วิสกี้ (Whisky)
วิสกี้ คือสุรากลั่นที่ทำจากข้าวชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลากหลายชนิดก็ได้ โดยนำมาหมักแล้วกลั่นให้มีดีกรีสูงขึ้น จากนั้นนำไปเก็บบ่มในถังไม้โอ๊กเพื่อให้ได้สี กลิ่น รสที่ดีขึ้น แต่ก่อนจะนำมาบรรจุขวด บางชนิดยังนำไปปรุงแต่งสี กลิ่น รสอีกครั้ง เพื่อให้ได้มาตรฐานตามความนิยมของผู้บริโภค
วิสกี้ที่นิยมกันมาก นอกจากวิสกี้ของท้องถิ่นแล้ว วิสกี้จากต่างประเทศที่นิยมกันมากก็มี Scotch Whisky,Irish Whisky,American Whisky,Canadian Whisky ซึ่งก็จะมีเอกลักษณ์ในด้าน กลิ่น และรสชาติที่แตกต่างกันออกไปครับ
แอพเพอริทิฟ (Aperitif)
แอพเพอริทิฟ คือเหล้าที่นิยมดื่มก่อนอาหาร เป็นเครื่องดื่มเก่าแก่ จัดอยู่ในประเภทเหล้ายา นิยมมากในประเทศฝรั่งเศส อิตาลี ทำจากเหล้า เหล้าองุ่น สมุนไพรและเครื่องเทศ แบ่งได้ 3 ชนิด
1. เวอร์มุธ (Vermouth) เป็นเหล้ายาทำจากรากไม้ รากยา และเครื่องเทศ รสชาติคล้ายๆยาบำรุงเลือดลมของไทย มีหลายยี่ห้อ เช่น Martini,Cinzano,Barbero,Dubonet,Pimm's No.1 เป็นต้น
2. บิตเตอร์ (Bitter) เป็นเหล้ายาที่มีรสขม นิยมดื่มแก้โรคกระเพาะ และช่วยย่อยอาหาร บางชนิดขมมาก แต่บางชนิดก็ขมอมหวานเช่น Campari,Fernet,Branca,Angostura Bitter
3. อนิซ (Anis) เป็นเหล้ายาสีเหลืองใสทำมาจากเมล็ดของ Anis มีกลิ่นหอมเย็นๆ นิยมดื่มแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เช่น Pernod,Ricard,Pastis
เหล้าแอพเพอริทิฟ นอกจากจะนิยมนำมาดื่มเพื่อเป็นยาแล้ว ยังนิยมนำไปทำเครื่องดื่มผสมอื่นๆอีกมากมาย
ไวน์ (Wine)
ไวน์ หรือที่เรียกว่า เหล้าองุ่น เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย แบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้ครับ
1. Table Wine หรือ Still Wine คือไวน์ที่หมักจากองุ่น โดยไม่ต้องเพิ่มเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใดลงไป ไม่มีแก๊ส ดีกรีที่นิยมก็ 10-13 ดีกรี นิยมดื่มในทุกโอกาส แต่ส่วนใหญ่จะดื่มประกอบอาหาร เพื่อเจริญอาหารและชูรสชาติของอาหาร มี 3 สี
- ไวน์แดง (Red Wine) จะมีตั้งแต่สีแดงอ่อน ถึงแดงเข้ม ขึ้นอยู่กับชนิดขององุ่นที่นำมาหมัก และระยะเวลาในการหมัก ส่วนใหญ่ไวน์แดงจะมีรสฝาด และให้มีรสหวานน้อยมาก เรียกว่า Dry นิยมดื่มโดยไม่แช่เย็น
- ไวน์ขาว (White Wine) จะมีตั้งแต่เหลืองซีดจนถึงเหลืองทอง ลักษณะทั่วไปจะมีรสอ่อน กลิ่นน้อย ความหวานมีตั้งแต่หวานน้อย จนถึงหวานมาก ไม่มีรสฝาด นิยมดื่มแบบแช่เย็นครับ
-ไวน์ชมพู (Rose Wine) จะมีสีตั้งแต่ชมพูอ่อนจนถึงเกือบแดง ไวน์สีชมพูจะมีลักษณะระหว่างไวน์ขาวกับไวน์แดง คือมีความฝาดเล็กน้อยและมีรสเปรี้ยวอมหวาน จึงเป็นที่นิยม เพราะดื่มง่าย และนิยมแช่เย็นก่อนดื่ม
2. Sparkling Wine คือไวน์ที่มีแก๊ส จึงทำให้มีรสซ่า มีทั้งสีขาว ชมพูและแดง Sparkling Wine ใช้กรรมวิธีในการหมักไวน์ซ้ำเป็นครั้งที่สองภายในขวด และเก็บรักษาแก๊สนี้ไว้ จึงทำให้เกิดรสซ่า เป็นที่นิยมกันมาก จึงมีการจดลิขสิทธิ์ไว้ในชื่อ" cham pagne" ของฝรั่งเศส ส่วนไวน์ที่ผลิตด้วยกรรมวิธีคล้ายคลึงกันจะใช้คำว่า"Sparkling Wine" แชมเปญนิยมดื่มเพื่อแสดงความยินดีต่อกัน เสิร์ฟโดยแช่เย็นจัด
3. Fortified Wine คือไวน์ที่เพิ่มแอลกอฮอล์ให้สูงประมาณ 18-19 ดีกรี จะมีกลิ่น รส และแอลกอฮอล์มากกว่าไวน์ธรรมดาแช่เย็นเพียงเล็กน้อยก่อนดื่มครับ
รัม (Rum)
รัม เป็นเหล้าที่กลั่นจากอ้อยหรือกากน้ำตาล ผลิตมากตามหมู่เกาะฝั่งทะเลคาริเบียน ซึ่งปลูกอ้อยกันมาก แต่ก็มีผลิตจำหน่ายกันหลายประเทศเช่น Puertorico,Jamaica,Demeraran,Barbados เป็นต้น
รัมแยกตามความนิยมเป็น 3 ชนิดด้วยกัน คือ
1. รัมขาว (White Rum) เป็นรัมที่มีสีใส บางชนิดไม่ต้องเก็บบ่ม แต่บางชนิดต้องเก็บบ่มในถังไม้เพื่อให้กลิ่นรสดีขึ้น บางครั้งเรียกว่า Silver Rum เหมาะสำหรับนำไปผสมค็อกเทลที่ไม่ต้องการให้สีเปลี่ยน
2. รัมทอง (Gold Rum) เป็นรัมที่มีสีเหลืองใส ได้จากการเก็บบ่มในถังไม้เพื่อให้เกิดสี หรือผสมสี กลิ่น รสชาติ ด้วยคาราเมล (Caramel) ที่ได้จากการเคี่ยวน้ำตาล เป็นสีเหลืองทอง เพื่อให้ได้เหล้ารัม ที่มีกลิ่น สี รสชาติมากขึ้นกว่าเดิม
3. รัมดำ (Dark Rum) เป็นรัมที่มีสีเกือบดำ ได้จากการเก็บบ่มไว้ในถังไม้เพื่อให้เกิดสี และผสมกับคาราเมลที่เคี่ยวจนเป็นสีดำเกือบไหม้ จะได้กลิ่นและรสชาติมากขึ้น
เหล้ารัมนิยมนำไปทำค็อกเทลมากครับ ที่รู้จักกันมากคือ Rum Coke หรือ Cuba Libre,Mai Tai นอกจากนั้น ยังนำไปผสมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ต่างๆ ที่เรียกว่า Punch
เหล้ารัมที่มีจำหน่ายจะมีดีกรีราว 40 ดีกรี แต่มีบางชนิดผลิตให้มีดีกรีสูงมากถึง 75.5 ดีกรี หรือที่เขียนว่า 151 Proof เพื่อให้เครื่องดื่มผสมมีความแรงเพิ่มขึ้น
ที่มา
http://us.geocities.com/zoneubon/cocktail.htm