัวและเริ่มเรียนก่อน"
           "แล้วเดี๋ยวตอนเย็นพ่อกับลุงจะไปรับที่โรงเรียน แล้วพาไปส่งที่หอพักต่อเลย" พ่อที่เคารพตอบผมมาราวกับมีแผนการมาแล้วล่วงหน้า
   "แล้วเสื้อผ้า ก๊ำยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยนะ"
   "ไม่เป็นไร แม่เค้าเตรียมไว้ให้ลูก เรียบร้อยแล้วล่ะ เอาไปสักไม่กี่ชุดก่อน เดี๋ยวเสาร์-อาทิตย์นี้พ่อไปรับกลับบ้านแล้วค่อยมาเอาไปเพิ่มก็ได้"

เอาละสิผมเริ่มคิดในใจอีกครั้งอะไรฟ่ะ ไม่ถามสักคำว่าเราคิดไงบ้าง
สงสัยงานนี้คุณนายที่บ้านเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแน่ๆ
แล้วชีวิตเด็กหอจะเป็นอย่างไรบ้างอ่ะ ไอ้เราเองก็ไม่เคยออกบ้านมาก่อน
โชคดีเป็นของผมครับที่สมัยนั้นยังไม่มีหนังเรื่อง "เด็กหอ" ไม่งั้นผมคงต้องผวาแน่ๆ   -07

   "พ่อครับ แล้วหอที่จะไปพักเนี้ยะ อยู่ที่ไหนเหรอครับ"
   "เป็นของมาสเตอร์ที่ลุงกับน้าๆ ของลูกเคยอยู่นะ รู้สึกว่าจะมีพี่เซ้งลูกป้านัทเพื่อนของแม่อยู่ด้วยนะ"
   "เหรอครับ" ผมได้แต่รับคำ และนั่งเงียบๆ ไปตลอดทาง

และนั่นเป็นครั้งแรกที่เจ้า Destiny ได้เข้ามาทักทายกับชีวิตของผม
ได้นำทางผมออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นเวลาร่วม 20 ปีนับจากวันนั้น
นำพาให้ผมได้พบกับเพื่อนดีๆ ประสบการณ์ ความรัก ความทรงจำดีๆ อีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ตามผมมานะครับแล้วผมจะเล่าให้ฟัง
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 08, 2008, 08:34:43 AM
ชีวิตของผมดำเนินต่อมาด้วยความเฮฮา สนุกสนานในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งนั้น
และการใช้ชีวิตเด็กหอของผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะผมสามารถปรับตัวได้เร็ว
การเรียนของผมก็จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ดีเด่นอะไรมากนัก
ถ้าจะเล่าเรื่องชีวิตในโรงเรียน และชีวิตของเด็กหอคนหนึ่งก็อาจเป็นนิยายได้อีกสักเรื่อง
แต่ยังไม่ใช่วันนี้ครับ เอาไว้มีโอกาสผมจะนำมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ

นอกเรื่องไปเยอะแล้วมาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าครับ
วันหนึ่งในปิดเทอมปลายภาคของ ม.2 มาถึง
เจ้า Destiny เพื่อนเก่าของผมก็ได้แวะเวียนเข้ามาทักทายผมอีกครั้งโดยการชักนำของคุณนายแม่เจ้าเดิมนั่นแหละ

   "ก๊ำ พรุ่งนี้ป้าวิภาเพื่อนของแม่จะมาเยี่ยม และพักอยู่กับเราประมาณ 4-5 วันนะลูก"
   "ครับแม่ แล้วป้าเค้าจะมากับใครบ้างละครับ"
   "อ๋อ เห็นบอกว่าจะพาลูกสาวมาด้วย 2 คนนะ คนโตรู้สึกว่าจะอายุแก่กว่าเราสัก 2 ปีนะ"
           "ส่วนคนเล็กอายุไล่ๆ กับเรานั่นแหละอ่อนกว่าเราไม่กี่เดือนนี่แหละ แล้วพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าละ ไปรับป้าเป็นเพื่อนแม่ที่สถานีรถไฟด้วยกัน"
   "ได้ครับ" ผมได้แต่รับคำคุณนายแม่ และนึกในใจว่า 2 สาวหน้าตาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ

เช้าตรู่ของวันถัดมา ผมกับคุณนายแม่ก็ตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับป้าวิภาและลูกสาวที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ด้วยกัน
ครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าของ ปอยลูกสาวคนเล็กป้าวิภา ผมก็ได้แต่นึกในใจว่าทำไมน้องเค้าน่ารักจัง  :love:
ช่วงเวลา 4-5 วันนี้ผมคงมีความสุขที่ได้พาป้าวิภาและลูกสาวทัวร์เชียงใหม่ในคราวนี้แน่ๆ   :smile3:
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วช่วงเวลา 4-5 วันหมดไปกับการนำทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ บ่อสร้าง สันกำแพง ฯลฯ
พร้อมๆ กับสัญญาณมิตรภาพที่เริ่มต้นขึ้นระหว่างผมกับปอย
โดยการแลกเปลี่ยนที่อยู่เพื่อติดต่อกันทางจดหมายในสมัยนั้น
แน่นอนผมต้องให้ที่อยู่หอพักอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่ผมจะให้ที่อยู่ที่บ้านซึ่งกว่าผมจะได้กลับบ้านก็เดือนละครั้ง

แน่นอนครับเมื่อปอยกลับไปแล้วผมก็เริ่มการติดต่อทางจดหมายกับเธอทันที
พร้อมกับเริ่มจุดมุ่งหมายที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เมื่อจบมัธยมต้น หรือมัธยมปลาย
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าปอยจะเป็นคนที่สร้างแรงผลักดันให้ผมได้ก้าวไปสู่ชีวิตที่จะนำพาผมห่างไกลบ้านออกไปอีก
และเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมหัวเราะ เศร้า รู้สึกเหงาได้ในเวลาเดียวกัน
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามฟังเรื่องราวของผมต่อไปเรื่อยๆ สิครับแล้วผมจะเล่าให้ฟังเมื่อถึงเวลา
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 09, 2008, 08:54:49 PM
แต่แล้วเจ้า destiny เพื่อนรักก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงชีวิตผมอีกครั้งทำให้ผมต้องรอไปก่อนในความคิดที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ
เมื่อผมกำลังจะจบ ม.3 ได้มีการจัดสอบเพื่อเรียนต่อชั้น ม.4 ของโรงเรียน  :smile1:
ผมเข้าสอบด้วยความคิดว่า "ไอ้ผลการเรียนกลางๆ อย่างเรามันจะมีความหวังกับเค้าเหรอ เพราะแม้แต่มาสเตอร์เจ้าของหอพักก็ไม่คิดว่าผมจะสอบได้"

แต่แล้ว....

ใช่ครับ เจ้าเกลอเก่าเล่นตลกกับผมอีกครั้งเมื่อผลการสอบออกมาปรากฎว่า
ผมสอบติดในรอบแรกที่คัดเลือกเฉพาะเด็กในโรงเรียนก่อน  :try:
ผมเริ่มคิดหนักครับว่าผมจะเรียนไหวเหรอ และในเมื่อผมเองมีความต้องการที่จะเรียนในสายอาชีพมากกว่าด้วย การเจรจาจึงเริ่มต้นขึ้น

   "แม่ครับ ก๊ำไม่อยากเรียนต่อที่นี่แล้วอ่ะ"
   "ทำไมละลูก ใครๆ เค้าก็อยากจะเรียนที่นี่กันจะตาย"
   "ก็ไม่รู้ว่าก๊ำจะเรียนไหวหรือปล่าวดิ อีกอย่างก๊ำอยากเรียนสายอาชีพด้วยอ่ะ"
           "ก๊ำอยากเรียนบัญชี เพราะที่บ้านเราก็ค้าขายอยู่แล้วด้วย นะแม่นะให้ก๊ำไปเรียนต่อสายอาชีพที่กรุงเทพฯ ได้ไหมครับ"
   "อ้าวแล้วที่โรงเรียนเก่านี่ลูกก็สอบติดแล้วไม่ใช่เหรอ"
   "ติดได้ก็สละสิทธิ์ได้นิแม่"
   "ไม่เอาแม่ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ไกลๆ"
   "อะไรฟ่ะจับตูไปอยู่หอมา 6 ปี ห่างบ้านมาตั้งนานแล้วนา" อันนี้ผมคิดเองในใจไม่กล้าพูดออกไปหรอกครับ
   "ก็ผมไม่อยากเรียนอ่ะแม่ ผมกลัวเรียนไม่ไหว"
   "ก็ลูกยังไม่ได้เรียนจะรู้ได้ยังไงว่าเรียนไม่ไหว"
   "เฮ้อ!" ผมได้ต่อถอนใจเงียบๆ แล้วตอบว่า "ก็ได้ครับแม่ แล้วตอนจบ ม.6 แม่ต้องให้ก๊ำเลือกเองนะว่าก๊ำจะเรียนอะไร ที่ไหนด้วยอ่ะ"
   "เอาไว้ให้ถึงเวลานั้นก่อน เราค่อยมาพูดกันอีกที"

เสียงคุณนายแม่ล่องลอยมาเข้าหูผมเบาๆ
พร้อมกับความคิดในใจของผมที่ได้แต่คิดว่า รอก๊ำก่อนนะปอยคงอีกนานกว่าเราจะได้อยู่ใกล้ๆ กัน  :cry7:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 09, 2008, 09:02:56 PM
ขออภัยเพื่อนๆ ที่ติดตามด้วยครับ กระทู้นี้ขอหยุดตัวเองลง คงไม่ว่ากันนะครับ
เนื่องจากว่าเจ้าของเรื่อง เล่าไปป๊อดไป ครับ เนื่องจาก base on true story 90 กว่าเปอร์เซ็นต์
ขออภัยเพื่อนๆ เป็นอย่างสูงมานะที่นี้ด้วยครับ  -01
เอาเป็นว่าไปติดตาม จากหล่ายดอยสู่รั้วแดงขาวน้ำเงิน ต่อไปก่อนนะครับ
จนกว่าผมจะรู้สึก ป๊อดน้อยกว่านี้ครับ
ขอโตดคร๊าบ  -09 -09 -09
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: อุเทน47 ที่ เมษายน 10, 2008, 08:21:00 AM
อ้าวน้าเก่ง หลอกให้อยาก...แล้วจากไปได้ไง  กำลังสนุกเชียว
อยากรู้จักน้องปอยให้มากกว่านี้ อิอิ  :smile9:
เวลาเขียนเรื่องนี้ก็ต้องระวังหลังไว้ด้วย...ทำให้เกร็งแม่นบ่
เดาเอาว่า็มีอยู่เหตุผลเดียว...ที่ทำให้ป๊อดคือ...เกลียมัว  555  :x
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 10, 2008, 04:14:53 PM
มันบ่ใจ่จะอั้นครับอ้ายเก๋ เรื่องเมียน่ะ เคลียร์ได้
แต่ไอ้ที่กัวว่าจะเคลียร์บ่ได้นี่มัน เกาะบรรดาผู้เกี่ยวข้องจากประสบการณ์ตรงทั้งหลายนี่แหละครับ
มัน  -25 ป๊อดอย่างแรง เพราะพาดพิงหลายคนอยู่


ป๊อด ครับ ป๊อด ขอเวลาทำใจให้มันร่มร่ม ก่อนเน้อพี่น้อง
หลังสงกรานต์จะตัดสินใจอีกทีว่าจะโพสต่อหรือปล่าว
เพราะเรื่องนะเขียนไว้จบนานแล้วครับ
 -08 -09 -02 -14
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ เมษายน 13, 2008, 05:34:57 PM
เอ้าบ่านี่ หลอกให้อยากแล้วจากไปอีกละ (ใช้นามแฝงสิโว้ย) ว่าแต่ ไอ้คำว่าป๊อดเนี้ย มรึงยังใช้กันอยู่อีกหร๋อว่ะ  :no2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Mor-Rim-Doi ที่ เมษายน 15, 2008, 01:37:52 PM
อยากอ่านต่อครับ
ชีวิตของนายฟอเรส ก๊ำ คนนี้
อยากรู้ว่าทำยังไง
ถึงหลอกภรรยาคนนี้
มาเป็นเมียอยู่หล่ายดอยได้
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 17, 2008, 08:48:16 PM
เอาเป็นว่าตัดสินใจได้แล้วครับพี่น้อง
เดี๋ยวให้จบเป็นเรื่องๆ ไปก็แล้วกันนะ
ไปพร้อมๆ กันหลายเรื่องมันบ่ไหวครับ
เดี๋ยวคนอ่านสับสน แต่รับรองว่าเรื่องนี้เริ่มแล้วต้องให้จบครับ
ไม่ปล่อยให้เพื่อนหมออารมณ์ค้างเหมือนตอน ม.2 ที่ตอนถูกยึดหนังสือไปแน่นอนครับ  :x
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 18, 2008, 10:20:27 PM
มาต่อเรื่องให้อีกสักตอนครับ เดี๋ยวแฟนๆ จะลงแดงกันไปซะก่อน  022 หรือปล่าวหว่า  -09

ชีวิตนักเรียนระดับมัธยมปลายของผมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ๆ
เนื่องจากในช่วงมัธยมต้น และประถมของโรงเรียนผมนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วน แต่สำหรับมัธยมปลายนั้นต่างออกไป
มีการรับนักเรียนหญิงเข้ามาด้วย ทำให้พวกทะโมนอย่างพวกผมรู้สึกต่างออกไปในช่วงแรกๆ
และนี่เองเป็นเหตุที่ทำให้ผมได้มาพบกับใครอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีๆ และสร้างความทรงจำที่มีค่ากับผมจนถึงทุกวันนี้

เรื่องเริ่มจากวันหนึ่งในฤดูหนาวของชั้น ม.4 ของผม เมื่อผมได้พบกับสาวน้อยในเสื้อไหมพรมกันหนาวสีชมพู
ซึ่งต่อมาได้เป็นแบบเสื้อและสีที่ประทับอยู่ในความทรงจำสีจางๆ ของผมมาจนถึงทุกวันนี้
ผมยังพบอีกว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำให้ผมประทับใจได้ในเสื้อแบบนี้และสีนี้ในเวลาต่อมา
ถึงแม้ว่าต่อมาผมและเธอจะได้เป็นแค่เพียงเพื่อนกันในทุกวันนี้
นอกเรื่องไปอีกล่ะ มาต่อกันดีกว่าครับ

เพียงครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าตาของเจ้าของเสื้อตัวนี้
ผมรู้สึกประทับใจอย่างทันทีจนเรียกได้ว่ารู้สึกดีดีกับเธออย่างมากมายทันที
ครับด้วยความที่ผมเป็นเด็กหอดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะได้รู้จักชื่อของเธอคนนั้น
แค่เพียงผมได้รู้ว่าเธอเรียนอยู่ห้องไหนก็เป็นสิ่งที่ไม่ยากอีกต่อไป  :smile7:

ในที่สุดผมก็รู้ชื่อของเธอจากเพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นเด็กหอด้วยกันที่เรียนห้องเดียวกันกับสาวเสื้อไหมพรมสีชมพูคนนั้น
เธอชื่อ...นุ่น...ครับ ห้องเรียนของเธออยู่ห่างจากผมไปอีก 3 ห้องครับ
และช่างบังเอิญเหลือเกินที่ เพื่อนสนิทของผมในห้องก็แอบปิ้งกับสาวสวยในห้องเดียวกับเธออยู่เหมือนกัน
ที่เหลือก็แค่ทำอย่างไรผมจะได้รู้จักกับเธอนี่สิครับ
เฮ้อ! นึกๆไปแล้วสมัยนั้นเป็นเรื่องยากเย็นนะครับกับการที่จะเริ่มทำความรู้จักกับใครสักคนที่เป็นเพื่อนต่างเพศ
แต่...
ทุกอย่างเป็นไปได้ครับเมื่อผมเป็นเด็กหอซึ่งมีเพื่อนเรียนอยู่ทุกห้องในชั้นอยู่แล้วนิครับ  022
ก็เริ่มจากการแวะไปทักทายเพื่อนเด็กหอด้วยกันในห้องเธอไงครับ เข้าใจใช่ไหมครับ
จากนั้นเมื่อเพื่อนรู้ก็ไม่ยากที่จะทำความรู้จักกับเธอครับ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 18, 2008, 10:26:15 PM
   "นุ่น นุ่น มีเพื่อนเราคนหนึ่งเค้าอยากรู้จักเธออ่ะ"

เจ้าเพื่อนเด็กหอตัวแสบของผมเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น

   "ใคร? เหรอ" เสียงนุ่นแว่วมากระทบหูผมซึ่งยืนหน้าแดงอยู่
   "เนี่ยะ เพื่อนเราเด็กหอเดียวกับเราชื่อ ก๊ำ อยู่ห้อง..."
   "หวัดดีค่ะ"
   "..." :งง:

สำหรับผมซึ่งกำลังยืนงงกับการกระทำของเจ้าเพื่อนตัวแสบอยู่
มานทำไรของมานฟ่ะ  -17
แลกกับยิ้มหวานๆ ของนุ่นที่มาพร้อมกับเสียงใสของเธอที่ทักทายมา

   "เออ... หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

พร้อมกับยื่นมือขวาออกไปทำไมหว่า นึกว่าเป็นการรู้จักแบบนักธุรกิจมั้ง

   "..."  ????   

นุ่นทำหน้าตาแบบงงๆ ว่าหมอนี่จะมาไม้ไหนเนี๊ยะ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ แต่สุดแสนจะน่ารักของเธอ (ในสายตาผม  :smile8: )
แต่เสียงหัวเราะที่ดังกว่ามาจากเจ้าเพื่อนเด็กหอตัวแสบ ที่ถอยห่างออกไปตั้งหลักวิ่ง (คงรู้ว่าจะมีอะไรตามมา)  -18
ซึ่งแลกมาด้วยความอายอย่างหนักจนแทบอยากวิ่งหนีไปของผม

   "โทษทีครับ ผมลืมตัวไป นี่ครับ"    ผมรีบแก้ไขพร้อมกับยื่นลูกอมฮาร์ทบีทรูปหัวใจออกไปให้กับเธอ
   "อะไรเหรอ"   แน่ะถามได้ก็เห็นๆ อยู่ว่าเป็นอะไร
   "ผมให้ครับ เนื่องในโอกาสที่เราได้รู้จักกัน"
   "ไม่เป็นไรค่ะ ไปก่อนนะค่ะ แล้วเจอกันค่ะ"     :smile8:

เธอเดินจากไป พร้อมกับความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มต้นขึ้นกับสาวเจ้าของเสื้อไหมพรมสีชมพู
ซึ่งยังคงประทับใจในความทรงจำจางๆ ของผมจนถึงทุกวันนี้ :smile4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: อุเทน47 ที่ เมษายน 19, 2008, 10:19:46 AM
เนื้อเรื่องชักเร้าใจ  -11 เปรียบไปก็คล้ายดั่งกับ...
หนังแฟนฉัน ภาค 2 ดีดีนี่เอง
เดี๋ยวชวนหมอริมดอยมาเป็นผู้กำกับ ให้น้าเก่งเขียนบท ตรูจะเป็นผู้อำนวยการสร้าง ให้อาเฮียเป็นนายทุน อิอิ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ เมษายน 20, 2008, 08:32:18 AM
ขอเป็นคนคัดนักแสดงเอง  :smile7:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Mor-Rim-Doi ที่ เมษายน 20, 2008, 07:26:32 PM
ถ้า 'จารคัดนะ
รับรองมีน้อง Aoi กะ Miyabi แหง
แล้วคนไหนเหมือนคุณนุ่นครับ
                            :angry4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 20, 2008, 08:31:35 PM
Miyamoto Mushashi ครับ -04
เอ้ย... ขอ miyabi เป็นน้องปอยครับ
ส่วน นุ่น ขอเป็น น้องอ้อย ก็แล้วกันคร๊าบ

ว๊าก... จะบ้าเหรอ...  -15
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 20, 2008, 08:57:16 PM
มาพักสมองครุ่นคิดเรื่องราวในวันวาน ก่อนจะจบ จากหล่ายดอยสู่รั้วแดงขาวน้ำเงิน ให้อ่านเรื่องนี้ไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกันครับ

คุณของจะงงกันใช่ไหมว่าแล้วสาวน้อยในใจคนแรกของผมอยู่ไหนกันล่ะ
ไหนว่าเริ่มจะมีสัญญาณมิตรภาพเริ่มต้นกันไง จริงๆ แล้วผมกับปอยนั้น ผมก็ได้แต่ติดต่อทางจดหมาย
และแลกรูปถ่ายแทนใจกันไว้ ไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เรียนช่วงมัธยมปลาย
จะมีคุยกันบ้างทางโทรศัพท์นานๆ ครั้งเพราะค่าโทรศัพท์สมัยนั้นก็แพงเอาการอยู่ที่เดียวสำหรับวัยรุ่นอย่างผมซึ่งยังหาเงินเองไม่ได้
และถ้าผมสบโอกาสได้ลงไปกรุงเทพฯ กับใครก็จะได้เพียงโทรหาให้ชื่นใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็แค่นั้นไม่มีอะไรคืบหน้า

วกกลับมาที่สาวเจ้าของเสื้อไหมพรมสีชมพูกันต่อดีกว่าครับ
โอกาสที่ผมจะได้พูดคุยกับนุ่นนั้นเรียกว่าค่อนข้างยากมากๆ ครับได้แต่เฝ้ามองเธอห่างๆ
คอยฝากของไปให้เธอบ้างในบางโอกาส
จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงปลายภาคเรียนนั้นเองที่โอกาสได้เข้ามาหาผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
จำได้ว่าวันนั้นคุณนายแม่เจ้าเก่าของผมอีกนั่นแหละครับ ได้มีบัญชาให้ผมไปหาซื้อของขวัญวันเกิดให้กับคุณตาในเย็นวันหนึ่ง
ทำให้ผมต้องขึ้นรถเมล์หลังเลิกเรียน และความบังเอิญหรือว่าเป็นโชคชะตาของผมที่ทำให้ผมได้พบกับเธอ
และได้นั่งไปด้วยกันบนรถเมล์เจ้ากรรมคันนั้น อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะปกตินุ่นจะมีรถมารับเป็นประจำ

   "หวัดดีครับ นุ่น"
   "อ้าว ก๊ำเหรอทำไมวันนี้ไม่กลับกับรถโรงเรียนล่ะ"    (อุ๊ย! รู้ด้วยว่าเรากลับรถโรงเรียน)
   "พอดี แม่ก๊ำใช้ให้ไปทำธุระนิดหน่อยครับ แล้วนุ่นละทำไมไม่กลับกับรถประจำล่ะ"
   "ช่วงนี้เราไปเรียนเสริมภาษาที่ ... ช่วงเย็นน่ะ"
   "เหรอ ขยันจังเนอะ แล้วนุ่นเรียนถึงไหนแล้วล่ะครับ"
   "เพิ่งเริ่มเรียนเองค่ะ ตอนนี้อยู่ Class 1 อยู่เลย แต่ใกล้จบคอร์สแล้วล่ะ คงต้องหยุดก่อนเพราะใกล้สอบแล้ว ช่วงปิดเทอมก็คงจะลงเรียนต่อน่ะ"
   "อืม... ดีเนอะ ช่วงปิดเทอมเราคงต้องกลับไปช่วยที่บ้านอ่ะนะ เรียนแบบนี้เค้าเรียนอะไรเหรอ"
   "ก็เรียนฝึกพูดกับฟังอ่ะ"
   "น่าสนใจอยู่เหมือนกันเนอะ แล้วเค้าเรียนที่ไหนล่ะ ค่าเรียนแพงหรือปล่าวครับ"
   "ก็ไม่แพงนะ แล้วก็เรียนที่โรงเรียน... น่ะ"    โอ้ว!!! ถิ่นเสือเลยนะนั่นนะโรงเรียนที่ว่านะ อริทางด้านกีฬากับโรงเรียนผมเลยอ่ะดิ
   "ดีเนอะ แล้วคอร์สใหม่เค้าจะเริ่มรับสมัครกับเรียนเมื่อไหร่ล่ะ"
   "สมัครก็คงช่วงเดือนหน้า เริ่มเรียนก็หลังเราสอบเสร็จพอดีแหละ แล้วก๊ำจะไปทำธุระแถวไหนล่ะ"
   "ก็แถวๆ ตลาดต้นลำใยครับ"
   "ก็เกือบถึงแล้วซิ"    (ทำไมวันนี้รถมันไม่ติดเลยอ่ะ  :no: เฮ้อ!!!)
   "ครับ ป้ายหน้าก็ต้องลงแล้วล่ะ"
   "อืม... แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ"
   "ครับ"

ผมลงรถเมล์พร้อมทั้งนึกถึงปิดเทอมที่จะมาถึงและการเรียนเสริมภาษาของผมไว้ในใจ
ฮึ ฮึ ต้องรีบทำธุระของคุณนายแม่ให้เสร็จ แล้วรายงานผลพร้อมทั้งขออนุมัติในการเรียนเสริม อุ อุ ......
แน่นอนครับเมื่อผมรายงานผลการทำธุระ และขออนุมัติในช่วงวันหยุดที่ผมกลับบ้าน
ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ผมคิด คุณนายแม่อนุญาตอย่างทันใจ และให้ไปสมัครได้เลย
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ เมษายน 20, 2008, 09:00:15 PM
อุอุอุ  -021 พี่หมอ ป๋มมีเด็กที่มี.......แบบน้อง Aoi อยู่ที่นั่นอยู่แล้ว  -021 -021 -021 เดี๋ยวจะไปพามาเป็นดารา  :smile10:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 20, 2008, 09:14:52 PM
 -07 เสียวแว๊บ กลับไปดูที่ save เอาไว้ปรากฎว่าต้นฉบับหายไปครึ่งเรื่อง  -14
โชคดีที่สำรอง file ไว้ ไม่งั้น  -08 เพื่อนหมออารมณ์ค้างอีกแน่ๆ  -09
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 21, 2008, 08:54:11 PM
ไม่รอช้าครับผมชวนเจ้า ...ชิด... เพื่อนสนิทผมที่คบกันมาตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนที่นี่
ชิดเป็นลูกครึ่งครับเป็นเหมือนเพื่อนตายของผมก็ว่าได้ และยังจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของผมไปอีกนานทีเดียวครับ

   "เฮ้ย... ชิด ปิดเทอมนี้คิงว่างป่ะ"
   "ทำไมเหรอก๊ำ"
   "อ๋อ พอดีว่างๆ ว่าจะชวนคิงไปเรียนเสริมภาษาที่ ...."
   "เฮ้ย... ไม่สบายหรือปล่าวว่ะเพื่อน นึกไงถึงจะไปเรียนเสริมว่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจนี่หว่า"
   "พอดี ฮาอ่อนภาษานิ คิงก็รู้นี่หว่า แต่คิงเก่งอยู่แล้ว ไปส่งฮาเฉยๆ ก็ได้เพื่อน"
   "แต่ฮาว่าก็น่าสนนะ เอาเหอะเดี๋ยวฮาไปเรียนเป็นเพื่อนคิงก็ได้ ไม่เป็นไร แต่แน่ใจนะเพื่อนว่าอยากเรียนจริงๆ อ่ะ"
   "ทำไมล่ะก็ฮาอยากเรียนจริงๆ นี่หว่า"
   "เฮ้ย...นึกออกแล้ววันก่อนคิงบอกว่า นุ่น เรียนอยู่นี่หว่า ใช่ป่ะ อยากเรียนตามสาวนี่หว่า อย่ามาหลอกฮาดีกว่า"
   "ก็ได้เพื่อนว่ะ งั้นแหละ เดี๋ยวเขาจะรับสมัครอาทิตย์หน้าไปด้วยกันนะเพื่อน"
   "ได้ดิ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าวันจันทร์หลังเลิกเรียนเราไปสมัครด้วยกัน"

เย็นวันจันทร์ผมก็ได้ไปสมัครเรียนยังสถาบันภาษาแห่งนั้น
พร้อมทั้งมีการสอบสัมภาษณ์จากอาจารย์ฝรั่งเจ้าของภาษา
ซึ่งปรากฎว่าผมได้เรียน Class 2 ห้อง A ครับ
แต่เจ้าชิดเพื่อนผมได้พาสชั้นไป Class 8 ครับ
ซึ่งจากตรงนี้เองทำให้เจ้าชิดพบกับ Destiny ของตัวเองเมื่อได้พบกับสาวหน้าตาน่ารักต่างโรงเรียน
นำพาให้พบและรู้จักคำว่า "ความรักฝังใจ" เป็นครั้งแรก
ซึ่งยังประทับอยู่ในความทรงจำจางๆ ของมันจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อมีโอกาสได้เจอกันผมมักจะแซวมันในเรื่องนี้อยู่เสมอ
และจะด้วยเพราะเหตุบังเอิญหรือว่า Destiny จะเล่นตลกกับมันหรือเปล่าก็ไม่รู้ทำให้ผมเองได้รู้จักกับสาวน้อยของมันคนนี้
และครั้งหนึ่งเธอได้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ก็ว่าได้ เอาไว้เมื่อถึงเวลาผมจะเล่าให้ฟังครับ

นอกเรื่องไปอีกแล้วครับ กลับมาที่เรื่องของผมกันต่อดีกว่า
ถึงไหนแล้ว อ๋อ...ใช่แล้วผมได้เรียน Class 2 แล้วนี่ผมจะได้เรียนห้องเดียวกับนุ่นหรือปล่าวละเนี้ยะ
ผมได้แต่ภาวนา เพราะในช่วงเวลาหลังจากนั้นผมแทบจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับนุ่นอีกเลย
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Mor-Rim-Doi ที่ เมษายน 22, 2008, 12:19:27 AM
ว๊า...ขาดตอนอีกแล้ว
ถือโอกาสฝากคำถามคั่นเวลาหน่อยนะ

1.วันที่บังเอิญได้นั่งรถเมล์ด้วยกัน
   เจือกรีบลงที่ตลาดทำไมครับ?

2.ตอนที่รู้ว่าเจ้าชิดเพื่อนรัก
   มันสอบได้ระดับ 8
   แล้วเราได้ระดับ 2 เนี่ย
   ยังมีหน้าไปคบเขาได้หรือครับ?
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 22, 2008, 08:16:44 AM
ว๊า...ขาดตอนอีกแล้ว
ถือโอกาสฝากคำถามคั่นเวลาหน่อยนะ

1.วันที่บังเอิญได้นั่งรถเมล์ด้วยกัน
   เจือกรีบลงที่ตลาดทำไมครับ?

2.ตอนที่รู้ว่าเจ้าชิดเพื่อนรัก
   มันสอบได้ระดับ 8
   แล้วเราได้ระดับ 2 เนี่ย
   ยังมีหน้าไปคบเขาได้หรือครับ?
ตอบ
1. คือว่ามันต้องลงอ่ะครับ บอกเค้าไว้แล้วง่ะ แล้วตอนนั้นมันยังอ่อนง่ะ
2. มานเก่ง แต่ผมพื้นฐานไม่แข็งแรง แต่สุดท้ายก็...
    เอาน่าอดทนฟังต่อไปก่อนนะ เดี๋ยวจะกลายเป็น spoil ไปซะ
เออ... ตกลงมันเรื่องจริงเรื่องแต่งฟ่ะ ไหงกลายเป็นตรูไปแล้วง่ะ  เอื้อก.... -09  -14
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ เมษายน 22, 2008, 08:34:45 PM
 -01
เรื่องราวยาวนานขนาดนั้นเรยยย
............
ถึงว่า
กูก็ว่ามึงอ่านหนังสือ
จนหัวโต๊โต
ทำไมไม่มีกระจิตกระใจสอบ
...........
โอววว
I get it
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 22, 2008, 08:37:56 PM
เมื่อปิดเทอมฤดูร้อนมาถึง ก็ได้เวลาเรียนเสริมภาษากันแล้ว
ผมได้แต่ไปที่เรียนพร้อมทั้งนึกภาวนาในใจให้ผมได้เรียนห้องเดียวกับนุ่น
เพราะอย่างน้อยในช่วงปิดเทอมนี้ก็ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียนมาคอยจับตามองเราอยู่
เมื่อถึงเวลาเรียนผมเดินเข้าห้องเรียนพร้อมกับสอดสายตามองหาเธอ เฮ้อ!!! ไม่มี...แต่แล้ว...

   "ก๊ำ..." ใช่แล้วครับ นุ่น ครับ เธอเดินมาข้างหลังผม
   "อ้าว...นุ่น เรียนห้องไหนเหรอ"    ผมหันกลับไปถาม พร้อมกับหัวใจที่พองโต
   "ก็ห้องนี้แหละ Class 2 ห้อง A แล้วก๊ำละมาเรียนเหมือนกันเหรอ"  

และนี่ใช่ Destiny หรือปล่าวนะที่ทำให้ผมได้บังเอิญมาเรียนห้องเดียวกับเธอ :love:

   "ครับ ก็วันก่อนที่คุยกับนุ่นไง ก็เห็นว่าน่าสนใจดี ก็เลยไปสมัครดูครับ"
   "แล้วก๊ำเรียน Class ไหนล่ะ"
   "Class 2 ห้อง A แหละ"
   "อ้าว...ห้องเดียวกันเลยสิ เก่งเนอะไปสอบแล้วได้พาสเลยน่ะ"
   "ฟลุ๊คมากกว่านะ พอดีอาจารย์เค้าถามไม่ค่อยยากครับ"
   "ดีสิ จะได้มีเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกัน"
   "ครับ"
   "แล้วนั่งใกล้ๆ กันไหม"
   "ได้ครับ"  ใครละจะปฏิเสธ ก็ในเมื่อเราอุตส่าห์ตามเค้ามาเรียนซะขนาดนี้แล้ว  :smile3:

ช่วงเวลานั้นนับได้ว่าเป็นเวลาที่มีความสุขช่วงหนึ่งในชีวิตวัยรุ่นของผม
เรามีเวลาคุยกันทุกวัน ส่วนใหญ่ผมเองก็ว่างอยู่แล้วมักจะนั่งคุยกับนุ่นหลังเลิกเรียนจนเย็น
รอจนกว่าพ่อของนุ่นจะมารับบ้าง หรือว่าบางทีก็รอเพื่อนนุ่นที่บ้านอยู่ใกล้กันเลิกเรียนบ้าง
ก็นับได้ว่าเราเริ่มคุ้นเคยและรู้จักกันมากขึ้น แต่แล้ว....







































ว่ากันว่าเวลาของความสุขนั้นมักจะอยู่กับเราไม่นาน  :cry7:
เมื่อเวลาปิดคอร์สใกล้เข้ามา เวลาและโอกาสที่ผมจะได้ใกล้ชิดกับเธอแบบนี้ก็จะสิ้นสุดลงในไม่ช้า
เมื่อถึงเวลาเปิดเทอมผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะได้พูดคุยกันแบบนี้อีกต่อไปหรือไม่
เราจะยังได้ใกล้ชิดกันแบบนี้อีกหรือเปล่าผมไม่มั่นใจ เพราะความที่เราไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน
และแทบไม่มีกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกันให้ได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้อีก.... -08
      
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 22, 2008, 08:45:43 PM
-01
เรื่องราวยาวนานขนาดนั้นเรยยย
............
ถึงว่า
กูก็ว่ามึงอ่านหนังสือ
จนหัวโต๊โต
ทำไมไม่มีกระจิตกระใจสอบ
...........
โอววว
I get it
นั่นดิ แต่ว่ามันก็เป็นความทรงจำดีๆ นะใหญ่  -08
วันนี้ต่อยาวไปให้จบเรื่องสาวเสื้อไหมพรมสีชมพูเลยก็แล้วกันนะ

คนเราเมื่อเวลาที่มีความสุขผ่านเข้ามาในชีวิตก็ควรที่จะรีบเก็บเอาความทรงจำดีๆ ที่ผ่านเข้ามาไว้ให้มากที่สุด
หลังจากจบคอร์สนั้น ผมก็ไม่มีโอกาสได้เรียนเสริมภาษาอีก เพราะความที่เป็นเด็กหอ
ทำให้ไม่สามารถไปเรียนในช่วงเย็นได้ในช่วงเปิดเทอม
แล้วช่วงเวลาดีๆ ของผมกับนุ่นก็ได้สิ้นสุดลง
คงเป็นที่ผมไม่กล้า อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างในช่วงเวลานั้น
ทำให้ผมได้แต่เก็บเธอเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ ในใจตลอดมา Destiny ระหว่างผมและเธอดำเนินมาได้เพียงเท่านี้จริงๆ ครับ  -08

เมื่อเปิดเทอมใหม่ชั้น ม.5 มาถึงทุกอย่างผ่านไปอย่างแทบจะไม่มีอะไรมากมายเลย
ผมกับนุ่นเราเริ่มห่างๆ กันเพราะความที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน
เธอเข้ากลุ่มกิจกรรมวาดรูป ส่วนผมเป็นพวกใช้แรงงานทำกิจกรรมด้านงานเกษตร
ผมได้แต่แอบมองเธออยู่ห่างๆ เวลาที่เดินสวนกันก็ได้แต่ยิ้มให้ และเฝ้าแอบมองเธอจากที่ต่างๆ

และเมื่อฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง
ผมก็ได้แต่เฝ้ามองเสื้อกันหนาวไหมพรมสีชมพูตัวนั้นโลดแล่นไปตามที่ต่างๆ ในโรงเรียนอย่างเงียบๆ  คนเดียว -02 -09
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 23, 2008, 08:46:33 PM
จนกระทั่งเมื่อขึ้นชั้น ม.6 คุณนายแม่ที่แสนดีของผมก็ได้นำผมออกมาจากชีวิตเด็กหอหลังจากที่ใช้ชีวิตแบบนี้มาร่วม 8 ปี
โดยได้ให้เหตุผลว่าน้องสาวตัวดีของผมก็อยู่หอเหมือนกันทำให้ค่าใช้จ่ายสูง
แล้วเงินที่ส่งผมและน้องสาวหากนำมารวมกันแล้วเช่าบ้านให้อยู่ยังจะถูกกว่าอีก

ว่าแต่ว่าคุณยังจำสาวน้อยของเจ้าชิดเพื่อนผมได้หรือปล่าวครับ
ใช่แล้วครับเหตุบังเอิญที่ว่าก็คือบ้านเช่าของผมอยู่ติดกับบ้านของสาวเจ้าพอดีนะสิครับ
ทำให้เจ้าชิดแวะเวียนมาที่บ้านผมอยู่บ่อยๆ และก็เจ้าเพื่อนผมคนนี้แหละที่ช่วยเหลือผมอีกหลายต่อหลายครั้งในเวลาต่อมา
รวมถึงสาวน้อยของมันด้วยที่ได้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ครั้งหนึ่ง แล้วผมจะเล่าให้ฟังเมื่อถึงเวลา

มาต่อเรื่องของผมดีกว่า อย่างที่บอกเอาไว้แล้วว่าช่วงชั้น ม.6 ของผมเป็นช่วงที่ผมออกมาอยู่บ้านเช่าทำให้มีอิสระมากขึ้น
แม้ว่าจะอยู่กันตามลำพังกับน้องสาวแค่ 2 คนก็ตาม
แล้วเจ้า Destiny เกลอก็ได้เล่นกลกับผมอีกครั้งให้ผมได้มาพบกับใครอีกคนในวันหนึ่งช่วงพักกลางวันที่โรงอาหาร
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 23, 2008, 08:54:00 PM
   "พี่ก๊ำ..."   ใครหว่ามาเรียกเราเสียงมาจากข้างหลังแถวที่ผมกำลังต่อคิวซื้อน้ำ ผมหันหน้ากลับมาอย่าง งงๆ
   "...เออ..."   ???? ผมมองสาวน้อยน่าตาน่ารักที่ยืนอยู่ข้างหลังผมแบบงงมากๆ ครับ
   "พี่ก๊ำช่วยซื้อน้ำส้มให้ด้วยสิ"   พูดพร้อมกับยื่นเงินให้ผมพร้อมกับคว้าจานข้าวในมือผมไปด้วยอ่ะ  ????
   "ครับ"    ผมรับเงินมาพร้อมกับนึกอยู่ในใจใครว่ะ  ????
   "นี่...ครับ ได้แล้วครับ"
   "พี่ช่วยไปหยิบช้อนกับส้อมให้ด้วยสัก 2-3 คู่นะเดี๋ยวจะไปรอที่โต๊ะนะ"  ????

   "เฮ้ย...ก๊ำ ใครว่ะ หน้าตาน่ารักดีนี่หว่า"  เสียงเจ้าชิดเพื่อนสนิทของผมแว่วมา
   "ฮาไม่รู้เหมือนกันว่ะ งงๆ อยู่เนี๊ยะ มาใช้ฮาซื้อน้ำ เอาจานข้าวฮาไปแล้วยังให้ไปเอาช้อนส้อมแล้วบอกว่าจะไปนั่งรอที่โต๊ะ"
   "จริงอ่ะ ไม่ใช่ไปแอบรู้จักแล้วไม่บอกฮานะโว้ย"
   "ไม่รู้จริงๆ โว้ยจะหลอกคิงไปทำไมว่ะ เดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันที่โต๊ะที่น้องเค้ารออยู่ดิก็รู้เอง"
   "ม่ายเอาอ่ะ น้องเค้าชวนคิง ไม่ได้ชวนฮา ไม่อยากเป็น กขค. ใครว่ะ"
   "เฮ้ยน่าไปด้วยกันเฮอะ"
   "ไม่ไปโว้ย เด็กคิง คิงก็ไปคนเดียวดิ น้องเค้าไม่ได้ชวนฮาซะที่ไหนอ่ะ"
   "เวร ดันงอนซะงั้น"  -17 (อันนี้ได้แต่คิดในใจครับ)
   
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 24, 2008, 09:04:56 AM
   "น้อง..."   ผมเดินไปถึงที่โต๊ะที่น้องเขานั่งรออยู่อย่างสบายอารมณ์พร้อมกับเจ้าน้องรหัส ม.4 ของผม ซึ่งผมได้แต่มองหน้าเจ้าน้องรหัสตัวดีแบบฝากไว้ก่อนเถอะเอ็ง
   "พี่ก๊ำค่ะ นี่นุ้ย เพื่อนเดือนเองแหละ"  เสียงแนะนำตัวจากเจ้าเดือนน้องรหัสตัวแสบ
   "หวัดดีครับน้องนุ้ย พี่กำลังงงอยู่เลยว่าเป็นใคร แสบนักนะเจ้าเดือน"
   "หวัดดีค่ะ พี่ก๊ำ" นุ้ยทักทายมาอีกครั้ง
   "แหมพี่ก็อำกันเล่นๆ นิดเดียวเอง อุตส่าห์หาสาวหน้าตาน่ารักมาฝากนะ อีกอย่างนุ้ยก็ไม่ใช่ใคร เป็นพี่สาวของน้องสาวพี่ที่โรงเรียนเก่าเค้าด้วยอ่ะ"  เจ้าเดือนแนะนำตัวอย่างไม่เว้นวรรค
   "จริงเหรอครับ นุ้ยที่รู้จักน้องหน่องด้วย"
   "ค่ะ น้องหน่องเป็นน้องสาวหรือน้องรหัสนุ้ยที่โรงเรียนเก่าค่ะ"
   "แล้วนุ้ยเรียนห้องไหนล่ะครับ"
   "แหม ก็ห้องเดียวกับเดือนแหละไม่เห็นเหรอวันที่จับพี่รหัสน้องรหัสอ่ะ รู้แล้วสงสัยมัวแต่มองแจ๋วที่เป็นน้องรหัสพี่อีกคนอยู่ละสิ"  เสียงเจ้าเดือนแทรกเข้ามา
   "อ้าวเหรอ แล้วนุ้ยเป็นน้องรหัสใครล่ะ"
   "ก็พี่ชิดไงค่ะ เพื่อนพี่ไง ตะกี๊ยังเห็นคุยกันอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ชวนมานั่งด้วยกันล่ะค่ะ"
   "เฮ้ย จริงดิ ไม่เห็นมันบอกพี่ว่านุ้ยเป็นน้องรหัสมันอ่ะ"  โอ๊ยเจ้าชิดทำผมอีกแล้ว

ไอ้นี่เดี๋ยวก่อนเถอะเอ็ง ผมมองหามัน แล้วก็เจอมันกำลังมองมาพร้อมทั้งยักคิ้วล้อเลียน
พร้อมทั้งทำท่าหัวเราะเยาะแบบไม่มีเสียงอยู่ที่โต๊ะไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

   "เค้าก็คงอยากแกล้งพี่อีกคนดิ จะมีอะไร คนอะไรไม่รู้วันๆ ทำหน้ายังกับเซ็งชีวิต" เสียงเจ้าเดือนแซวมา
   "แหม ก็รู้อยู่ว่าพี่อยู่ ม.6 แล้วจบจากนี่จะไปเรียนต่อที่ไหนก็ยังไม่รู้เลยมันก็ต้องคิดสิ"   

ความจริงแล้วผมเองยังทำใจไม่ได้กับเรื่องของนุ่นมากกว่ามันเป็นอะไรที่เรียกได้ว่า "ความรู้สึกของคำว่ารักครั้งแรก" ที่จบลงอย่างไม่ได้เริ่มต้น
มันทำให้ผมรู้สึกเบื่อๆ เซ็งๆ อยากจบจากที่นี่ไปเร็วๆ จะได้ไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เผื่อว่าจะได้พบกับปอยอีกครั้ง

   "โธ่ พี่กว่าจะสอบโค้วต้ากับเอ็นทรานส์ก็อีกตั้งนาน นี่ก็เพิ่งจะเปิดเทอมแรกได้แค่ 3 อาทิตย์เอง"
   "แหม ก็ถ้าเราไม่เตรียมตัวไว้ก่อนก็ไม่ได้สิ อัตราส่วนคนสอบกับคนที่ได้ตั้ง 1 ต่อ 200 นะ"
   "เอาเหอะพี่ แหมเนี้ยะอย่าพูดเรื่องซีเรียสเลย อุตส่าห์พาสาวน่ารักมาให้รู้จักก็คุยกับเค้าบ้างดิ"
   "เอ้าเอากับเขาดิ ทั้งเจ้าน้องรหัสตัวดี กับเพื่อนตัวแสบรวมหัวกันแกล้งเราซะงั้น" ผมได้แต่นึกในใจเงียบๆ
   "แล้วเดือนกับนุ้ยเลือกชมรมหรือยังล่ะ"
   "เลือกแล้ว เดือนเลือกชมรมวิทย์นะ ส่วนนุ้ยเค้าเลือกชมรมฝึกพูดที่พี่เป็นรองหัวหน้าชมรมอยู่นั่นแหละ"
   "อ้าวเหรอ"  ผมทำหน้างงอีกครั้ง  "ทำไมพี่ไม่เห็นเราที่ชมรมเลยล่ะ"
   "ก็พอดีนุ้ยเพิ่งจะตัดสินใจได้เองค่ะ เนี๊ยะวันนี้ชั่วโมงกิจกรรมก็ว่าจะไปสมัครอยู่ค่ะ"
   "ได้สิ เดี๋ยวไปสมัครกับพี่ก็ได้นะ"
   "ค่ะ"
   "แหม คราวนี้ไม่สนน้องรหัสเลยดิ คุยอยู่แต่กับเพื่อนน้องรหัสอยู่ได้ คนเราเนอะ"
   "อ้าว ก็อยากให้พี่รู้จักเพื่อนเราไม่ใช่ เหรอ อิ่มกันหรือยังล่ะ"
   "ค่ะ"  สองสาวตอบขึ้นอย่างพร้อมกัน
   "งั้น เดี๋ยวจะไปไหนกันต่อละ"
   "ก็กะว่าจะไปห้องสมุดกันอ่ะพี่  พี่ก๊ำไปด้วยกันป่ะ"  เจ้าเดือนชวน
   "ม่ายเอาอ่ะ ไอ้ชิดมันรอพี่อยู่โน้นแล้ว (เดี๋ยวไปเตะมันก่อนนะ อันนี้ต่อในใจครับ)"
   "โอเคค่ะ แล้วเจอกันชั่วโมงกิจกรรมนะค่ะ"  นุ้ยบอกลาแล้วเดินไปพร้อมกับเจ้าเดือน

แล้วมิตรภาพระหว่างผมกับน้องนุ้ยก็เริ่มต้นขึ้น ความที่นุ้ยเป็นน้องรหัสเจ้าชิด และเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าเดือนน้องรหัสผม
ทั้งยังอยุ่ชมรมฝึกพูดด้วยกันอีกทำให้เรามีเวลาใกล้ชิดกันมากขึ้น
มีเวลาพูดคุยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในชมรม รวมทั้งช่วยสอนในบางวิชาที่น้องเขาไม่เข้าใจ
ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ โดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่กล้าเอ่ยความในใจออกมา ได้แต่รับรู้กันด้วยใจ...
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 24, 2008, 09:07:18 AM
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ผมก็บังเอิญได้รับโอกาสในการต้อนรับอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเดินทางมาเยี่ยมท่านอธิการของโรงเรียนผม
เนื่องจากว่าท่านอธิการได้ย้ายมาจากวิทยาลัยในเครือของโรงเรียนที่ผมเรียนอยู่
และท่านได้ชักชวน พร้อมทั้งแนะนำผมให้ไปเรียนต่อที่วิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ดี มีชื่อเสียงมาก
และข้อสำคัญที่ทำให้ผมสนใจมากๆ คือมีสาขาการบัญชีที่ผมอยากเรียนอยู่ด้วย และที่สำคัญกว่าคืออยู่ กรุงเทพฯ
ทำให้ผมจะมีโอกาสได้พบกับปอยอีกครั้ง
แต่ขณะเดียวกันก็จะทำให้ผมต้องห่างจากนุ้ยไปทั้งที่ความสัมพันธ์ระหว่างเรากำลังพํฒนาขึ้นเรื่อยๆ  (แล้วผมจะทำไงดีเนี้ยะ)  :no:

แต่โอกาสที่ผมจะได้เรียนที่วิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ แห่งนั้นมีค่อนข้างน้อยในเมื่อมีข้อแม้ว่า
ผมจะต้องสอบโควต้าไม่ติด และเอนทรานส์ไม่ได้ด้วย อีกทั้งวิทยาลัยแห่งนั้นยังอยู่ที่กรุงเทพฯ
และที่สำคัญค่าใช้จ่ายก็ถือว่าเอาการอยู่ สำหรับเด็กบ้านนอกอย่างผม "เฮ้อ! ทำไงดีอีกละเนี้ยะครับ"  -25
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ เมษายน 25, 2008, 08:35:07 PM
อือม
ชีวิตช่วงนั้นมีค่าจริงๆเนาะ
ความวุ่นวายต่ำ
วันๆ มีเวลาทำนั่นทำนี่เยอะ
ได้ไปแอ่วน้ำตกบ่อยๆ
ไปโป่งเดือด
....
และอีกมากมาย
ย้อนไปบ่ได้
แต่อู้ถึงได้อยู่เนาะ
 -08
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 28, 2008, 09:14:06 PM
เวลาผ่านไปพร้อมกับที่การสอบโควต้าใกล้เข้ามา และก่อนสอบโควต้าอาทิตย์เดียวก็มีเหตุให้ผมต้องเข้าไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซะได้  -14
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวนี้แหละคนที่นำผมส่งโรงพยาบาลขณะที่ผมปวดท้องอย่างแสนสาหัสนั้นก็คือ
แม่สาวน้อยร้อยชั่งข้างบ้านของเจ้าชิดเพื่อนสนิทผมนั่นเอง
นี่แหละครับผมถึงได้บอกว่าเธอคนนี้แหละที่มีบุญคุณช่วยผมเอาไว้ในยามยาก

หนังสือหนังหาไม่ได้อ่านแล้วละในช่วงที่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล  ระหว่างนั้นเองการเจรจาระหว่างผมกับคุณนายแม่ก็เริ่มขึ้น

   "แม่ครับ ก๊ำไม่ได้อ่านหนังสือเลยอ่ะ ไม่รู้ว่าจะสอบโควต้าได้หรือปล่าวอ่ะ"
   "ไม่เป็นไร หรอกลูกก็เราไม่สบายนี่นา แม่ไม่ว่าอะไรหรอก ยังมีสอบเอนทรานส์อีกไม่ใช่เหรอ"
   "ก๊ำก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะเอนทรานส์อ่ะ ผลการเรียนก๊ำไม่ค่อยดีเลยอ่ะ"
   "ยังมีเวลาอ่านหนังสืออีกตั้งนาน นี่เพิ่งเดือนมกรา กว่าจะเอนทรานส์ก็เดือนเมษาไม่ใช่เหรอ"
   "ก๊ำอยากหาที่เรียนที่อื่นเผื่อไว้ด้วยแม่ว่าดีหรือปล่าวครับ"
   "แล้วลูกอยากเรียนที่ไหนเหรอ"
   "พอดีที่โรงเรียนเค้าจะรับสมัครให้วิทยาลัย... เป็นวิทยาลัยในเครือเดียวกับของโรงเรียนที่ก๊ำเรียน แล้วมีเพื่อนก๊ำอีกหลายคนว่าจะสมัคร แล้วลงไปสอบด้วยกันที่กรุงเทพฯ ก๊ำจะลองสมัครแม่ว่าไงครับ"
   "ก็ได้ไว้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเดี๋ยวแม่จะให้เงินค่าสมัครก็แล้วกัน ตอนนี้พักผ่อนรักษาตัวก่อนนะ"
   "ครับ" ผมรับคำพร้อมกับนึกในใจว่า "แล้วออกจากโรงพยาบาลตูจะได้สมัครจริงหรือเปล่าง่ะ" ????

เมื่อวันที่ผมออกจากโรงพยาบาลก่อนสอบโควต้า 2 วันนั้นเอง
คุณนายแม่ก็เมตตาให้เงินค่าสมัครสอบกับผมมา พร้อมทั้งย้ำให้ผมตั้งใจทำข้อสอบโควต้าเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปไกลท่านอีก
และแถมสัญญาตบท้ายด้วยว่าถ้าผมสามารถสอบโควต้าได้ท่านจะมีรางวัลใหญ่เป็นกรณีพิเศษให้ด้วย
ฮึ! ใครจะไปสนอ่ะในเมื่อใจผมเริ่มลอยไปไกลถึงกรุงเทพฯ เมืองฟ้าซะแล้วนิ  :laugh2:

การสอบโควต้าผ่านไปด้วยดี และกว่าจะประกาศผลก็อีกหลายอาทิตย์
ระหว่างนั้นผมเองก็แอบภาวนาในใจลึกๆ ให้สอบไม่ติด (เอากับเขาสิเอ้า)
ความสัมพันธ์ของผมกับน้องนุ้ยก็ยังเป็นไปได้ด้วยดี
แต่ด้วยใจของผมที่เริ่มจะล่องลอยไปถึงกรุงเทพฯ เสมอ
ทำให้ผมเริ่มคิดหนักขึ้นว่าควรจะทำอย่างไรดี อีกทั้งช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต
ทำให้ผมต้องตัดสินใจเลือกว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์กับน้องนุ้ยให้มากขึ้นหรือว่าจะยุติความสัมพันธ์เอาไว้แค่เพียงน้องสาว  :no:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 02, 2008, 10:01:15 PM
อืม...คนอ่านท่าจะก้ายกันแล้วก่าหา หว่างนี้มันขี้คร้านไปหมดกู้อย่างแต้ๆ นา  -25
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 03, 2008, 03:56:23 PM
มัน ดี
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:26:26 AM
ดีครับ เฮียติดตามอยู่นี่เอง เอาล่ะปล่อยต่อไปดีกว่าเนอะ  -08

แต่แล้วเหมือนเจ้า Destiny จะได้ลิขิตชีวิตล่วงหน้าเอาไว้ให้ผม เมื่อวันประกาศผลสอบโควต้ามาถึงในกลางเดือนกุมภาพันธ์ ผลเหรอครับ...
ใช่แล้วครับ ผมสอบไม่ติดครับ นั่นทำให้ผมได้ตัดสินใจง่ายขึ้น แต่ก่อนอื่นผมต้องรีบแจ้งข่าวไปให้คุณนายแม่รับทราบทันทีเป็นอันดับแรก

   "แม่คร๊าบ ก๊ำสอบโควต้าไม่ติดอ่ะ"
   "ไม่เป็นไรลูก ยังมีเอนทรานส์อีกไม่ใช่เหรอ" เสียงคุณนายแม่ลอยมาตามสาย
   "ครับแม่ แต่ว่าก๊ำจะไปสมัครสอบวิทยาลัย... ที่เราเคยคุยกันไว้นะครับ"
   "ก็ลองไปสอบดูก่อนก็แล้วกันนะลูก"
   "ครับ" ผมรับคำพร้อมกับใจที่หวังเต็มเปี่ยมว่าจะต้องสอบให้ติดให้ได้ จะได้เรียนหรือไม่ได้เรียนค่อยมาลุ้นกันอีกที ฮึ!!!

ผมไม่รอช้ารีบทำการสมัครเมื่อโรงเรียนเริ่มมีการรับสมัครสอบทันที แต่ตอนสอบนี่สิต้องลงไปสอบที่กรุงเทพฯ
โชคดีครับที่มีเพื่อนๆ ของผมหลายคนลงไปสอบด้วยกันก็ช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นไม่ต้องกังวลมากนัก
แต่ก็ต้องรอผลสอบไปอีกช่วงหนึ่งใหญ่ๆ และระหว่างนั้นผมก็เริ่มทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างผมกับน้องนุ้ยมากขึ้นว่าจะให้เป็นไปในรูปใดต่อไป
และถ้าต้องยุติความสัมพันธ์ลงผมจะทำหรือพูดให้น้องเขาเข้าใจได้อย่างไร
ด้วยความลังเลนี้เอง ทำให้ในเวลาต่อมามีเรื่องที่ทำให้ผมต้องรู้สึกผิดมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้....

หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:29:21 AM
ระหว่างที่รอผลสอบของวิทยาลัยแห่งนั้นเองการสอบเอ็นทรานส์ก็เริ่มต้นขึ้น
ผมเข้าสอบด้วยความไม่มั่นใจ ต่างจากการสอบเข้าวิทยาลัย...
เพราะการสอบเข้าวิทยาลัยแห่งนั้นสอบแค่เพียง 2 วิชา ก็คือ เลข และภาษาอังกฤษ ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าทำได้
ส่วนการสอบเอ็นทรานส์นั้นต้องสอบถึง 5 วิชา นอกจากนี้คณะที่ผมเลือกเอาไว้คะแนนค่อนข้างจะสูงเอาการ
ดังนั้นผมจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าจะสอบได้ ซึ่งผมเฝ้าภาวนาให้เป็นอย่างนั้นซะมากกว่า
เพราะใจที่ล่องลอยไปหวังที่จะได้ไปเรียนที่ กรุงเทพฯ ซะมากกว่า

ช่วงเวลาที่รอผลสอบเอ็นทรานส์อยู่นั้นเอง เจ้า Destiny เกลอเก่าก็ได้กำหนดชีวิตผมต่อไปให้ห่างบ้านออกไปอีก
เมื่อเวลาของการประกาศผลสอบวิทยาลัยแห่งนั้นมาถึงด้วยความประหลาดใจในเช้าวันหนึ่ง

เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของผมมาบอกผลให้ผมรู้ว่า...

   "เฮ้ย!!! ก๊ำ ตื่นยังว่ะ"
   "ตื่นแล้วโว้ย มีอะไรว่ะ มาแต่เช้าเลยนะเพื่อน ใครเป็นอะไรเหรอ"
   "ไม่มีใครเป็นอะไรหรอก เจ้าชิดมันโทรมาบอกฮาที่บ้านโว้ย ว่าคิงสอบติดวิทยาลัย...นะ"
   "เหรอ แล้วเค้าจะมอบตัวกับสอบสัมภาษณ์เมื่อไหร่ว่ะ"
   "มันบอกว่าวันนี้ว่ะเพื่อน"
   "เฮ้ย! จริงดิ"
   "ก็จริงดิว่ะ มันฝากบอกด้วยว่าเอ็งต้องหาทางลงไปรายงานตัวให้ทันนะโว้ย"
   "ชิบ... แล้วฮาจะทำอย่างไรดีว่ะ" 

เอาแล้วไงผมจะทำอย่างไรดีครับ ดีที่ว่าเจ้าเพื่อนผมคนนี้มาบอกตั้งแต่ 7 โมงเช้า ยังพอมีเวลาคิด
ผมเองก็อยากเรียนเป็นอย่างยิ่งซะด้วยซิ

   "นายว่างป่ะ เดี๋ยวไปส่งฮาโทรศัพท์ที่หน้าปากซอยทีดิ"  ผมรีบถามเจ้าเพื่อนที่มาส่งข่าว

หลังจากนั้นเจ้าเพื่อนก็ควบแมงกะไซด์ไปส่งผมที่ตู้โทรศัพท์หน้าปากซอย
เพื่อให้ผมได้ทำการเจรจากับคุณพ่อที่เคารพ และคุณนายแม่ที่รักอย่างรวดเร็ว
สำหรับรายละเอียดในการเจรจาผม ขออนุญาตไม่พูดถึงนะครับ
เนื่องจากเกรงว่าอาจมีเยาวชนนำไปเป็นแบบอย่างในการต่อรองกับผู้ปกครองได้ 
แต่ผลการเจรจามาพร้อมกับที่คุณนายแม่บึ่งรถเข้ามาหาผม พร้อมนำเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และมอบตัวมาส่งให้ในช่วงสายของวันนั้น
พร้อมกับไปส่งผมที่สนามบินเพื่อขึ้นเครื่องบินเดินทางไปมอบตัวกับทางราชการ อุ๊บ! ไม่ใช่ครับ กับทางวิทยาลัย

ทั้งกำชับเรื่องที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของญาติเท่าที่พอจะมี
แน่นอนครับรวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ของป้าวิภาแม่ของปอยสาวน้อยในใจผมด้วย
แต่ยังครับไม่ใช่ตอนนี้ ผมยังไม่ได้เจอเธอในการเดินทางครั้งนี้หรอกครับ ครั้งนี้ได้แค่โทรศัพท์คุยกันเท่านั้นเอง  -25
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:31:19 AM
การเดินทางครั้งนี้นับได้ว่าเป็นการเดินทางด้วยตัวเองครั้งแรกในชีวิตของผมก็ว่าได้
นอกจากนี้ยังเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกของผมอีกด้วย
ดังนั้นอยากแทรกเรื่องนี้เอาไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้อ่านเอาไว้กับการเดินทางของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งครับ
ต้องยอมรับครับว่าเป็นการเดินทางที่ไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้าจริงๆ
สิ่งที่ผมมีติดตัวในเวลานั้นก็คือ เบอร์โทรศัพท์ของญาติ และเจ้าชิด ซึ่งมันยินดีให้ผมไปพักด้วย
และจะได้เดินทางกลับบ้านเพื่อมาเตรียมตัวเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าไปเรียนที่วิทยาลัยแห่งนั้นกับมันด้วยกันอีกครั้ง

เมื่อไปถึงสนามบินดอนเมืองในวันนั้นเวลาประมาณเที่ยง
ลงจากเครื่องบินด้วยสภาพเด็กบ้านนอกเข้ากรุง หน้าตาเหรอหราออกมาจากอาคาร
ก็เจอเข้ากับแท๊กซี่ป้ายดำเข้ามากึ่งลากกึ่งชวนดึงเอากระเป๋าไปพร้อมกับถามว่าจะไปที่ไหน
ด้วยความที่เป็นเด็กบ้านนอก ก็ตอบสถานที่ที่จะไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ซึ่งแท๊กซี่ก็รีบพาผมไปยังรถ แต่...

โชคของผมยังดีครับ บังเอิญว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลสนามบินเดินมาเจอเข้าพอดีจึงเรียกให้หยุดไว้แล้วเรียกตัวแท๊กซี่เจ้านั้นไป
พร้อมทั้งไล่ให้ผมไปหาแท๊กซี่ใหม่ที่ริมถนน นับว่าเป็นเรื่องโชคดีอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อคิดย้อนกลับไปในวันนั้น ถ้าผมไปกับแท๊กซี่เจ้านั้นก็ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้มานั่งเล่าให้คุณฟังในตอนนี้หรือเปล่า

ผมเรียกแท๊กซี่คันใหม่ที่ริมถนนเพื่อไปส่งยังวิทยาลัย... พร้อมทั้งทำการมอบตัวเสร็จเรียบร้อยในเวลาต่อมา
แต่หลังจากมอบตัวแล้วนี่สิผมจะทำอย่างไรต่อไปดี ผมจะไปพักกับใครที่ไหนดีละเนี๊ยะ.... -07
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:13:15 AM
 :smile3:
มาให้กำลังจาย
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 12:31:22 PM
อืม...ที่แท้มีคนติดตามกันเรื่อยๆ นี่เองเนอะ  :cry5:
เดี๋ยวคืนนี้มาต่อให้ก็แล้วกันครับ   :smile4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 08:33:10 PM
นั่งคิดตัดสินใจอยู่นานทีเดียวว่าจะไปพักกับใครดี
ผมตัดสินใจโทรหาเจ้าชิดก่อน ด้วยความคิดที่ว่าไหนๆ เอ็งเป็นคนโทรเรียกข้ามาแล้ว ข้าก็ต้องไปพักกับเอ็งนี่แหละ

   "ฮัลโหล"
   "เฮ้ย ชิด นี่ก๊ำนะโว้ย"
   "เออ...คิงอยู่ไหน"
   "ฮาอยู่กรุงเทพ อยู่ที่วิทยาลัย มอบตัวเสร็จแล้ว คืนนี้ไปนอนด้วยได้ป่ะ"
   "เอาดิ แล้วคิงจะมาหาฮายังไงละ"
   "เออดิ คิงมารับฮาได้ป่ะ"
   "เฮ้ย ฮาไปไม่ถูกเหมือนกันโว้ย"
   "เอางี้แล้วกัน คิงบอกที่อยู่มาเดี๋ยวฮาลองหาแท๊กซี่ไปดูแล้วกันว่ะ"

เจ้าชิดบอกที่อยู่มาทางโทรศัพท์ พร้อมกับความคิดในใจของผมที่ว่า
"แล้วตูจะเจอมันไหมฟ่ะ"  -06
ผมเรียกแท๊กซี่พร้อมกับยื่นที่อยู่เจ้าเพื่อนสุดเลิฟ ให้กับคนขับซึ่งมองหน้าผมอย่าง งงๆ

   "ขึ้นมาเลยน้อง"
   "ไปตามที่อยู่นี้เลยพี่"

พอรถออกไปได้สักพักคนขับก็ชวนผมคุย ซึ่งเมื่อมาถึงประเด็นสำคัญก็คือ....

   "น้องไอ้ที่อยู่ที่น้องให้พี่มาเนี้ยะ พี่ก็ว่ามันคุ้นๆ นะ อยู่แถวๆ หัวลำโพงหรือเปล่าอ่ะ"
   "พี่ครับผมก็ไม่แน่ในเหมือนกันอ่ะครับ"
   "พี่ว่าน่าจะใช้นะ เดี๋ยวลองไปดูแถวๆ นั้นก่อนก็แล้วกันนะ พี่ก็เพิ่งจะเริ่มขับวันนี้เป็นวันที่ 2 เองอ่ะ"

 -06 โอ้ว...กล้วยทอดแว้ว !!!  -07
วันนี้มันวันอะไรของผมอ่ะ ทำไมต้องเป็นวันนี้ด้วยฟ่ะ
แล้วนี่ผมจะได้เจอเพื่อนผมหรือปล่าวอ่ะ อะไรที่มันเล่นตลกกับชีวิตผมได้ซะขนาดนี้  :no: .....
ในที่สุดด้วยความคุ้นเคยบวกความใจดีของพี่แท๊กซี่ซึ่งแวะจอดให้ผมโทรศัพท์ถามทางเจ้าเพื่อนเลิฟ ทำให้ผมได้เจอกับมันในที่สุด  :V
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 08:40:43 PM
แต่ช้าก่อนความสนุกยังไม่หมดแค่นี้ครับ
ยังจำได้หรือปล่าวครับกับการที่ผมต้องเดินทางอย่างเร็วมามอบตัวที่วิทยาลัยอย่างด่วนที่สุดทำให้ข้าวของของผมยังไม่ครบ
ทำให้ต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปจัดทัพกลับมาใหม่
ผมต้องหาตั๋วกลับบ้านในวันสงกรานต์ครับ  -07 แล้วผมจะได้ตั๋วหรือปล่าวละเนี้ยะ

อีกครั้งที่ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ผมได้ตั๋วรถทัวร์เสริมอย่างไม่คาดฝันพร้อมกับความหวังที่จะได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์เชียงใหม่  :cheer: 
แต่แล้วการเดินทางครั้งนั้นกลายเป็นว่าผมต้องผิดหวังอีกครั้งครับ
เมื่อระหว่างทางที่แวะกินข้าวมื้อดึก เด็กรถเล่นตลกด้วยการเติมน้ำลงในถังน้ำมัน  -15  กล้วยทอดอีกแล้ว
ทำให้รถไม่สามารถเดินทางต่อได้ต้องแก้ไขกันอีกกว่าจะเสร็จก็ไปถึงเชียงใหม่ตอน 4 โมงเย็น  -17
ไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์อีกแล้ว ต้องรีบเตรียมตัวกลับลงไปกรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วน
ซึ่งก็ได้เจ้าชิดอีกแหละครับจัดหาตั๋วรถไฟชั้น 3 ให้ได้อีก ก็ไปพร้อมกันกับเจ้าเพื่อนตัวดีนี่แหละครับ
นั่งไประวังของไป ลุกไปเข้าห้องน้ำก็ต้องให้เพื่อนเฝ้า
ไปกินข้าวที่ตู้เสบียงก็ต้องผลัดกันไป ไม่งั้นลุกเสียม้าครับ มีคนรอเสียบตลอดเวลา  :angry4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 08:45:42 PM
เมื่อการเรียน Intensive เริ่มต้นขึ้นในวิทยาลัยแห่งใหม่พร้อมกับเพื่อนใหม่ๆ และเจ้าเกลอชิดตัวแสบเริ่มต้นขึ้น
ความห่างของระยะทาง กับเวลาว่างที่น้อยลง อีกทั้งผมได้มาอยู่ใกล้กับปอยมากขึ้น
แรกๆ จดหมายติดต่อระหว่างผมกับน้องนุ้ยก็มีอย่างสม่ำเสมอ
แต่ความใกล้ของระยะทางที่มีกับปอยทำให้การไปมาหาสู่กันที่ง่ายขึ้น

ทำให้ในเวลาต่อมาผมจำเป็นต้องตัดสินใจเลือก
ซึ่งด้วยวัยในเวลานั้นทำให้ผมตัดสินใจทำเรื่องที่ไม่คิดว่าจะทำให้มีผลกระทบกับน้องนุ้ยในช่วงเวลานั้น
ซึ่งผมได้รู้เรื่องจากเดือนน้องรหัสในภายหลัง ว่านุ้ยเสียใจมากทีเดียว
ผมตัดสินใจเขียนจดหมายบอกเลิกกับน้องนุ้ยครับ ผมทำไปโดยไม่คิดว่าจะมีผลลัพท์เป็นอย่างไร
ซึ่งเจ้าเดือนถึงกับโกรธผม เมื่อได้เจอหน้ากันในเวลาต่อมา
ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากขอโทษน้องเขาจริงๆ นะครับ
ถ้ามีโอกาสได้เจอกับอีกครั้ง ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นหรือไม่  -08 -09
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 08:50:49 PM
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับปอยค่อยๆ พัฒนาการขึ้นอย่างค่อนข้างดี กลายเป็นคนสนิทที่รู้ใจกันมากขึ้น
แต่ลึกๆแล้วผมเองกลับไม่แน่ใจว่าผมจะใช่คนที่ปอยจะเลือกหรือปล่าว
เพราะตลอดเวลาที่คบกันปอยมักจะพูดกับผมเสมอว่า

   "ถ้าก๊ำเจอคนที่ดีกว่าปอย ก๊ำจะเลือกคนใหม่ก็ได้นะ"
   "ก๊ำมีสิทธิ์ที่จะเลือกนะ" (ปอยก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกเหมือนกัน  อันนี้เธอไม่ได้พูดออกมา แต่ผมต่อให้ในใจ T-T)

ซึ่งความจริงที่ผมได้รับรู้ในเวลาต่อมาก็คือ
ปอยเคยมีแฟนแล้ว แต่ว่าที่บ้านของเธอไม่ชอบ
เธอก็เลิกนะ แต่ว่ายังแอบติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ เหมือนกับเป็นเพื่อนกัน (แล้วผมจะอยู่ในฐานะไหนฟ่ะ)
ในเวลานั้นเธอบอกกับผมแบบนั้น ซึ่งผมก็เชื่อมาตลอด
แต่อุตส่าห์บอกเลิกกับสาวเชียงใหม่เพื่อมาเป็นตัวสำรองให้กับสาวกรุงฯ  -25

เรายังคงติดต่อกันด้วยดีไปดูหนัง ทานข้าวด้วยกัน
โดยมีการสนับสนุนของที่บ้านของปอยอย่างดี
แต่ใจเธอคิดยังไงผมไม่เคยรู้ แต่ก็เป็นความสุขและความสบายใจในเวลานั้น  :love:
แต่เมื่อถึงวันที่ผมต้องรับรู้แล้วผมจะเล่าให้คุณฟังครับ

ผมใช้เวลาในการเรียน Intensive ที่วิทยาลัยแห่งใหม่ไปอย่างสนุกสนาน
โดยที่ไม่รู้ว่าน้องนุ้ยจะเป็นอย่างไร
เสาร์-อาทิตย์ ผมก็ไปดูหนัง ทานข้าวกับปอยอย่างมีความสุข  :love:
มันคงยังไม่ถึงเวลาที่เจ้า destiny จะลงโทษผมอย่างเจ็บปวด  -14
เรื่องนี้ผมขอยกเอาไว้ก่อนครับ
ผมจะเล่าประสบการณ์อีกเรื่องให้ฟังกันก่อนดีกว่าครับ เพราะยังไม่ถึงเวลาของเรื่องนี้


อยากได้น้องคนนี้มาแสดงเป็นปอยจังเลยครับ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 08:56:44 PM
เมื่อการเรียน Intensive ใกล้จบลง พร้อมกับการประกาศผลสอบเอ็นทรานส์ที่ใกล้เข้ามาเช่นกัน
ผมกับเจ้าชิดจึงตัดสินใจร่วมกันด้วยความคิดที่ว่าเราน่าจะไปหาประสบการณ์ในการท่องกรุงยามราตรีด้วยกันสักครั้ง
ด้วยว่าไม่รู้ว่าจะได้อยู่ด้วยกันอีกหรือไม่
พวกเราตัดสินใจไปเที่ยวพัฒน์พงษ์ สวรรค์ยามราตรีของคนกรุง
ด้วยความอ่อนประสบการณ์ของเด็กบ้านนอกเข้ากรุงก่อนครับ

   "น้องๆ แวะร้านนี้ก่อนสิครับ ค่าดูฟรีครับ ไม่มีชาร์จ"

เสียงตะโกนเชียร์แขกของหลายๆ ร้านที่ตะโกนแข่งกันมา
พวกผมสองคนก็เดินชะโงกดูตามร้านต่างๆ ด้วยว่ายังไม่อยากตัดสินใจว่าจะเข้าไปที่ร้านไหนดี   -021
จนกระทั่งได้เวลาพอควรก็ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปที่ร้านหนึ่งด้วยทนความเย้ายวนของสถานที่ไม่ไหว
เมื่อเข้าไปก็ต้องสั่งเครื่องดื่มมาเป็นเรื่องธรรมดา

   "น้องจะรับอะไรกันดีครับ"
   "เออ..."
   "เบียร์...เล็ก คนละขวดไหมครับ ไม่ชาร์จค่าดูนะครับน้อง"
   "ได้ครับพี่ ตามนั้นเลย"

ผมกับเจ้าชิดนั่งจิบเบียร์พร้อมกับดูโชว์ไปด้วยความสนุกสนานตามประสาวัยรุ่น
โดยไม่รู้ตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งเบียร์หมดขวด และเวลาก็พอสมควรแล้วนั้นแหละครับ

   "พี่ครับ"
   "อะไรครับน้อง รับเบียร์เพิ่มอีกคนละขวดไหมครับ"
   "พอแล้วครับพี่เช็คบิลเลยดีกว่าครับ ดึกแล้ว"
   "รอสักครู่นะครับน้อง" บริกรร่างยักษ์เดินจากไป สักครู่ใหญ่ๆ อย่างที่พี่แกบอกไว้จริงๆ
   "ทั้งหมด 800 บาทครับน้อง"
   "หา..." ผมกับเจ้าชิดมองหน้ากันอย่างอึ้งๆ เพราะในใจคิดว่าอย่างไรเสียคงไม่เกิน 200 บาท
   "เออ... พี่เบียร์...ขวดเล็ก 2 ขวดไม่ใช่เหรอพี่"
   "ก็ใช่สิครับน้อง"
   "แล้วพี่บอกไม่มีชาร์จ ไม่ใช่เหรอครับ"
   "ก็ไม่ได้ชาร์จค่าดูนิครับ ค่าเบียร์อย่างเดียว" สายตามองมาอย่างน่ากลัว
   "เออ..เดี๋ยวนะครับพี่" 

ผมเริ่มสบตากับเจ้าชิด ด้วยที่ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวผมเหลือเงินอยู่ 300 บาท เพราะเพิ่งไปจองตั๋วรถไฟกลับบ้านเมื่อตอนกลางวัน

   "เฮ้ยชิด คิงมีเท่าไหร่ว่ะ" กระซิบกันเบาๆ
   "ฮามีอยู่ 1000 พอดีว่ะ"
   "ฮามี 300 ว่ะ คิงออกไปก่อนเน้อ เดี๋ยวกลับบ้านแล้วฮาคืนให้"
   "ว่าไงน้อง" เสียงเจ้าบริกรร่างยักษ์เร่งเร้ามา
   "นี่ครับพี่" เจ้าชิดหยิบเงิน 800 จ่ายให้มันไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าแขนผมเดินเร่งออกมาจากร้าน
   "ฮาว่ากลับบ้านเหอะ ไม่ต้องไปต่อร้านอื่นแล้ว < ตรู๊ด >แพงชิบ..."
   "เออ..ว่ะ กลับบ้านนอนดีกว่า"   -03


ส่วนคนนี้ขอเป็นน้องนุ้ยถ้าจะดีนะ
(http://www.montfort27.com/forum/index.php?action=dlattach;topic=595.0;attach=13495;image)

ส่วนคนนี้เป็นนุ่นถ้าจะดีเนอะ  :smile4:
(http://www.montfort27.com/forum/index.php?action=dlattach;topic=595.0;attach=13489;image)

 :smile8:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 04, 2008, 09:01:26 PM
วันถัดมาเป็นวันประกาศผลเอ็นทรานส์ ซึ่งก็นำความสมหวังมาให้ผมอย่างไม่น่าเชื่อ
จะอะไรเสียอีกละครับผมสอบเอ็นทรานส์ไม่ติด และไม่เสียใจเลย
ส่วนเจ้าชิดติดคณะ... ม.เชียงใหม่ แต่มันก็ตัดสินใจเรียนต่อที่วิทยาลัยแห่งนั้นด้วยกันกับผมนี่แหละครับ
เพราะมันบอกว่าถ้าเทียบกันแล้วเรียนที่นี่น่าจะรุ่งกว่า 
ผมก็รีบโทรไปรายงานผลให้กับคุณนายแม่ทันที

   "แม่ครับ ก๊ำเอ็นฯ ไม่ติดอ่ะ"
   "ไม่เป็นไรลูก แล้วก๊ำจะทำอย่างไรต่อละลูก กลับมาเรียน ม..... ที่เชียงใหม่ดีกว่าไหม" เสียงคุณนายแม่ปลอบมาตามสาย
   "ไม่เอาอ่ะ ถ้าไปเรียน ม...... ก๊ำขอเรียนที่นี่ต่อดีกว่า"
   "แต่ที่วิทยาลัย... เรียนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยไม่ใช่เหรอ แล้วก๊ำไม่ชอบภาษาอังกฤษด้วยนิ แม่จำได้นะ"
   "ก๊ำอยากเรียนที่นี่จริงๆ นะแม่ ก๊ำอยากเรียนสาขานี้มานานแล้ว อีกอย่างแม่เคยบอกก๊ำไว้ไม่ใช่เหรอถ้าถึงเวลา แม่จะให้ก๊ำได้เลือกในสิ่งที่ก๊ำอยากเรียนจริงๆ แล้วถ้าแม่ให้ก๊ำเรียนนะ ก๊ำสัญญาว่าจะจบใน 4 ปี ไม่เกินนั้น" ความจำดีซะอีกแม่เราเรื่องไม่ชอบภาษาอังกฤษเนี๊ยะ
   "แน่ใจเหรอ งั้นเดี๋ยวแม่ปรึกษากับพ่อเค้าก่อนก็แล้วกันนะ แล้วพรุ่งนี้ก๊ำค่อยโทรมาฟังคำตอบอีกที"
   "ครับ" ผมรับคำทั้งๆ ที่ใจภาวนาให้ท่านพ่อของผมเห็นด้วยกับความคิดที่จะให้ผมได้เรียนต่อที่วิทยาลัยนี้

ระหว่างที่รอคำตอบอยู่นี้ผมก็แจ้งข่าวให้กับปอย
ซึ่งป้าวิภาคุณแม่ของปอยก็ใจดีเรียกให้ผมและให้ชวนเจ้าชิดเพื่อนยากไปพบที่บ้าน
พาไปเลี้ยงปลอบใจ พร้อมทั้งพาเที่ยวไปด้วยในตัว
เป็นวันอีกวันที่ผมมีความสุข เพราะทั้งป้าวิภา และเจ้าชิดต่างเปิดโอกาสให้ผมกับปอยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่  :love:
ด้วยว่าไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับปอยแบบนี้อีกหรือไม่.... -25

วันรุ่งขึ้นคำตอบเหมือนกับเจ้า Destiny ได้เลือกให้กับผมต้องได้ออกจากบ้านอีกครั้ง
เมื่อท่านพ่อและคุณนายแม่ ตกลงยอมให้ผมได้เรียนที่วิทยาลัยแห่งนี้ต่อ
เช่นเดียวกับเจ้าชิดที่ทางบ้านของมันก็ยอมให้มันเรียนต่อที่นี่
ผมแจ้งข่าวดีนี้ให้กับปอยได้รับรู้เป็นคนแรกเหมือนเดิมครับ
ในที่สุดความฝัน ความหวัง ของผมที่จะได้อยู่ใกล้ชิดแม่สาวกรุง ที่เป็นเหมือนแรงผลักดันให้ผมมาตลอดเวลานับแต่วันแรกที่เราได้เจอกัน
ในเวลานั้นผมได้แต่ฝันว่าชีวิตผมได้พบกับคนที่ใช่ และคนที่มาเติมเต็มในส่วนที่ขาดของผมได้แล้ว
แต่หารู้ไม่ว่าเวลาที่ผมจะได้รับบทเรียนแรกของความรักกำลังจะมาถึงในไม่ช้า... -07
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 04:59:10 PM
ว้าขาดตอน กำลังมัน
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 08:41:54 PM
โอ้ว...ที่แท้เฮียก็ติดตามอยู่นี่เอง
ว่าแต่ว่า สินค้าที่ฝากไปได้รับหรือยังครับ แล้วพอดีมั๊ยเอ่ย  :smile10:

เอ้าเข้าเรื่องของเราต่อไปดีกว่าครับ

เมื่อพรหมลิขิตชักนำให้เราได้ออกร่อนเร่ไปในเมืองหลวง
เพียงเพื่อให้บทเรียนสำคัญที่ต้องจดจำให้ขึ้นใจว่า
"เวลาของความสุข มักจะอยู่กับเราไม่นาน
ดังนั้นเมื่อมีโอกาส จงเร่งตักตวงเอาความสุขนั้นไว้ให้มากที่สุด
เพื่อที่จะได้มีความทรงจำดีดี เก็บไว้ในใจเราตลอดไป"


ผมเริ่มต้นเรียนปี 1 ในวิทยาลัยแห่งนั้นด้วยความสุขที่ได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียนมานาน
และข้อสำคัญก็คือการได้อยู่ใกล้ชิดกับแม่สาวกรุงคนสวยที่อยู่ในใจของผมมาตลอดระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา
ชีวิตนักศึกษาระดับปริญญาตรีของผมในปีแรกจึงเรียกได้ว่าเป็นอีกช่วงชีวิตที่มีความสุขของผม
ผมไปเที่ยวในที่ต่างๆ กับปอยสาวน้อยคนงามเมืองกรุงของผมอย่างมีความสุข
ชนิดที่ว่าวันไหนที่ไม่มีเรียน ผมก็มักจะไปหาปอยเสมอครับ เรียกได้ว่าเช้าถึงเย็นส่งกลับบ้านเลยก็ว่าได้  :smile3:
บางครั้งก็ยังนั่งคุยกันที่บ้านของปอยจนดึกดื่นอย่างมีความสุขมากมาย  -21
นึกไปแล้วเหมือนกับไอ้หนุ่มในนิยายที่มาจีบสาวเจ้าแล้วทั้งบ้านก็พากันเป็นใจให้กันหมด :smile2:

จนกระทั่งในวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันที่ผมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้
วันนั้นเป็นวันเกิดของแม่สาวกรุงคนงามน้องปอยของผม
ใครจะคิดว่ามันต้องมาเป็นวันนี้ด้วยล่ะ  -06

   "เออ...ก๊ำ วันศุกร์หน้าก๊ำว่างหรือปล่าวอ่ะ"  ปอยถามผมขึ้นมาในวันที่เรานัดกันไปดูหนังวันหนึ่ง
   "ทำไมเหรอ"
   "เออ..น่า ช่วงบ่ายๆ อ่ะว่างหรือปล่าวล่ะ"
   "มีอะไรล่ะ วันศุกร์ก๊ำมีเรียนด้วยอ่ะดิ"  ปอยมองผมพร้อมกับทำหน้างอนๆ เหมือนว่าผมคงจะจำไม่ได้ว่าเป็นวันเกิดเธอ
   "ช่างเหอะไม่มีไรก็ได้ ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร"
   "โอ๋ โอ๋ แหมจำได้ดิ วันเกิดปอยทั้งทีทำไมก๊ำจะจำไม่ได้ล่ะ พอดีก๊ำเรียนครึ่งวันอยู่แล้ว
            นี่ก็ก่ะว่าจะทำเซอร์ไพส์อยู่เหมือนกันนะ จะพาไปเลี้ยงที่ไหนก็บอกมาดิ จะได้ล้างท้องรอ"
            (ทำเป็นพูดเล่นไปยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังจะโดนเซอร์ไพส์ในวันนั้น) :cry2:
   "ก็ทำตัวให้ว่างแล้วก็มาคนเดียวนะ สถานที่เดี๋ยวค่อยนัดกันอีกที"
   "จ้า แล้วจะล้างท้องรอถล่มเลยคร๊าบ"
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 08:52:40 PM
ผมตั้งตานับวันรอด้วยใจระทึกที่จะได้ไปฉลองกันสองต่อสองในวันเกิดของปอย  :smile2:
โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังจะได้รับบทเรียนของหัวใจกับคำว่า "อกหัก" ในไม่ช้า...  -02

บ่ายวันศุกร์มาถึงด้วยความที่เรียนเลิกช้า ผมรีบไปสถานที่นัดหมาย
โดยไปช้ากว่าเวลาที่นัดกันไว้เกือบครึ่งชั่วโมง เพราะฝนเจ้ากรรมดันมาตกในวันนั้นซะได้
เมื่อไปถึงผมก็พบกับปอยรออยู่หน้าร้านที่นัดกันเอาไว้ พร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน

   "ปอย ก๊ำขอโทษนะ พอดีอาจารย์เค้าเลิกช้า แล้วฝนตกด้วยอ่ะ รถก็เลยยิ่งติด"
   "ไม่เป็นไรก๊ำ รีบเข้าไปข้างในกันดีกว่า ปอยหิวแล้วอ่ะ"  ปอยตอบมาด้วยน้ำเสียงสดใส
   "คร๊าบ คร๊าบ"

ผมรีบเดินตามแม่สาวกรุงคนงามเข้าร้านไป แต่แล้ว.....
ผมก็ต้องอึ้งเมื่อเจ้าหล่อนเดินนำผมไป
และนั่งลงเคียงข้างกับเจ้าหนุ่มผมยาวที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ
พร้อมแนะนำให้ผมรู้จักกับเจ้าหนุ่มผมยาว  -09

   "ก๊ำ นี่พี่อ้ำนะ ที่ปอยเคยเล่าให้ฟังไงล่ะ พี่อ้ำ นี่ก๊ำญาติปอยที่เคยบอกว่ามาจากเชียงใหม่ค่ะ" 

ก็จะใครเสียอีกละครับคนที่เธอเคยบอกกับผมว่าอดีตคนรู้ใจไงละครับ
แล้วผมกลายเป็นญาติจากเชียงใหม่ไปแล้วอ่ะ  :no:

   "..."   -16

ผมยืนตะลึงและพร้อมๆ ไปกับงูสองตัวที่วิ่งเข้ามาชนกันสนั่นหวั่นไหวในหัว ในชั่ววินาทีที่ปวดใจเหลือเกิน
ด้วยความที่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอความจริงอันโหดร้ายจากแม่สาวหน้าหวานในดวงใจในวันเกิดของเธอ  -14
กว่าจะตั้งสติได้ก็เมื่อได้ยินเสียง พี่อ้ำของน้องปอยทักทายมาอย่างแจ่มใส

   "สวัสดีครับ ก๊ำดีใจที่รู้จักครับ ปอยเคยพูดถึงก๊ำบ่อยๆ นะ นั่งก่อนสิ" 

ผมค่อยๆ นั่งลงด้วยหัวใจที่แหลกสลายอย่างยับเยินกับความจริงที่ต้องรับรู้ในวันเกิดของแม่คนงามเมืองกรุง  -13
ที่วาดฝันมาตลอดว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เราจะได้ฉลองวันเกิดของเธอร่วมกันอย่างมีความสุขเพียงสองคน

กล่าวทักทายกลับไปด้วยเสียงที่ไม่แน่ใจในตัวเองว่าพูดอะไรออกไป

   "ส....สวัสดีค...ครับ พี่อ....อ้ำ" 

แล้วผมก็แว่วถึงคำพูดของปอยที่เคยย้ำกับผมบ่อยๆ เมื่อเราเริ่มต้นคบกันใหม่ๆ ขึ้นมาได้ทันที

   " 'ถ้าก๊ำเจอคนที่ดีกว่าปอย ก๊ำจะเลือกคนใหม่ก็ได้นะ ก๊ำมีสิทธิ์ที่จะเลือกนะ'
             'เราคบกันเราก็ดูๆ กันไปก่อนเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะ ถ้าก๊ำเจอใครที่ถูกใจกว่าก็บอกปอยได้นะ' "

ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมคิดมาตลอดว่าปอยคือคนที่ผมเลือกแล้ว
ผมไม่คิดว่าผมจะต้องมาอกหักในวันที่เป็นวันสำคัญของเธอ  :angry8:
รสชาติอาหารเป็นอย่างไรผมไม่รับรู้แล้ว  -09
แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากับการตักอาหารให้กัน  -07
การพูดจาหยอกล้อกันเหมือนกับว่าผมไม่ได้อยู่ร่วมโต๊ะด้วยต่างหาก -16
ที่ทำให้ผมอยากลุกหนีออกไปให้ไกลจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด  -13
แต่ผมก็นั่งต้องทนอยู่ตรงนั้นมองภาพบาดใจอย่างเหลือที่จะทน
เมื่อยื่นของขวัญที่ตั้งใจหามาให้เธอ แต่สาวเจ้ากลับรับแล้ววางไว้อย่างไม่ใส่ใจ  :cry1:

จนกระทั่งอาหารมื้อนั้นสิ้นสุดลง พร้อมด้วยเสียงหวานๆ ที่ดังแว่วลอยมา

   "เออ ก้ำเดี๋ยวก๊ำว่างป่ะ พอดีเราว่าจะไปนั่งฟังเพลงกันต่ออ่ะ พอดีพี่อ้ำเค้านัดกับกลุ่มเพื่อนเก่าเราไว้ด้วยอ่ะ"
   "..."

มาถามผมทำไม  -15 ชวนผมมาให้ช้ำใจ แล้วยังมา...  ผมอีก  -04
ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้วทั้งนั้นละครับเวลานั้น

   "เออ...พอดีอาทิตย์หน้าเรามีสอบ mid-term อ่ะ ต้องกลับไปอ่านหนังสือ" เสียงผมตอบแผ่วๆ กลับไปพยายามซ่อนความรู้สึกไว้
   "เหรอ ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวเราแยกกันตรงนี้เลยก็แล้วกันนะ แล้วก๊ำตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ แล้วไงก็โทรมาด้วยนะ"
   "ค...ครับ แล้วเจอกันครับ" ผมรับคำด้วยหัวใจที่แหลกสลาย พร้อมๆ ไปกับสายฝนที่เริ่มโปรยลงมาอีกครั้ง  :cry2:
   "ก๊ำ ไม่เป็นไรนะ"
   "ครับ ไม่เป็นไรครับ"  ผมกัดฟันตอบเธอไป  -13

พร้อมกับนึกในใจว่าถ้าเป็นไรแล้วเธอจะกล้าปลอบใจผมต่อหน้าพี่อ้ำของเธอไหมง่ะ  -17
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 08:58:20 PM
ผมปล่อยให้ปอยและพี่อ้ำเดินคล้องแขนจากไปจนลับตา  -09
ซ่อนน้ำตาของลูกผู้ชายเอาไว้ในใจเดินไปที่ป้ายรถเมล์อย่างซึมเซา  -02
ไร้จิตใจที่จะคิดอะไร ความฝัน ความหวังที่อุตส่าห์ตั้งใจหาทางออกจากบ้าน
เพียงเพื่อจะมาหาแม่สาวน้อยชาวกรุงที่อยู่ในใจผมตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมาทุกอย่างจบลงแล้ว  -14

วันนั้นผมนั่งรถเมล์กลับบ้านอย่างไร ผมนึกไม่ออก
เดินตากฝนจากป้ายรถเมล์เข้าบ้านพี่ชาย เหมือนในมิวสิควีดีโอที่ครั้งหนึ่งผมเคยดูพร้อมกับเสียงหัวเราะว่า
ทำไมคนอกหักต้องมีฝนตก แล้วเดินตากฝนด้วย...
เข้าใจแล้วครับอารมณ์นั้น เข้าใจแล้วจริงๆ อยากให้น้ำฝนกลบลบน้ำตาแห่งความผิดหวังไว้ไม่ให้ใครได้เห็นไงล่ะครับ  -13

ปอยเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมมีความสุข และเสียใจได้ในเวลาเดียวกัน
เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมได้รู้จักความรักอย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก
ผมหายหน้าไปจากบ้านป้าวิภาเป็นเวลานานจนผิดสังเกตุ
เพราะโดยปกติผมมักจะไปรับปอยที่บ้านทุกอาทิตย์เพื่อไปดูหนัง หรือไม่ก็นั่งคุยกันที่บ้านจนค่ำทุกวัน
จนวันหนึ่งป้าวิภาก็โทรมาถามกับผมว่ามีเรื่องทะเลาะอะไรกันหรือปล่าว
เพราะว่าผมไม่ได้ไปที่บ้านของท่านนานแล้ว
ผมก็ได้แต่บอกป้าไปว่า ผมกำลังเรียนหนักและใกล้สอบด้วย
ถ้าสอบเสร็จเมื่อไหร่ผมจะแวะไปเยี่ยมท่าน
ก็ใครมันจะกล้าบอกท่านละครับว่าโดนลูกสาวป้าหักอกอย่างแรงนิ  :smile6:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 05, 2008, 09:07:22 PM
ผมใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าจะทำใจได้ แล้วกลับไปที่บ้านของป้าวิภาอีกครั้ง  -25
ระหว่างนั้นปอยโทรมาขอโทษผม และไม่คิดว่าผมจะรู้สึกดีๆ กับเธอมากขนาดนั้น  :try:
(อืม... ช่างทำกันได้เนอะแม่สาวกรุงคนงาม  -15 ให้ความหวังกันซ่ะขนาดนี้แล้ว ไปเที่ยวด้วยกัน กินข้าว ดูหนัง ฯลฯ)
พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่าพี่อ้ำโทรมาขอโทษ และสัญญาว่าจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นเพื่อให้ลุงและป้าวิภายอมรับในตัวเค้าให้ได้
อีกอย่างปอยเองก็ยังรู้สึกดีๆ กับพี่อ้ำอยู่มาก แต่ที่ต้องเลิกกันก็เพราะพ่อแม่ของปอยไม่ชอบ
และขอร้องให้ผมปิดเรื่องที่เธอกลับไปคบกับพี่อ้ำเอาไว้ก่อน
และถ้าผมพอมีเวลาว่างเธอก็ยินดีที่จะไปเที่ยว ไปดูหนัง กินข้าว กับผมเหมือนเดิม  -07
แล้วตกลงนี่ผมจะอยู่ในฐานะอะไรครับ  :try:
เป็นตัวสำรอง หรือว่าเป็นแค่เพียงศาลาพักใจของเธอ  -02
โชคดีที่การเรียนในวิทยาลัยค่อนข้างหนักเอาการ และคำสัญญาที่ผมได้ให้ไว้กับคุณนายแม่ที่ว่าจะเรียนจบใน 4 ปี
เป็นเหมือนกับยาขนานเอกที่ช่วยรักษาบาดแผลครั้งนี้ให้จางลงไปได้
อีกทั้งกิจกรรมต่างๆ ของชมรมที่วิทยาลัย ช่วยทำให้ผมไม่มีเวลาว่างไปนั่งคิดมาก
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 08:44:02 AM
แค้นมากก็บอกเหอะ
จัดให้ :angry6:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Putsiland ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 12:21:18 PM
 -14น้องปอยทำพี่เก่งได้ลงคอ พูดไปก้อสงสารหนุ่มเชียงใหม่เพราะถูกสาวเมีองกรุงหลอกให้หยากแล้วจากไป..........
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: อุเทน47 ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 12:39:59 PM
-14น้องปอยทำพี่เก่งได้ลงคอ พูดไปก้อสงสารหนุ่มเชียงใหม่เพราะถูกสาวเมีองกรุงหลอกให้หยากแล้วจากไป..........


แต้บะ ฮาก็เกยโดนเหมือนคิง  ฮาตึงบ่ไปย่ำกรุงเทพระทมแหมซ้ำ จังคนวอกนัก   -18
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:06:51 PM
เหอะ เหอะ เพื่อนเก๋ถ้าบ่าโดนสาวกรุงทิ้งป่านนี้ หมู่เฮาอาจเฉากว่านี้ก็ได้นะ
คิดดูดิ เมียฮา เป็นเพื่อนเมียคิง กับ เมียไอ่ชิน แล้วมันจะเกิดอะหยั่งขึ้น  -07
มีหวังถ้าเมียคนใดบ่ปิ๊กบ้าน รายการแฉแต่เช้า คงได้มีคู่แข่งกันบ้างล่ะคร๊าบงานนี้  -14
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:08:30 PM
-14น้องปอยทำพี่เก่งได้ลงคอ พูดไปก้อสงสารหนุ่มเชียงใหม่เพราะถูกสาวเมีองกรุงหลอกให้หยากแล้วจากไป..........
เออ...ปล. นี่ตกลงท่านทั้งหลายสรุปว่าเป็นผมเหรอ ไม่คิดว่าจะเป็นเพื่อน love ของผมบ้างเหรอคร๊าบ  :x
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:19:14 PM
ขอบใจเพื่อนๆ ที่ติดตามและให้กำลังใจกันอย่างอุ่นหนาฝาครั่ง
คิดซะว่าฟังเรื่องเล่าเก่าๆ ของชายกลางคนคนหนึ่งไปก็แล้วกันเนอะ  -08
นอกเรื่องแล้วก่อปิ๊กเข้าเรื่องเล่าเย็นวันนี้ต่อกั๋นดีกว่าเนอะ  :smile6:

แล้วสายลมแห่ง Destiny ก็ชักนำผมให้เดินหน้าต่อไปอีกแล้ว
ในช่วงเวลานี้เอง destiny เกลอเก่าก็ชักนำให้ผมได้มาพบกับสาวน้อยร่างเล็กอีกคน
ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทำกิจกรรมในชมรมด้วยกัน เธอคนนี้มีชื่อว่า "วา" เป็นเพื่อนเก่าของ "ยะ" เพื่อนสนิทในสถาบันใหม่ของผม
แรกๆ ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะยังบอบช้ำกับรอยแผลที่น้องปอยฝากไว้ไม่หาย
แต่ความที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกันอยู่เสมอ ความใกล้ชิดทำให้อดเผลอใจไปไม่ได้
เราเริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น วาเริ่มเข้ามาจัดระเบียบให้กับชีวิตที่ยุ่งเหยิงของผมให้ดีขึ้น
ทำให้ผมเริ่มกลับมาเป็นคนเดิมมากขึ้น ผมห่างจากการติดต่อกับปอยไป โดยให้เหตุผลว่าต้องเรียนหนัก ไม่ค่อยว่าง  :cry1:
 -25 ขอเวลาทำใจ (ว่างั้นเหอะ)  :cry7:
และเรื่องนี้เองเป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ในเวลาต่อมา เรื่องอะไรนั้นตามมาฟังกันไปเรื่อยๆ ครับ ผมจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:22:15 PM
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับวา พัฒนาการขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้วยความที่ผมกำลังรู้สึกแย่ และวาได้เข้ามาจัดระเบียบให้กับชีวิตผม
ผมปล่อยให้เธอจัดการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดสินใจลงทะเบียนเรียนวิชาอะไร ลงทะเบียนเรียนกับเธอกี่วิชา ผมไม่สนใจด้วยซ้ำ
ได้แต่ปล่อยให้เธอจัดการไป เธอค่อยๆ ครอบงำ และแสดงความเป็นเจ้าของผมอย่างเงียบๆ
ไม่ว่าเธอจะขอร้องให้ผมทำอะไร ผมทำให้เธอหมดทุกอย่าง
ผมเริ่มห่างจากเพื่อนๆ เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง
เธอเข้ามาจัดการแม้กระทั่งเรื่องการแต่งตัวของผม
เสื้อผ้าเธอชอบให้ผมแต่งตัวแบบไหน เธอพาผมไปเลือกซื้อ
ซึ่งผมก็ทำตามทั้งที่ปกติแล้วผมไม่เคยให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวาย
แม้แต่ปอยก็ไม่เคยตำหนิหรือแนะนำผมให้ผมแต่งตัวอย่างไรมาก่อน (เริ่มมีการเปรียบเทียบซะแล้ว)
ปอยเคยบอกกับผมว่าชอบผมที่ผมเป็นตัวของตัวเอง เป็นแบบที่ผมเป็นนะดีแล้ว (แล้วทำไมไม่เลือกผมง่ะ)  -13 -02
แต่ผมกลับปล่อยให้วาจัดการทุกอย่าง ผมเริ่มมีความรู้สึกว่าความมีตัวตนของตัวเองน้อยลงไปทุกวัน
แม้แต่เจ้าชิดเกลอเก่าของผมก็ยังบอกให้ผมคิดให้ดีๆ จะปล่อยชีวิตให้คนอื่นจัดการแบบนี้ตลอดไปจริงๆ เหรอ  -25
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:29:00 PM
ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปเกือบปี ที่ให้วาเข้ามาจัดการกับชีวิตของผม
เหมือนกับเป็นการเยียวยารักษาแผลในใจที่น้องปอยฝากทิ้งเอาไว้
ช่วงเวลานี้ผมแทบไม่ได้ติดต่อกับปอยเลย
จนกระทั่งวันหนึ่งผมมาคิดทบทวนถึงชีวิต และความมีตัวตนของตัวเองอีกครั้งว่าผมกำลังทำอะไรอยู่
จะปล่อยให้คนอื่นเข้ามาจัดการชีวิตตัวเองให้เป็นแบบนี้ตลอดไปเหรอ
วายอมรับในตัวตนจริงๆ ของผมได้หรือปล่าว หรือว่าเธอชอบผมในแบบตัวตนที่เธอพยายามสร้างขึ้นมา
ผมตัดสินใจทดสอบครับ ด้วยการเลิกแต่งตัวในแบบที่เธอชอบ
ให้เวลากับเธอน้อยลง ทำตัวให้เป็นในแบบที่เราเป็นอยู่จริงๆ
ผลที่ตามมาไม่ต้องบอก คุณๆ ก็คงจะเดาได้ใช่ไหมครับ












เธอตัดสินใจบอกเลิกกับผมในเวลาไม่นานหลังจากนั้น  -08
และเมื่อเราเจอกันอีกครั้งผมกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับวาไปเลยครับ
แทบไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนๆ ของผมหลายคนต่างดีใจที่ผมเลิกกับเธอได้
แม้แต่เจ้ายะเพื่อนสนิทของวาที่เป็นคนแนะนำให้ผมรู้จักกับเธอ
ผมได้แต่งงๆ ว่ามันอะไรกันฟ่ะเนี้ยะ  ????
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:45:25 PM
ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ระหว่างนั้นปอยก็ติดต่อมาหาผมอีก
ผมตัดสินใจกลับไปคบกับปอยอีกครั้ง แต่เป็นเพียงลักษณะเพื่อนกันมากกว่า
ผมไม่กล้าเทใจให้อีกแล้ว แม่สาวน้อยชาวกรุงแสนหวานที่ทำกับหนุ่มบ้านนอกแบบผมได้ลงคอ
หลายครั้งที่อดผมหวั่นไหวไปอีกครั้งกับความใกล้ชิดแทบไม่ไหว แต่บทเรียนในวันฝนตกยังคงตามหลอกหลอนผมอยู่เสมอ
ทำให้ไม่กล้าที่จะผูกพัน สัญญาใดๆ กับปอยอีกแล้ว
ผมได้เรียนรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับนิสัยใจคอของผู้หญิงมากขึ้นก็จากปอยนี่แหละครับ

จริงๆ แล้วก็มีผู้หญิงอีกหลายคนที่เข้ามาพัวพันกับชีวิตของผมในช่วงนั้น ทั้งรุ่นพี่ และรุ่นน้องในรั้ววิทยาลัย
แต่ผมก็เพียงคบหาไปเรื่อยๆ ไม่คบกล้าใครอย่างจริงจัง
ประสบการณ์เก่าๆ ยังหลอกหลอนใจผมอยู่เสมอ ไม่กล้าเทใจให้ใครอีกแล้วจริงๆ ครับ

นั้นกลับทำให้ผมสนิทกับปอยมากขึ้นในลักษณะของเพื่อนสนิทจริงๆ
เพราะผมมักจะนำเรื่องราวเหล่านี้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับปอยเสมอ
เราสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ปอยคอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ มากมาย
ทำให้ผมเริ่มมีความมั่นใจในการคบหาสาวๆ ชาวกรุงมากขึ้น  :cry5:

ผมค้นพบว่า
การที่เราจะรักใครสักคน เราต้องรับให้ได้กับสิ่งที่คนๆ นั้นเป็นอยู่
และคนๆ นั้นจะต้องรักและชอบในตัวตนที่แท้จริงของของเราเช่นกัน
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 06, 2008, 10:53:18 PM
แต่แล้ว สายลมอะไรนะที่พาฉันมา
จะเป็น Destiny เกลอเก่าหรือว่าไร ที่ชักนำให้พบกับใครคนหนึ่ง
ซึ่งเมื่อแรกเห็น และได้พูดคุยกันครั้งแรก แต่เหมือนกับว่าได้รู้จักกันมาเนิ่นนาน
ใครสักคนที่สามารถพูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง
ใครสักคนที่แค่เพียงได้นั่งเงียบๆ อยู่ด้วยกันสองคนก็มีความสุขมากมาย
ใครสักคนที่เพียงสบตาก็รู้กันว่าอีกคนกำลังจะพูดในเรื่องใด
ใครสักคนที่มีเรื่องพูดคุยกันได้อย่างไม่รู้หน่าย
ใครกันนะ ใครคนนั้น ที่อยู่อีกสุดปลายด้ายแดงที่มองไม่เห็น
จะมีไหม ใครคนนั้น มีจริงๆ เหรอ
ด้วยว่า Destiny ที่นำพาชีวิตหนุ่มบ้านนอกคนหนึ่ง
ให้ห่างไกลบ้านเกิดออกมาเพื่อพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย
และได้พบเจอกับคนที่อยู่อีกปลายข้างหนึ่งของด้ายแดง








































































โปรดติดตามตอนต่อไป.....ครับ  022
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:30:39 AM
อือม...
นี่มึงไม่ได้ไปเรียนหนังสือเลยนิ
ว่างเจงๆ
........
เอ...ทำไมไม่มีเรื่องแบบนี้มั่งวะ
อ้อ...กูเมา..
แหะๆ
 -06

เขียนหนุกดี
ไม่ลองเอาดีเขียนขายหาตังให้ลูกกินหนมวะ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 03:33:21 PM
ติดตามมาตั้งนาน มันดี แต่ตอน ใกล้จบ แบบมีด้ายแดง
ที่ปลายทาง รูสึกแปลก ๆ ว่ะ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 03:35:59 PM
-14น้องปอยทำพี่เก่งได้ลงคอ พูดไปก้อสงสารหนุ่มเชียงใหม่เพราะถูกสาวเมีองกรุงหลอกให้หยากแล้วจากไป..........


แต้บะ ฮาก็เกยโดนเหมือนคิง  ฮาตึงบ่ไปย่ำกรุงเทพระทมแหมซ้ำ จังคนวอกนัก   -18


ของเก๋ บ่ได้หลอกให้อยากแล้วจากไปหรอก
แต่ของ เก๋ นั้น สุขุมนุ่มลึกกว่านี้มาก

จริง ๆ ให้เก๋เล่าแบบนี้ก็ได้ โฮ รับ รองมันว่านี้หลายเท่า

หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:26:54 PM
อือม...
นี่มึงไม่ได้ไปเรียนหนังสือเลยนิ
ว่างเจงๆ
........
เอ...ทำไมไม่มีเรื่องแบบนี้มั่งวะ
อ้อ...กูเมา..
แหะๆ
 -06

เขียนหนุกดี
ไม่ลองเอาดีเขียนขายหาตังให้ลูกกินหนมวะ
ไม่เอาอ่ะ เขียนเล่นๆ ไว้นานแล้ว
แบบว่า นึกอยากเขียนเรื่องราวที่รับรู้ และประสบการณ์เก่าๆ
เหมือนกับบันทึกความทรงจำมากกว่าว่ะใหญ่

ติดตามมาตั้งนาน มันดี แต่ตอน ใกล้จบ แบบมีด้ายแดง
ที่ปลายทาง รูสึกแปลก ๆ ว่ะ

เฮียบ่โรมันพลาสติกเลยอ่ะ
มันเป็นคำเปรียบเปรย ว่าอะไรบางอย่างเหมือนกับเป็นโชคชะตา
ที่ชักนำให้เราได้พบเจอเรื่องต่างๆ ในชีวิตครับ

อย่างสมมติว่า ถ้าผมบ่ได้อยู่ห้องเดียวกับเฮีย อ้ายเก๋ เสี่ยหมอ
เฮียบ่ได้ลอกการบ้านผม (อุๆ อันนี้ชักเสียว) เฮาก็คงบ่สนิทกั๋น แม่นก่อครับ
หรือว่าอย่างอ้ายใหญ่ เนี้ยะ ถ้าบ่ติดวิดวะ จุฬาฯ ก็คงบ่ได้ไปสร้างวีระกรรมอันยิ่งใหญ่ กลางพัฒพงษ์
หรือว่าอย่างอ้ายเก๋ อะหยั่งทำหื้อเปิ้นต้องฮู้จักสาวน้อยกรุงเทพ จนต้องเจ็บช้ำใจ๋ ทำหื้อต้องรอจนมาปะกับน้องจอยหวานใจ๋ตัวแต้ในปัจจุบัน  :laugh2:

มันเป็นเหมือนกับ Destiny ที่ถูกอะหยั่งสักอย่างกำหนดไว้ล่วงหน้า
แต่ว่าคนเฮามีสิทธิ์เลือกครับ เพราะทางที่เฮาเดินมักจะมีทางเลือกอยู่เสมอ
เมื่อเลือกแล้วมันก่อเหมือนจะมี Destiny ใหม่ขึ้นมาอีก ว่าสุดปลายทางเดินที่เฮาเลือกจะมีอะหยั่งรออยู่อีก
ถามว่าถ้าวันนั้น ก๊ำเลือกที่จะเป็นตัวสำรองของน้องปอย เพราะเหมือนกับว่าน้องปอยได้ปิ๊กมาหื้อความหวังใหม่
สุดท้ายแล้วก๊ำก่ออาจจะลงเอยกับน้องปอยก่อได้เหมือนกันครับ หรือว่าอาจต้องเจ็บช้ำใจ๋กว่าเก่าก่อได้อีกครับ
หรือว่าตอนที่ก๊ำแอบปลื้มนุ่น แล้วตัดสินใจ๋ลุยต่อ ก๊ำก่อคงบ่ได้ไปกรุงเทพ เพราะนุ่นเรียนเชียงใหม่ ก๊ำก่อคงจะอยู่เรียนต่อที่เชียงใหม่เหมือนกั๋นครับ
หรือแม้แต่เรื่องน้องนุ้ยก่อเหมือนกั๋นครับ
ปลายทางสุดท้ายของแต่ละเรื่องราวเหมือนกับสิ่งที่เฮาต้องค้นหา ว่าสุดท้ายแล้วด้ายแดงที่เฮาเลือกที่จะสาวเพื่อค้นหาว่าปลายอีกด้านมีอะหยั่งอยู่
มันคือเรื่องราวต่างๆ ที่เฮาพบเจอกั๋นอยู่ในชีวิตทุกวันครับ อยู่ที่ว่าเฮาจะมีมุมมองในเรื่องต่างๆ อย่างไรครับ
อันนี้เป็นมุมมองของผมเน้อครับ คงบ่ซีเรียสเกินไปเน้ออ้ายนายทั้งหลาย
อุ อุ ทำไปทำมาเอาบทสรุปของเรื่องมาเป็น spoil ไปก่อนเสียแล้ว

ว่าแล้ววันนี้อู้งานดีกว่า เรื่องมันใกล้จบขี้คร้านก๊อปมาหื้ออ่านล่ะ  :smile9:

ว่าแต่ว่าถ้าผมเล่าจบแล้ว ขออ้ายเก๋มาเล่าต่อได้ก่อครับ อยากฟังเรื่องเล่าของอ้ายเก๋พ้อง เฮียรับประกั๋นว่ามันกว่าของผม
ก่ออยากฟังเรื่องอ้ายเก๋เหมือนกั๋นครับ
ใครอยากฟังยกมือขึ้น ผมคนแรกครับ เอาไปเลย หนึ่งเสียงหลวง  :smile9:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 07, 2008, 09:53:29 PM
ว่าแล้วก่ออดใจ๋ไว้บ่าได้มาต่อเรื่องหื้อดีกว่าเนอะ

อย่างที่ได้ทิ้งท้ายเอาไว้ในตอนก่อน
การเรียนในปีสามที่วิทยาลัยแห่งนี้ จำเป็นต้องมีการเลือกเมเจอร์ของคณะที่ผมเรียนอยู่
ซึ่งผมตัดสินใจไว้นานแล้วอย่างที่คุณๆ คงพอจำกันได้ว่าผมอยากเรียนบัญชีมาตั้งแต่แรก
ผมเลือกเมเจอร์ Accounting ซึ่งเมเจอร์นี้ส่วนใหญ่คนที่เลือกจะเป็นสาวๆ ซะมากกว่า  :smile4:
แต่ก็มีผู้ชายที่เลือกอยู่บ้างเหมือนกัน ดังนั้นในเมเจอร์จึงมีผู้ชายเพียงแค่ 10 คน
แต่เป็นสาวๆ ซะร่วม 40-50 คนครับ จึงเป็นเรื่องไม่ยากที่จะทำความรู้จักกับสาวๆ ในคณะทั้งหมด
เพราะพวกเราต้องเรียนร่วมกันอยู่แล้ว ด้วยความที่มีจำนวนคนในเมเจอร์ไม่มาก
ดังนั้นในเวลาไม่นานพวกเราจึงเริ่มสนิทกันมากขึ้น และเริ่มแบ่งกันเป็นกลุ่มย่อยๆ
เพื่อคอยช่วยเหลือกัน และมักจะจัดกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันเสมอ
ด้วยความที่เรามีกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ นี้เองทำให้ในจำนวนเพื่อนสาวใหม่ๆ นี้
มีอยู่ 2-3 คนที่ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจและเริ่มหวั่นไหวไปกับใจของตัวเองอีกครั้ง
ผมยอมรับนะครับในบรรดากิจกรรมต่างๆ ที่ผมจัดขึ้นในช่วงเวลานั้น
เป็นวัตถุประสงค์หลักในการที่จะทำให้ผมได้รู้จักกับพวกเธอมากขึ้น
อย่างน้อยก็ได้เบอร์โทรศัพท์ หรือรู้ว่าบ้านอยู่ที่ไหน
และด้วยความที่ผมมักจะเป็นหัวหน้ากลุ่มในการจัดกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ
ทำให้ไม่ยากที่ผมจะโทรไปคุยกับพวกเธอ และทำความรู้จักให้มากขึ้น
จนกระทั่งเมื่อเจ้า Destiny เกลอเก่าทำให้ผมได้มาพบกับเธอ...  :smile4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:15:21 AM
เอ๋ ถ้าอย่างงั้น ฮาก้มีด้ายแดงหลายเส้นนะก่ะ

 -123
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อบ ลูกไก่ย่าง ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 10:48:57 AM
ผมกลัวว่าถ้าไอ้ด้ายแดงหลายเส้น..มันพันข้อมือ..ยุ่งนาครับเฮีย..เรื่องที่อ่านมาเนี๋ยะมันอย่างกับอ่านหนังสือศุภักษร..ที่ผมอ่านสมัยมอ.ต้นเลย ทำให้เคลิ้มไปเลยนา
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 11:16:35 AM
ผมกลัวว่าถ้าไอ้ด้ายแดงหลายเส้น..มันพันข้อมือ..ยุ่งนาครับเฮีย..เรื่องที่อ่านมาเนี๋ยะมันอย่างกับอ่านหนังสือศุภักษร..ที่ผมอ่านสมัยมอ.ต้นเลย ทำให้เคลิ้มไปเลยนา



ไม่เป็นไร พกคีมติดเอวเป็นประจำทุกวัน
ถ้าพันมากไป ตัดทิ้งเลย
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: อุเทน47 ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 12:40:20 PM
ผมไม่อยากเล่าเรื่องของผมครับ ถึงแม้ว่ามันจะสุขุมนุ่ม(เน่า)ลึกกว่า...อย่างที่เฮียว่าไว้
ละครสวรรค์เบี่ยง ช่อง 3 เพิ่งจะจบไปเมื่อวานนี้ 7 พค. แฮปปี้เอนดิ้งไปแล้ว  :smile3:
เลยไม่อยากขุดซากอดีตที่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาขึ้นมาอีกครับ ต้องขออภัยจริงๆ  :pray:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Putsiland ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 03:18:15 PM
ผมไม่อยากเล่าเรื่องของผมครับ ถึงแม้ว่ามันจะสุขุมนุ่ม(เน่า)ลึกกว่า...อย่างที่เฮียว่าไว้
ละครสวรรค์เบี่ยง ช่อง 3 เพิ่งจะจบไปเมื่อวานนี้ 7 พค. แฮปปี้เอนดิ้งไปแล้ว  :smile3:
เลยไม่อยากขุดซากอดีตที่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาขึ้นมาอีกครับ ต้องขออภัยจริงๆ  :pray:

โถ....พี่อุเทนย์ครับแฟนๆรออยู่....เล่าเลยครับอย่าคิดนาน เพี่อคนอ่านจะได้เป็นบทเรียนสอนใจ......ha ha
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 09:03:08 PM
เอ๋ ถ้าอย่างงั้น ฮาก้มีด้ายแดงหลายเส้นนะก่ะ

 -123
ของเฮียมันบ่ใจ้หลายเส้นบ่ดายก้า มันเป็นยุเป็นย่วม เป็นพวงเลยกำแล้วก้า  :x
อีกอย่างมันบ่ปันข้อมือบ่ดาย มันจะปันอย่างอื่นโตยนิก้า :smile9:

ผมกลัวว่าถ้าไอ้ด้ายแดงหลายเส้น..มันพันข้อมือ..ยุ่งนาครับเฮีย..เรื่องที่อ่านมาเนี๋ยะมันอย่างกับอ่านหนังสือศุภักษร..ที่ผมอ่านสมัยมอ.ต้นเลย ทำให้เคลิ้มไปเลยนา
:smile6: ใครจะไปนึกล่ะครับบางครั้งชีวิตคนมันก่อคล้ายนิยาย
แต่บ่แน่นา บางทีอันนี้อาจเป็นแค่นิยายที่ผมแต่งเล่นเอามันส์ก่อได้เหมือนกั๋นครับพี่น้อง  :smile10:
จริงๆ ผมว่าทุกคนมีเรื่องราวกั๋นทั้งนั้นแหละครับ อยู่ที่ว่าเฮาจะมีมุมมองในเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเฮาจะใดมากกว่าเนอะ  :smile6:

ผมไม่อยากเล่าเรื่องของผมครับ ถึงแม้ว่ามันจะสุขุมนุ่ม(เน่า)ลึกกว่า...อย่างที่เฮียว่าไว้
ละครสวรรค์เบี่ยง ช่อง 3 เพิ่งจะจบไปเมื่อวานนี้ 7 พค. แฮปปี้เอนดิ้งไปแล้ว  :smile3:
เลยไม่อยากขุดซากอดีตที่เน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาขึ้นมาอีกครับ ต้องขออภัยจริงๆ  :pray:

อันนี้ผมบ่ยอมเน้ออ้ายเก๋ ใคร่ฟังเรื่องราวของอ้ายเก๋พ้อง
เพราะเฮียถึงขั้นรับประกันความมันส์แล้ว
บ่อั้นผมจะบ่อเล่านิทานชาวหอต่อแล้วเน้อ -17
แล้วจะปล่อยเรื่องนี้หื้อบ่จบโตย   :laugh2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 08, 2008, 09:09:50 PM
คนที่เมื่อแรกเจอก็ทำให้ผมรู้สึกคุ้นตาอย่างบอกไม่ถูก  023
ผมทำทุกอย่างที่จะได้รู้จัก และพูดคุยกับเธอครับ
จัดกิจกรรมระหว่างกลุ่มของพวกเราให้มากขึ้นเพียงเพื่อจะได้รู้จักกับเธอ  -26
แต่เชื่อมั๊ยครับ เธอกลับไม่เคยร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ผมจัดขึ้นเลย  :angry4:
ผมเพียรพยายามที่จะหาทางรู้จักกับเธอให้ได้แต่ก็กลายเป็นลงแรงเปล่า
ผมรู้แต่ว่าเธอเรียนเมเจอร์เดียวกับผม เรียนหลายวิชาด้วยกัน
แต่ผมก็ยังไม่เคยได้คุยกับเธอเลย
แม้จะรู้ว่าเธอชื่ออะไร แต่ก็ไม่ได้เบอร์โทรของเธอ
ทำให้ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่น่าค้นหา
ราวกับสายลมแห่งความหวั่นไหวผ่านเข้ามาในใจผมอีกครั้งหนึ่ง  :smile2:
เวลาผ่านไปจนกระทั่งขึ้นเทอมสอง...

จบแล้วครับ ถ้าอ้ายเก๋บ่สัญญาว่าจะเล่าเรื่องอ้ายเก๋หื้อกั๋นฟัง
ผมจะจบเรื่องของผมตะอี้แต้ๆ เน้อ 
:laugh1: :laugh2: :laugh1: :laugh2: :laugh1: :laugh2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: อุเทน47 ที่ พฤษภาคม 09, 2008, 09:28:43 AM
ผมลืมไปหมดแล้วนา ตึงวันนี้ก็เป็นสุขดีแล้ว ไม่ดีกว่าครับ น้าเก่ง   :try:
น้าเก่งเล่าต่อเถอะสนุกดีออก  -01
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 12, 2008, 04:45:52 PM
อึ๋ ฮาตึงบ่เล่าต่อแล้ว  :laugh2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อบ ลูกไก่ย่าง ที่ พฤษภาคม 12, 2008, 05:57:27 PM
เล่า เล่า...เล่าต่อครับอ้ายเก่ง..กำลังติดตามสนุกครับ ชีวิตของคนเรามันก็เหมือนละครจริงๆครับเพียงแต่ว่ามันจะเป็นแฟนฉัน เพื่อนสนิท หรือว่า เพื่อนกูรักมึงว่ะ บางทีมันอาจจะกลายเป็นฉันรักผัวเขาในท้ายที่สุดก็ได้ รึเปล่าครับ?
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 12, 2008, 08:28:54 PM
เล่า เล่า...เล่าต่อครับอ้ายเก่ง..กำลังติดตามสนุกครับ
ชีวิตของคนเรามันก็เหมือนละครจริงๆ ครับ
เพียงแต่ว่ามันจะเป็นแฟนฉัน เพื่อนสนิท หรือว่า เพื่อนกูรักมึงว่ะ
บางทีมันอาจจะกลายเป็นฉันรักผัวเขาในท้ายที่สุดก็ได้ รึเปล่าครับ?
โฮ่ โฮ่ ปานนั้นเชียวหรือครับอ้าย
แต่ว่ามีก่า ผมเล่าอยู่คนเดียวมันบ่ม่วนอ่ะ
เดียวคนอ่านจะก้ายเสียก่อนอ่ะ มีก่าปู่เฒ่านี่เล่าอะหยั่งก่อบ่ฮู้อยู่คนเดียว  -08
อยากอ่านของคนอื่นพ้องอ่ะ  -08
ดูดิเล่ามาสองเรื่องแล้ว จบไปแล้วเรื่องหนึ่ง
อีกเรื่องก่อใกล้จบ แถมจะเริ่มเรื่องใหม่อีก มีก่าคนอ่าน
บ่มีใครมาแลกเปลี่ยนหรือร่วมแชร์ประสบการณ์โตยอ่ะ มันบ่มันส์เลย  -09
บ่เอาแล้วล้มโต๊ะ เลิกเลยดีก่า  -04
ฮาก่อลืมไปหมดแล้วเหมือนกั๋น  -021

 :laugh2: :laugh1: :laugh2: :laugh1: :laugh2: :laugh1:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 13, 2008, 09:38:16 PM
ไหนๆ ก่ออยู่หล่ายดอยแล้วก่อเลยว่าเอาเพลงหล่ายดอยมาฝากก่อแล้วกั๋นครับ  :smile10:

http://www.ziddu.com/download.php?uid=aKubmZamaK6elOKnYaqhkZSqXqucmpmm1 (http://www.ziddu.com/download.php?uid=aKubmZamaK6elOKnYaqhkZSqXqucmpmm1)
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 14, 2008, 08:50:53 PM
ว่าแล้วก่อล้อเล่นกับอ้ายเก๋มาเสียหลายวัน
เริ่มแล้วก่อต้องหื้อจบครับ จะได้ไปเริ่มเรื่องใหม่ต่อเนอะ  :smile5:

ในที่สุดผมก็ได้รู้จักและพูดคุยกับเธอง่ายอย่างไม่น่าเชื่อครับ
ก็ผ่านทางเพื่อนในเมเจอร์ที่เคยอยู่ร่วมชมรมเดียวกับผมเมื่อตอนปีหนึ่งครับ
เธอเป็นเพื่อนสนิทของเพื่อนผมครับ  เฮ้อ!!!  -25
ทำอ้อมไปอ้อมมาซะยากเชียว เธอของผมคนนี้ชื่อ กุล ครับ
เมื่อได้คุยกันทุกอย่างกลับกลายเป็นว่าเหมือนเราได้เคยรู้จักกันมานานแล้ว
ประมาณเนี้ยะ
แล้ววันหนึ่งเธอนั้นก็มาฉันรู้สึกเธอนั้นคุ้นตา
เหมือนบางสิ่งฉุดฉันดึงเธอเข้าหาให้มารักและรู้ใจกัน
ตั้งแต่เจอะเรานั้นคุ้นเคยเหมือนรู้จักมาแล้วเนิ่นนาน
ถ้าจะบอกเหตุผลเรื่องเธอกับฉันก็ไม่เห็นจะมีข้อไหน
บางครั้งฉันคิดเองว่าฟ้าสร้างเรามาอย่างตั้งใจ

หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 14, 2008, 08:56:53 PM
ผมสนิทกับกุลอย่างรวดเร็วราวกับว่าเราทั้งสองต่างรู้จักกันมานานแล้ว
ผมก็รู้จากกุล ว่าเธอเคยเห็นผมมาก่อนนี้นานแล้ว
ผมเคยทำกิจกรรมร่วมกลุ่มกับเธอเมื่อตอนปีหนึ่ง
เคยเรียนร่วมกับเธอมาหลายวิชาระหว่างที่เรียน ปีหนึ่งและปีสอง
กุลเคยเห็นผมหลับในห้องจนถูกอาจารย์บางท่านปลุกไปล้างหน้า  -08
รวมทั้งถูกอาจารย์บางท่านขว้างด้วยแปรงลบกระดานมาแล้ว  -06
แต่ผมกลับไม่เคยสังเกตุเห็นเธอเลย เมื่อได้คุยกันในเรื่องนี้เธอกลับแซวผมกลับว่า
ก็เป็นเพราะผมมัวแต่สนใจคนที่ผมไปนั่งเรียนด้วยข้างๆ (ถ้าเป็นช่วงปีสองก็คงจะเป็นวานั่นแหละครับ)

อืม...หรือว่าเรื่องราวต่างๆ ชักนำผมมาที่นี่เพื่อเธอคนนี้กันนะ  ????
จะเป็นด้วย destiny ที่นำพาผมห่างไกลบ้านออกมาก็เพื่อมาเจอเธอ
หรือว่ามันเป็นเพียงสายลมลวงอีกครั้งที่จะนำพาให้หนุ่มบ้านนอกต้องชอกช้ำใจอีกครั้ง   -13
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 14, 2008, 09:04:01 PM
ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับกุลพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าเราได้รู้จักกันมานานแล้ว
เราสามารถพูดคุยปรึกษากันได้ทุกเรื่อง ระหว่างนี้กุลก็รับรู้ในเรื่องที่ผมยังคงไปไหนมาไหนกับปอย
ผมไม่เคยปิดบังเธอเลยในเรื่องต่างๆ เธอเองก็ทำตัวเหมือนเพื่อนสนิทที่ผมสามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง
เธอไม่เคยว่าผมในเรื่องใดเลย (แต่แอบมาเฉลยในตอนหลังว่า คนอะไรไปไหนกับแฟนเก่ายังมาเล่าให้เราฟังอยู่ได้  :smile9:)
ผมเองคงต้องยอมรับนะครับว่ายังไม่แน่ใจเท่าไหร่กลัวต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าอีกรอบ   -14
แม่สาวชาวกรุงคงไม่ลวงหลอกให้หนุ่มบ้านนอกต้องชอกช้ำใจอีกรอบนะ  -13


อุอุ แอบเฉลยไปซะแล้ว... :smile4:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 15, 2008, 09:18:57 PM
เวลาผ่านไปความมั่นใจก็เริ่มมากขึ้น
ผมเริ่มแน่ใจแล้วว่าผมได้พบกับใครสักคนที่ผมเหมือนรอคอยมานานแล้ว
ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คงเข้ากับเพลงพรหมลิขิตของบิ๊กแอสนั่นแหละครับ
ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่าในที่สุดเจ้า Destiny เกลอเก่าก็ได้ชักนำผมให้มาพบกับใครสักคนที่จะเป็นเพื่อนชีวิตของผม
เส้นทางชีวิตของผมทั้งหมดถูกนำพามาที่นี่เพื่อวันนี้นี่เอง
เรื่องราวของผมที่ต้องออกจากบ้านมาเพื่อพานพบกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิต
หลายสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมก็คงเพื่อพบกับใครสักคนที่รอเราอยู่ที่ปลายด้ายแดงอีกข้าง
ความรู้สึกบางอย่างบอกกับผมอย่างนั้นเมื่อเวลาผ่านไป
ผมกับกุลคบกันอย่างค่อนข้างสบายใจที่สุด เธอให้ความไว้วางใจกับผมอย่างเต็มที่ และผมเองก็ไม่เคยปิดบังเรื่องใดกับเธอ
ผมทดสอบกุลในเรื่องต่างๆ หลายครั้ง ทะเลาะกันบ้างก็หลายหน
แต่ทุกครั้งผมกับรู้สึกเหมือนเป็นฝ่ายผิดมากกว่า
ยิ่งนานวันก็เหมือนกับผมได้ตามหาส่วนที่ขาดหายไปของผมกลับคืนมาได้แล้ว...
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 15, 2008, 09:26:00 PM
ส่งท้าย...

เวลานี้ผมเหมือนกับได้พบกับใครอีกคนที่รอผมอยู่ที่ปลายสุดของด้ายแดงอีกข้างของผมแล้ว
ผมอาจโชคดีที่ได้พบกับคน คนนั้นของผมเร็ว แต่ใครจะรู้ว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปนานเท่าไหร่ คำตอบนั้นไม่มีใครตอบได้ครับ
ขอเพียงช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน ให้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขที่สุด
อย่างน้อยเราจะคงเหลือความทรงจำดีๆ ไว้ในชีวิตของเราอยู่เสมอครับ

30 เปอร์เซ็นต์เกิดจากพรหมลิขิต 70 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเราจะรู้ด้วยตัวของเราเองครับว่าคนที่อยู่ที่สุดปลายด้ายแดงอีกข้างคนนั้นใช่หรือไม่
บางครั้ง destiny ก็อาจเล่นตลกให้เราได้ไปเจอกับใครอีกคนที่อาจก้าวเข้ามาอีก
แต่ทั้งหมดอยู่ที่คุณจะกำหนดสถานะภาพของมันว่าคุณเลือกที่จะกำหนดให้เป็นอย่างไรต่อไปครับ

ชีวิตของผมหลังจากนี้ผมก็ได้แต่หวังว่าเจ้าเกลอเก่าคงไม่เล่นตลกอะไรกับผมอีก
แต่ถ้าเจ้าเกลอเก่าเข้ามาทักทายอีกครั้งผมอาจมีเรื่องใหม่ๆ มาเล่าให้คุณๆ ฟังกันอีกครับ
ผมยังไม่ลืมครับอย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ 70เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเราเป็นคนกำหนดครับ ไม่ใช่เจ้า Destiny เกลอเก่าครับ

และอยากฝากเพื่อนๆ ทุกคนให้ระลึกไว้เสมอ ความสุขมักจะอยู่กับเราไม่นานครับ
ขอเพียงทุกวันที่ได้อยู่ใกล้ใครสักคนที่เรารักมากๆ ทำให้เค้าและเรามีความสุขในทุกนาทีที่ได้อยู่ร่วมกัน
ความทรงจำนั้นจะอยู่ในใจเราเสมอ จนกว่าจะพบกันใหม่ครับ  :bye:

ก่อนจากขอฝากคำที่จำมาจากหนังสือเล่มหนึ่งที่จำชื่อเรื่องไม่ได้เพราะอ่านนานแล้วครับ

ทุกคืนก่อนนอน ขอเพียงได้ระลึกถึงความทรงจำดีๆ ที่มีให้กับใครสักคน
แม้เพียงพรุ่งนี้จะตื่นหรือไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีก อะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

พบกันใหม่ที่ นิทานชาวหอครับ  -01
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 19, 2008, 09:32:48 PM
To meet someone is Fate.
To be with / To leave someone is Destiny.

พบพาน ถือเป็น วาสนา
อยู่ร่วมหรือจากลา ถือเป็น ชะตากรรม

ไปล่ะ :bye:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: kadLumyai ที่ พฤษภาคม 19, 2008, 10:46:35 PM
 -11 -11 -11 -11 -11 -11

ซุด....หยอด
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: yomja ที่ พฤษภาคม 19, 2008, 11:47:07 PM
ขอมอบเพลง "คู่แท้" ของพี่เบิร์ดให้นะ ชอบเพลงนี้มากเลย  :love: :cheer:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 12:19:49 PM
จบ เสีย แล้ว น่าจะเอาไปพิมพ์ขายนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อบ ลูกไก่ย่าง ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 04:29:54 PM
ผมติดตามอ่านเรื่องราวของอ้ายเก่งมานาน ม่วนขนาดทำให้ผมนึกถึงความไม่แน่นอนหลายๆอย่างในชีวิตคนเรา ใครจะไปรู้อนาคตได้ยังไงครับว่าอะไรคือความแน่นอนที่สุด เพียงแต่ว่าหากคนเราไม่ท้อไม่ยอมแพ้สักวันก็ต้องประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ช่าง(ชีวิตคนเราสามารถสำเร็จ......หลายๆครั้งได้.....แม่นบ่..คับ)

บางคนที่ยืนเคียงข้าง กันมาเป็นปี ๆ
แต่สุดท้าย.. คนที่ยืนเคียงข้างอีกครั้งในวันแต่งงานกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลอยู่ข้างเตียงเวลาคุณเจ็บไข้
แต่สุดท้าย.. คนที่เสียใจแทบบ้าในวันที่คุณตาย กลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณโทรหากันอยู่ทุก ๆ วัน
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณบอกเรื่องน่ายินดีที่สุดกลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าเป็นคนที่คุณรักที่สุด
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณให้ความสำคัญที่สุดในชีวิตกลับเป็นอีกคนนึง
บางคนที่คุณคิดว่าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณรู้สึกกระวนกระวายหากขาดการติดต่อกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าคุณจะขาดเขาไม่ได้ในชีวิต
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ร่วมด้วยกลับเป็นอีกคน
ยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่ยืนเคียงข้างคุณ
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลเวลาคุณเจ็บไข้
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณโทรหากันอยู่ทุกวัน
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดว่ารักที่สุด
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดว่าจะขาดเขาไม่ได้ทั้งชีวิต
เพราะสุดท้าย.. เขาที่คุณแน่ใจ..อาจไม่ใช่…..
อย่าปิดกั้นตัวเอง.. เพียงเพราะ
ความรู้สึกส่วนตัวของคุณ...คิดว่ามันใช่....
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป.. หรือเพราะหากใครคนหนึ่งผ่านมา..
บางสิ่งที่คุณคิดหวัง หรือ ตั้งใจ..
คุณอาจไม่ได้นึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ !!!
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 20, 2008, 09:22:16 PM
เยี่ยมมากๆ ครับสำหรับคำปิดท้ายของอ้ายป๊อบ  -11
 -01 ขอบคุณงามๆ สำหรับข้อความดีๆ ที่โดนใจ๋ในบทสรุปที่สมบูรณ์แบบครับ

จบ เสีย แล้ว น่าจะเอาไปพิมพ์ขายนะเนี่ย
อันนี้ ถ้าเฮียสนับสนุนผมก่อบ่ขัดข้องครับ  022

ปล. ทิ้งท้ายในที่สุดก็มีคนรู้ว่าเป็นใครบ้างในเรื่องราวที่เล่ามา  -07 -09 -16 -02 -14
หัวข้อ: ขอคาราวะสุรา 3 จอกให้กับป๊อบ Adsadawut ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 21, 2008, 07:45:56 AM
20 กว่าปีคงยังไม่สาย ถ้าจะมีสหายรู้ใจเพิ่มอีกสักคน
ขอคาราวะสุรา 3 จอกผ่านหน้าจอ ให้กับสหายรู้ใจครับ
พบกันเมื่อไหร่ค่อยเป็นของจริงนะป๊อบ  -10
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อบ ลูกไก่ย่าง ที่ พฤษภาคม 21, 2008, 08:09:16 AM
ได้เลยครับอ้ายเก่ง..แต่ขอเสริมบรรยากาศในการร่ำสุรา...โดยมีด้ายแดงมาพันรอบๆตัวแล้วขอยืมคีมเฮีย...มาตัดออกก่อนปิ๊กบ้านเน้อครับ :smile1:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Putsiland ที่ พฤษภาคม 21, 2008, 09:22:23 AM
ผมติดตามอ่านเรื่องราวของอ้ายเก่งมานาน ม่วนขนาดทำให้ผมนึกถึงความไม่แน่นอนหลายๆอย่างในชีวิตคนเรา ใครจะไปรู้อนาคตได้ยังไงครับว่าอะไรคือความแน่นอนที่สุด เพียงแต่ว่าหากคนเราไม่ท้อไม่ยอมแพ้สักวันก็ต้องประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ช่าง(ชีวิตคนเราสามารถสำเร็จ......หลายๆครั้งได้.....แม่นบ่..คับ)

บางคนที่ยืนเคียงข้าง กันมาเป็นปี ๆ
แต่สุดท้าย.. คนที่ยืนเคียงข้างอีกครั้งในวันแต่งงานกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลอยู่ข้างเตียงเวลาคุณเจ็บไข้
แต่สุดท้าย.. คนที่เสียใจแทบบ้าในวันที่คุณตาย กลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณโทรหากันอยู่ทุก ๆ วัน
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณบอกเรื่องน่ายินดีที่สุดกลับ เป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าเป็นคนที่คุณรักที่สุด
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณให้ความสำคัญที่สุดในชีวิตกลับเป็นอีกคนนึง
บางคนที่คุณคิดว่าคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณรู้สึกกระวนกระวายหากขาดการติดต่อกลับเป็นอีกคน
บางคนที่คุณคิดว่าคุณจะขาดเขาไม่ได้ในชีวิต
แต่สุดท้าย.. คนที่คุณที่ใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ร่วมด้วยกลับเป็นอีกคน
ยังแน่ใจ...กับใครบางคนที่ยืนเคียงข้างคุณ
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คอยเฝ้าพยาบาลเวลาคุณเจ็บไข้
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณโทรหากันอยู่ทุกวัน
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดว่ารักที่สุด
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
คุณยังแน่ใจ.. กับใครบางคนที่คุณคิดว่าจะขาดเขาไม่ได้ทั้งชีวิต
เพราะสุดท้าย.. เขาที่คุณแน่ใจ..อาจไม่ใช่…..
อย่าปิดกั้นตัวเอง.. เพียงเพราะ
ความรู้สึกส่วนตัวของคุณ...คิดว่ามันใช่....
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป.. หรือเพราะหากใครคนหนึ่งผ่านมา..
บางสิ่งที่คุณคิดหวัง หรือ ตั้งใจ..
คุณอาจไม่ได้นึกถึงมันเลยด้วยซ้ำ !!!
อ้ายป๊อบ.......ซี้งสุดๆ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 21, 2008, 09:25:37 AM
ได้เลยครับอ้ายเก่ง..แต่ขอเสริมบรรยากาศในการร่ำสุรา...โดยมีด้ายแดงมาพันรอบๆตัวแล้วขอยืมคีมเฮีย...มาตัดออกก่อนปิ๊กบ้านเน้อครับ :smile1:
เออ...  024 อ้ายป๊อบครับแบบนี้มันออกแนว... แล้วนาครับ
เอาเป็นว่าหื้ออ้ายป๊อบลองก่อนก่อแล้วกั๋นครับ
ส่วนผมขอเป็นผู้ชม และให้กำลังใจ๋อยู่ข้างๆ ก่อแล้วกั๋น  :smile9:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ พฤษภาคม 22, 2008, 09:06:35 PM
.... :smile6:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: KITTI ที่ กรกฎาคม 17, 2008, 02:31:07 PM
 -11 :cheer:
หัวข้อ: ขอแบ่งปันความสุขให้กับเพื่อนๆ ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กันยายน 06, 2008, 09:27:21 AM
ขอขุดกระทู้สักวันไปเจออันนี้มาเด็ดคร๊าบ
http://www.aisactivities.com/mpaydestiny/ (http://www.aisactivities.com/mpaydestiny/)
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: กระบี่อยู่ที่ใจ ที่ กันยายน 06, 2008, 12:24:43 PM
พึ่งจะได้อ่านงานเขียนระดับ Master Piece

ถ่ายทอดอารมณ์ บุคคล ได้ดีมั๊กๆ

น่ารวมเล่มขาย ชุด "เรื่องสั้นจากหล่ายดอย"
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กันยายน 06, 2008, 11:53:33 PM
-11 :cheer:
พึ่งจะได้อ่านงานเขียนระดับ Master Piece

ถ่ายทอดอารมณ์ บุคคล ได้ดีมั๊กๆ

น่ารวมเล่มขาย ชุด "เรื่องสั้นจากหล่ายดอย"
เหอะๆ กว่าเสี่ยกานต์ และเสี่ยปุ๊ยจะเข้ามาอ่านได้ กระทู้ตกไปกลางหน้าล่ะ
นี่ว่าขุดขึ้นมาอีกรอบเน้อ แต่ชอบเพลงใน link ที่ให้ก่อนหน้านี้จริงๆ ครับอยากเอามาป่ะให้ดูเหมือนกันนะ
แต่ว่าตามไปดูเอาเองดีกว่า ผมว่าความหมายของเรื่องราวมันบอกอะไรบางอย่างกับชีวิตเรานะครับ
ไปดูกันเถอะเพื่อนๆ ทั้งหลาย  023
หัวข้อ: ฝากให้ฟังสักเพลงที่เข้ากับเรื่องนี้ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กันยายน 28, 2008, 10:48:59 PM
http://www.youtube.com/v/WG-bcZTCjWU&hl=en&fs=1
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: sahai ที่ ตุลาคม 23, 2008, 03:34:05 PM
ชอบมากครับ
เหมือนได้กลับไปใส่กางเกงขาสั้น โชว์ขนหน้าแข้ง อีกครั้ง
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ ตุลาคม 24, 2008, 03:39:57 PM
เอ่อ
อ้ายใส่ขายาวก่ได้ครับ
มัน
หยึ๋ยย
 -03
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ ตุลาคม 24, 2008, 06:02:13 PM
ขนอย่างอื่นของสหายเต็มไปหมด แล้วบนกระบานของท่านมานหายปายหนาย  -07
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ ตุลาคม 24, 2008, 09:28:09 PM
เหอะๆ กระทู้ตกสำรวจกว่าจะได้เข้ามาอ่านกันเนอะ  :laugh1:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: KITTI ที่ ตุลาคม 26, 2008, 10:22:19 PM
 :smile1:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ มกราคม 28, 2009, 10:40:16 PM
ขอขุดอีกสักครั้งด้วยสิ่งนี้ครับ  :V

http://www.youtube.com/v/H0oxqcsyHXs&hl=en&fs=1
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อบ ลูกไก่ย่าง ที่ มกราคม 29, 2009, 09:32:05 AM
 -11จี๊ดดดดเลย..เพื่อนฝูงดูแล้วนึกถึงสมัยยังรุ่นๆ...ชีวิตคนเรามันก็เหมือนการเดินทางไปยังที่ที่เราไม่ไม่รู้จัก

สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนในหนัง..คือโอกาสที่เราจะเจอใครอาจจะไม่มีถ้าเราไม่มีความกล้าที่จะเริ่มต้นก่อน..นั่นแหละพรหมลิขิต
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: แมค ตีนดอย ที่ มกราคม 29, 2009, 09:47:43 AM
http://www.youtube.com/v/Z5llx-rVNLQ&hl=en&fs=1
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: แมค ตีนดอย ที่ มกราคม 29, 2009, 10:09:39 AM
ความรักเหมือนโรคา              บันดาลตาให้มืดมน
ไม่ยินและไม่ยล                   อุปสรรคใดใด
    ความรักเหมือนโคถึก         กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดออกจากคอกไป            บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง
    ถึงหากจะผูกไว้                ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง                   บ หวนคิดถึงเจ็บกาย

http://www.youtube.com/v/yXKQa5HCLlM&hl=en&fs=1
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ มกราคม 29, 2009, 11:56:53 AM
 -01 ขอบคุณจัดนักครับอ้ายแม็คที่หาเพลงดีๆ มาฝากกั๋น
ผมขุดกระทู้นี้คงบ่ว่ากั๋นเนอะ  -23
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: KITTI ที่ มกราคม 29, 2009, 07:07:20 PM
 :V
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: eak ที่ มกราคม 30, 2009, 08:17:22 AM
 :smile7:รับได้
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ มกราคม 30, 2009, 08:53:48 AM
เอาเต๊อะ คนเฒ่าก่ต้องกึ๊ดถึงความหลังครั้งเก่าแบบจะอี้แหละ  :laugh2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ มกราคม 30, 2009, 10:05:50 AM
เอาเต๊อะ คนเฒ่าก่ต้องกึ๊ดถึงความหลังครั้งเก่าแบบจะอี้แหละ  :laugh2:
เออ...บ่าเฒ่าบ่มีเมียเป็นตัวเป็นตน หนำซ้ำยังมีด้ายแดงปันคอหลายเส้น
ระวังด้ายแดงมันจะรวมกั๋นเป้นเชือกมัดคอต๋ายเน้อ  -07
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ มกราคม 30, 2009, 01:32:38 PM
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  :pray:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2009, 10:49:53 PM
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  :pray:
กรรมของมึงถ้าจะหนักหน่อยว่ะจาน  -07
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 09:14:43 AM
เอาเหอะ จะปี 2512 แล้ว เด๋วโลกก้อแตก รีบใช้ชีวิตให้คุ้ม นึกดูดิ วันนี้ขับรถมาทำงานต้องใช้ความเร็วแค่ 30 เพราะหมอกลงจัดจนมองไม่เห็นทาง อยู่กรุงเทพมา 20 ปี ก้อพึ่งเคยเจอนี่แหละ น่ากลัวจิงๆ รถชนกันเพียบ  -07 -16 -14
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: donggy ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 10:47:04 AM
จารย์โกย สงสัยจะเจอหมอกจนมึน
ปี 2512 มันผ่านมา 40 ปีแล้ว ถ้า
โลกแตกตอนนั้น คงไม่มีพวกเรามา
นั่งชดใช้กรรม อย่างทุกวันนี้หรอก  :cry2: -03 -14
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: korokoso ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 01:33:05 PM
เออ โทษที 2012โว้ยยยยยยย (คศ. นะ)  -09
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2009, 04:39:39 PM
เอาเหอะ จะปี 2512 แล้ว เด๋วโลกก้อแตก รีบใช้ชีวิตให้คุ้ม นึกดูดิ วันนี้ขับรถมาทำงานต้องใช้ความเร็วแค่ 30 เพราะหมอกลงจัดจนมองไม่เห็นทาง อยู่กรุงเทพมา 20 ปี ก้อพึ่งเคยเจอนี่แหละ น่ากลัวจิงๆ รถชนกันเพียบ  -07 -16 -14
:laugh1: จานเบลอกับหมอกซ่ะจริงๆ เลยง่ะ  :laugh2:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Yai P5/6 ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2009, 12:34:52 PM
สงสัยจะเจอหมอกกระจ๋อยไม่ก็หมอกเริ่มหงอยแน่ๆเรยยย
 :x
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 20, 2009, 10:07:28 PM
ขอย้ายขึ้นมาไว้ที่นี่ก็แล้วกันครับ เรื่องมันผ่านมาหลายสิบปีแล้ว
เหมือนกับความทรงจำสีจางๆ จะได้เข้ากับหมวดด้วยครับ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ เมษายน 21, 2009, 09:31:24 AM
ฮา เกย บอกแล้ว ลอ ว่าถ้าด้ายแดงมันปันคอนัก
ก้ จักมีดมาปาดคว่างเฮี๋ย แล้ว ซอะ เส้นใหม่ :angry6:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 21, 2009, 05:22:39 PM
ถ้าเฮียหมายถึงปู้จารย์โกยนา ตอนนี้เชือกที่มัดคอมันมีก่าคนใคร่ได้ว่ะ
หันว่าหมู่เฮาหลายคนตาฮ้อนกันอย่างแรง โดยเฉพาะจารย์บายน่ะ กำลังใคร่ได้แบบนั้นสักคนเลยล่ะ  :smile9:
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ มิถุนายน 24, 2009, 09:56:21 PM
วันนี้ขอเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติมและปรับปรุงสำนวนบางส่วนน่ะครับ
เรื่องบางเรื่องเพิ่งจะนึกออก แต่ไม่รู้ว่าจะใส่ไว้ตรงไหน ก็เลยตามเลยก็แล้วกัน -021
หัวข้อ: ขอขุดอีกครั้งเมื่อไปเจอสิ่งนี้มาครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ สิงหาคม 11, 2010, 09:06:45 PM
ผมและเธอบนทางเส้นขนาน ( น่ารักดี )

- ผมบอกว่าความรักก็เหมือนกับเส้นด้ายบาง ๆ หากขาดไปแล้ว ผูกอย่างไรก็มีปม
- เธอบอกว่าความรักเหนียวแน่นคงทนกว่านั้น มันเปรียบเสมือนผืนผ้ามากกว่า แม้เส้นด้ายจะขาดไปสักเส้น ผ้าก็ยังเป็นผ้าได้อยู่

- ผมไม่พกมือถือ ด้วยเหตุผลว่า พระนเรศวรทรงกู้เอกราชได้โดยไม่ต้องใช้เครือข่าย GSM
- เธอพกมือถือ 2 เครื่อง ด้วยเหตุผลว่า ที่ไทยเสียเอกราชไปเพราะไม่มีเครือข่าย GSMใช้

- ผมใส่กางเกงตัวละ 129 บาท ด้วยเหตุผลว่า จะยี่ห้ออะไรก็ปิดไอ้นั่นได้มิดเหมือนกัน
- เธอใส่กระโปรงราคาตัวละหลายพันบาท ด้วยเหตุผลว่า มันปลอดภัย ถ้าเกิดไฟไหม้กระโปรงที่เธอใส่ เนื้อผ้าจะไม่ละลายติดเนื้อผิวของเธอ

- ผมไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่ผมว่าขนมครก อร่อย! และถูกกว่าเป็นไหน ๆ
- เธอไม่รู้หรอกว่าคุณค่าทางอาหารระหว่างพิซซ่ากับขนมครก อะไรจะมากกว่ากัน แต่เธอชอบกินพิซซ่า ด้วยเหตุผลที่ว่า ขนมครกบางร้านเท่านั้นที่อร่อย แต่พิซซ่าฮัท ทุกร้านมีมาตรฐานเดียวกัน
 
- ผมใช้ปากกาด้ามละ 5 บาท ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนได้ และมันมักจะหายไปทุกครั้งก่อนที่ไส้จะหมด
- เธอใช้ปากกา ยี่ห้อ cross ด้วยเหตุผลที่ว่า ยังไงมันก็เขียนติดกระดาษไม่ต้องสะบัดก่อนใช้ และไม่เลอะเทอะกระเป๋าเสื้อของเธอ

- ผมชอบทำงานอิสระ ทำตามจินตนาการของตัวเอง ไม่ต้องให้ใครบังคับ ไม่ต้องผูกมัดกับระบบ
- บัตรตอกทำงานของเธอไม่เคยขึ้นตัวแดง เธอกลับค่ำทุกวัน เพราะงานทำให้เธอมีระบบระเบียบ และเห็นคุณค่าของชีวิต

- ผมรักตัวของผมเองมากกว่าใครๆ ด้วยเหตุผลว่า ไม่ว่าเราจะทำดีเพื่อใครๆ มากมายขนาดไหนความสุขทางใจที่เราได้ ก็ได้กับตัวเอง
- เธอรักครอบครัวของเธอมากกว่าสิ่งใดๆ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าไม่มีพวกเขา ก็คงไม่มีเธอเกิดมาให้ป่าวประกาศว่าฉันรักตัวฉันเอง

- คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่ผมว่า หาดทรายจะแปรเปลี่ยนไปทุกครั้งตามคลื่นที่กระทบฝั่ง แต่แม้จะเปลี่ยนอย่างไร ทรายก็ยังเป็นทราย และคลื่นก็ยังเป็นคลื่นไม่เปลี่ยน
- คลื่นทะเลให้ปรัชญาแก่เธอว่า ไม่ว่าน้ำทะเลจะขึ้นจะลงอย่างไร คลื่นก็ยังขยันซัดกระทบฝั่ง

- ผมบอกว่าถ้าไม่มี 'ความว่าง' แล้ว 'ความมี' ก็ไร้ความหมาย เพราะความมีต้องวางลงบนความว่าง
- เธอบอกว่าถ้าไม่มี 'ความมี' แล้ว 'ความว่าง' จะมีประโยชน์อะไร มันคงไร้ความหมายเพราะมีความมี ความว่างจึงก่อเกิดการเปรียบเทียบ

- คนอื่นบอกว่า ผู้หญิงรักผู้ชายจาก 0-100 แต่ผู้ชายรักผู้หญิงจาก 100-0 ผมแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายแค่ 0-1 เหมือนไบนารี่ ทำดีมากมายขนาดไหนก็เป็นเพียงแค่ 1 หากผิดพลั้งไป จะเหลือเพียง 0
- เธอแย้งว่าผู้หญิงรักผู้ชายไม่ใช่ 0-1 และไม่ใช่ 0-100 แต่เป็นจาก 100-200 หญิงรักชายได้ 100 และจะมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่เธอปรารถนา

- ผมมองคนที่ความคิด
- เธอแย้งว่าความคิดไม่ใช่นิสัย

- ผมเหมือนกับแก้วใส ๆ จะเห็นคุณค่าตัวเองก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นน้ำมาเติมเต็ม
- เธอเหมือนกับน้ำใส ๆ เธอจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีภาชนะมารองรับ

- ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกัน
- ผมและเธอเหมือนดั่งเส้นขนาน ถึงแม้จะไม่มีวันบรรจบกัน แต่เราก็จะตีคู่ไปด้วยกันเสมอ

- เพราะเธอชอบกินไข่แดง แต่ผมชอบกินไข่ขาว
- เราจึงอยู่ด้วยกันได้ ในไข่ใบสีน้ำเงินแห่งนี้

- ความรัก กับ ความผูกพันธ์
- เนื้อความ ความรัก..กับ ความผูกพัน หน้าตาคล้ายกัน .. เหมือนซ้าย-ขวา
- แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ .. รู้สึกว่า . คิดถึง .. แล้วมาหา คือ .............. รัก
- รู้สึกว่า .. เคยมาหา .. เลยมาหา คือ . ผูกพัน
- รู้สึกว่า .. หิว .. แต่อยากรอ คือ .. รัก
- รู้สึกว่า .. อิ่มแล้ว .. อยากเอามาฝาก คือ .. ผูกพัน
- รู้สึกว่า .. อยากให้เวลากันและกัน คือ .............. รัก
- รู้สึกว่า .. อยากใช้เวลา ด้วยกัน คือ .. ผูกพัน
- รู้สึกว่า .. หงุดหงิดคือทำให้อีกคนไม่สบายใจ คือ .. รัก
- รู้สึกว่า . โกรธคือทำให้อีกคนสำนึกบ้าง คือ .. ผูกพัน
- รู้สึกว่า .... ไม่มีนาทีไหนไม่คิดถึง คือ .. รัก
- รู้สึกว่า .. นาทีไหนที่ว่างจะคิดถึง คือ .... ผูกพัน
- ขอบคุณเหลือเกิน .... ความผูกพัน .. ที่ทำให้รัก
- ขอบคุณเหลือเกิน .. รักที่เป็นมากกว่า .. ความผูกพัน
-----------------------------------------------------------
........... เคยไหมรักใครคนหนึ่ง ด้วยความรู้สึกว่า ....
เคยผูกพันเหมือนเคยรักกัน แล้วพลัดพราก ต้องมาตามหากันเป็นแรมปี
ถ้าเคยรู้สึกอย่างนี้ ยามที่มองแววตาใครคนนั้น แล้วรู้สึกอยากอยู่ข้าง ๆ
เพื่อคอยกางแขนปกป้องและดูแลไปตลอดชีวิต ความรู้สึกนั้น .. เรียกว่า รักและผูกพัน
ความรู้สึกที่ .. มิอาจพรากจากกัน ได้อีกแม้เพียงหนึ่งเสี้ยววินาที


ที่มา http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=308031
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: poomb ที่ สิงหาคม 17, 2010, 12:48:23 PM
 :smile2: เป็นเส้นทางขนานที่ดีมั๊กมากอ้างเก่ง
..อยากจะบอกว่า 
"Don't  think  just Feel"
[/color][/b][/size]
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กันยายน 14, 2010, 09:18:49 PM
อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความเชื่อแล้วล่ะคร๊าบพี่น้อง
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2013, 08:56:26 PM
http://www.youtube.com/v/mRP29S-Cs6Y?version=3&amp;hl=th_TH

กลับมาขุด และเอามาฝาก
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2013, 06:50:15 PM
มันเป็นอย่างงั้นจริงจริงฮาเจอมาแล้วหลายดอกด้วย555แต่ช่างแม่มันเถอะ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กุมภาพันธ์ 12, 2013, 09:04:17 PM
มันเป็นอย่างงั้นจริงจริงฮาเจอมาแล้วหลายดอกด้วย555แต่ช่างแม่มันเถอะ

ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ก็ล้วนผูกพันกันด้วยกรรมที่ได้ทำร่วมกันมา
บางคนแค่ได้พบหน้า กลับคล้ายว่าคบหากันมานาน
บางคนคบกันมาตั้งนาน สุดท้ายกลับกลายว่าเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน ทุกอย่างล้วนเป็นชะตากรรมครับเฮีย
อย่าไปคิดมาก เราอาจทุกข์ และกังวลถึงเขา แต่เจ้าตัวอาจไม่ได้คิด หรือรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำไป
แล้วเราจะมาคอยพะวงเพื่อเขาไปทำไม ก็แค่พบพานคือวาสนา จากลานั้นเป็นชะตากรรมครับ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: joe 302 ที่ กุมภาพันธ์ 15, 2013, 04:56:15 PM
มันเป็นอย่างงั้นจริงจริงฮาเจอมาแล้วหลายดอกด้วย555แต่ช่างแม่มันเถอะ

ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรา ก็ล้วนผูกพันกันด้วยกรรมที่ได้ทำร่วมกันมา
บางคนแค่ได้พบหน้า กลับคล้ายว่าคบหากันมานาน
บางคนคบกันมาตั้งนาน สุดท้ายกลับกลายว่าเหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน ทุกอย่างล้วนเป็นชะตากรรมครับเฮีย
อย่าไปคิดมาก เราอาจทุกข์ และกังวลถึงเขา แต่เจ้าตัวอาจไม่ได้คิด หรือรู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำไป
แล้วเราจะมาคอยพะวงเพื่อเขาไปทำไม ก็แค่พบพานคือวาสนา จากลานั้นเป็นชะตากรรมครับ
-0081 -11
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2013, 12:37:35 PM
รับทราบครับ. แต่อย่างไรก็อดไม่ได้วะ 555ช่าง :-X มัน
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ กุมภาพันธ์ 20, 2013, 09:09:40 PM
ถั่วต้มครับ แช่งหัว แ ม ร่ง มันเถอะครับ
หัวข้อ: Re: Do you believe in Destiny?
เริ่มหัวข้อโดย: Lion King ที่ มีนาคม 01, 2013, 06:54:37 PM
ครับผม -123