พฤศจิกายน 01, 2024, 07:11:51 AM

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนครับ กรุณาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อโพส ดูไฟล์แนบ และเข้าสู่บอร์ดอื่นๆ
กรุณาอย่าสมัครสมาชิกเพื่อโฆษณาเวปไซด์ หรือสินค้าใดๆ รวมถึงการเสนอขายสินค้าทุกชนิด
หากพบเห็น ทางทีมงานจะทำการตักเตือนก่อนในครั้งแรก
แต่หากยังฝ่าฝืนกระทำการดังกล่าวอีกทีมงานจะดำเนินการลบสมาชิกของท่านทันทีตามข้อตกลงในการสมัครสมาชิกครับ


หลังจากลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิกใหม่แล้วโปรดตัวสอบ e-mail ของคุณ หรือทดลอง log in ได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ
*** บางครั้ง e-mail อนุมัติอาจอยู่ใน จดหมายขยะ หรือ Spam ขอบคุณครับ

ผู้เขียน หัวข้อ: ปมสินบน 18 ล้านนำเข้าเหล้าอาฟตา...ปัญหาเหล้าสกอตสวมสิทธิอาฟตา เลี่ยงภาษี...  (อ่าน 9544 ครั้ง)

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
                ไทยรัฐออนไลน์ : สกู๊ปหน้า 1 ชี้ประเด็นไม่ซับซ้อนนี้เอาไว้นานแล้วตั้งแต่ต้นปี 2546 ก่อนที่จะเกิดข่าวฉาวบริษัทเหล้านอกยักษ์ใหญ่โดนข้อหาติดสินบนระดับโลกในวันนี้

                จ่ายสินบนกว่า 81 ล้านบาท ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี เพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านภาษีและการจำหน่ายเหล้าสกอต ตลอดจนสุรายี่ห้ออื่นๆ ในประเทศเอเชีย

                สำหรับไทย บริษัทเหล้านอกยี่ห้อนี้ ก็มีข้อมูลว่าควักเงินให้สินบนกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงคนหนึ่งในช่วงปี 2547-2551 เพื่อให้ช่วยวิ่งเต้นในการสู้คดีด้านภาษีและศุลกากรหลายคดี เป็นตัวเลข 18 ล้านบาท

                ย้อนรอยปมเลี่ยงภาษีที่ตีแผ่ไปในครั้งนั้นที่เพิ่งมาชัดเจนมากขึ้นในวันนี้ ไม่น่าเชื่อว่าในยุคนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเหมือนกับแกล้งหลับตาแสร้งไม่รู้ ประหนึ่งเป็นเรื่องใหม่ กฎหมายใหม่...กติกาการค้าเสรีอาเซียน ให้เหล้าสกอตจากอังกฤษมาสวมสิทธิเป็นเหล้าฟิลิปปินส์

                กระบวนการหากินพุงกาง ฉ้อฉลภาษีประเทศชาติ...อุ้มชูพ่อค้าให้ได้ประโยชน์? ที่ว่าเป็นขบวนการนั้นก็เพราะว่าไม่ใช่ว่าจะทำกันแบบโฉ่งฉ่างรวดเดียว ลอตเดียวจบ หากแต่มีการทดลองทำกันก่อน เริ่มกันจากเล็กๆ

                เดือนมกราคม 2546...มีบันทึกของกรมศุลกากรแจ้งว่า “มีการนำเข้าเหล้าจากฟิลิปปินส์มาทั้งหมด 120 ขวด หรือ 10 ลัง”

                ข้อมูลนี้ดูผิวเผินไม่น่าสนใจหากแต่เป็นเรื่องน่าฉงนสงสัยยิ่งใหญ่สำหรับผู้รู้ที่มีคำถามสำคัญที่ว่า เหตุไฉน?...นำเข้าทั้งที สู้อุตส่าห์ขนมาทางเรือบรรทุกสินค้าข้ามประเทศ ขนมาทำไมแค่ 10 ลัง...

                ไม่ขนเยอะเป็นร้อยๆลัง พันลัง หมื่นลังกันไปเลย

                ขนน้อยๆอย่างนี้ จะคุ้มค่าส่งเชียวหรือ เพราะปกติทั่วไปการนำเข้าสุราต่างประเทศเข้ามาขายอย่างน้อยๆก็ต้องว่ากันที่หลักร้อยลังขึ้นไป

                คำตอบให้ความกระจ่างมีทางเดียว นี่เป็นกระบวนการโยนหินถามทาง หยั่งเชิงดูว่าถ้านำเข้าด้วยกระบวนการอย่างนี้ ข้อมูลเอกสารรองรับอย่างนี้ จะมีปัญหาอะไรตามมาอย่างไร...ถ้าทางสะดวกปลอดโปร่ง แน่นอนว่าเหล้าเลี่ยงภาษีขบวนการนี้จะยกโขยงตามมาอีกมหาศาล

                ปรากฏว่าผลที่ออกมา...ก็เป็นเช่นนั้น ชี้ได้จากตัวเลขนำเข้าลอตต่อมา ที่เพิ่มยอดนำเข้าแบบก้าวกระโดดมาเป็น 1,848 ลัง...ลอตที่ 3 ขยับมาเป็น 5,544 ลัง

                และลอต 4...5...6...7 สั่งเข้ามาลอตละกว่า 7,000 ลัง

                กระทั่งถึงลอตสุดท้าย ทว่าโชคไม่เข้าข้างเมื่อเส้นทางที่ว่าโล่งฉลุยกลับไม่เปิดสะดวก สังคมไทยเริ่มได้กลิ่นเหล้าสกอตอังกฤษสวมสิทธิอาฟตามีปัญหา เพราะสื่อมวลชนหลากหลายแขนงเริ่มขุดคุ้ยเป็นข่าวดัง

                ผลที่ตามมา...กรมศุลกากรไม่กล้าขยับ เมื่อรวมๆกันแล้วเหล้าอาฟตาลักไก่เลี่ยงภาษีหลายหมื่นลังจำต้องค้างเติ่งอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย ว่ากันว่าช่วงเวลานั้นมีแรงล็อบบี้ขนานใหญ่ที่สั่งตรงมาจากต่างประเทศ บีบข้าราชการระดับสูงกรมหนึ่ง สังกัดกระทรวงการคลัง ทำหนังสือเร่งรัดให้ปล่อยเหล้าลอตนี้ออกมา

                ใครที่ติดตามเรื่องนี้ น่าจะพอรู้ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสุราต่างประเทศในวันนั้น มี 2 หน่วย... “กรมศุลกากร” กับ “กรมสรรพสามิต” จะออกจากไหน ถึงวันนี้น่าจะมีความกระจ่างกันพอสมควรแล้ว

                ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อธิบดีกรมสรรพสามิตยุคนั้น ให้ทัศนะในมุมนักวิชาการถึงกรณีปัญหาเหล้าสกอตสวมสิทธิอาฟตาไว้ว่า “ภาษีของประเทศชาติจะต้องหายไปเป็นจำนวนมาก”

                ปี 2545 อัตราภาษีนำเข้าสุราต่างประเทศอยู่ที่ 62%...มาถึงปี 2546 อัตราภาษีลดลงเหลือ 61%...เหล้าสกอตสวมสิทธิอาฟตาจ่ายภาษีศุลกากรแค่ 5%...ไม่เพียงประเทศชาติจะเก็บภาษีนำเข้าได้น้อยเท่านั้น ภาษีสรรพสามิตก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เก็บได้น้อยลงเข้าไปอีก

                ความเสียหายเรื่องภาษีลึกเร้นไปกว่านั้น...ปกติเหล้าสกอตที่นำเข้ามาในประเทศไทย เหล้าเกรด 3 ที่เรียกกันว่า “เหล้าเซกันดารี่”

                ...เหล้าระดับเดียวกันที่มีปัญหาสวมสิทธิอาฟตาที่มีปัญหานี้แหละ สนนราคานำเข้าจะอยู่ที่ขวดละประมาณ 50 บาท

                เมื่อส่งมาถึงเมืองไทย ถ้าเสียภาษีศุลกากรในอัตรายุคนั้น 61%...จะต้องบวกอีก 30.50 บาท ราคาเหล้าก็จะอยู่ที่ขวดละ 80.50 บาท

                แต่เหล้าที่ว่านี้จะขายได้ ก็ต้องเสียภาษีสรรพสามิต

                อีก 50% เหล้าขวดละ 80.50 บาท ก็ต้องบวกเข้าไปอีก 40.25 บาท

                ถ้าเป็นเหล้าสวมสิทธิอาฟตา เสียภาษีศุลกากรแค่ 5% ก็จ่ายภาษีแค่ขวดละ 2.50 บาท...รวมราคาอยู่ที่ขวดละ 52.50 บาท...

                บวกภาษีสรรพสามิตอีก 26.25 บาท ต่างกันขนาดไหนเห็นชัดเจนอยู่แล้ว

                ปีหนึ่งๆ ประเทศไทยนำเข้าเหล้ากลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 1.8 ล้านลัง หรือราวๆ 21 ล้านขวด ถ้าเจออย่างนี้จะสูญเงินภาษีมากถึงปีละ 840 ล้านบาท

                ที่ผ่านมาผลกระทบจากเหล้าอาฟตาราคาถูกไม่จบเพียงเท่านี้ หากแต่ยังผูกโยงไปถึงกลุ่มธุรกิจสุราพื้นบ้านไทย ที่ต้องรับกับปัญหาการทะลักล้น...เข้ามาตีตลาดของเหล้าอาฟตาราคาถูก

                ตลาดเหล้าอาฟตาราคาถูกที่จะเข้ามาตีตลาดสุราพื้นบ้าน ต้องเป็นเหล้าที่มีราคาสูสีกัน...จับตาไปที่เหล้านอก ประเภทสกอตวิสกี้และเหล้าอื่นๆ จากยุโรป...ก่อนหน้าที่จะใช้สิทธิอาฟตาลดภาษี มีราคาค่อนข้างสูง แบ่งชัดเจนว่าจับนักดื่มคนละกลุ่ม

                เมื่อเหล้าเหล่านี้ใช้กติกาอาฟตา ทำให้ราคาถูกลง ในแง่การตลาด แน่นอนว่า บริษัทเหล้าก็พร้อมที่จะเอาเม็ดเงินที่ไม่ต้องจ่าย...โหมทำการตลาดด้วย สารพัดแคมเปญ กระตุ้นยอดขาย ให้คอเหล้า...อยากดื่มเหล้านอก ราคาถูกเพิ่มมากขึ้น

                ข้อตกลงเกี่ยวกับเขตการค้าเสรีอาฟตา กลายเป็นช่วงนาทีทอง ให้บริษัทเหล้า กระหน่ำโฆษณาแบบโดนใจนักดื่มหน้าใหม่ ให้เข้าถึงเหล้านอกราคาถูกได้สะดวก

                ปมเหล้าสกอตเลี่ยงภาษีแม้ว่าจะเป็นอดีต แต่ผลในความผิดเพิ่งสะท้อนออกมาชัดเจน...ความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว...และยังเกิดขึ้นต่อไป ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนในบทลงโทษผู้กระทำผิด โดยเฉพาะวงเงินค่าปรับที่จะอยู่แค่ตัวเลขกลมๆ 1,500 ล้านฯ หรือ 3,000 ล้านฯ กันแน่

                ตั้งใจเลี่ยงภาษีอย่างนี้...ไม่ต้องไกล่เกลี่ย แต่ต้องลงโทษเป็นตัวอย่างให้ถึงที่สุด.
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
จากหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ วันที่ 6 สิงหาคม 2554

ทำให้รู้ว่าถ้าจะเอาเหล้าเข้ามากินเสียภาษีศุลกากร 61%
ถ้าจะเอามาขายต้องเสียอีก 50% ให้สรรพสามิตร(ของราคา+61%แล้ว)

ปล.ถ้างั้น Black 1 ขวดราคา 1,049(รวมภาษี)=(X*1.61)*1.5
*X(ราคาหน้าโรงงานรวมค่าขนส่งต่อขวด)= 434.369บาท คิดแล้วเศร้า -25
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: ปมสินบน 18 ล้านนำเข้าเหล้าอาฟตา...ปัญหาเหล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 02:34:05 PM »
ลองเทียบเป็น Blue Label สิครับ ต้นทุน สองพันปลายๆ ถึงสามพันต้นๆ เองง่ะ  -07
ปล. คุณตือลืมหักกำไร กับ VAT อีก 7% ครับ Black ราคาหน้าโรงงาน 3xx.- ครับ -14
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
ถ้าเป็น Blue Label ราคา 8,000/2.415*1.07(Vatรายการที่ขาดไป) ดังนั้นราคาขายปลีก 3,095.975บาท เท่านั้นเองครับ
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ rattapol.s

  • มักเหล้าคลับ
  • ประถม MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 231
  • ถูกใจ: +2/-0
 -11 เรื่องน่ารู้ครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ ole

  • มักเหล้าคลับ
  • Freshman MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 1,016
  • ถูกใจ: +10/-2
ถ้าเป็น Blue Label ราคา 8,000/2.415*1.07(Vatรายการที่ขาดไป) ดังนั้นราคาขายปลีก 3,095.975บาท เท่านั้นเองครับ

เห็นส่วนต่างแล้ว....ช่าง ..  -15 .. จริง ๆๆ 

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
เห็นแบบนี้แล้วไม่แปลกใจกับราคาตาม Duty Free แล้วล่ะครับ มิน่ามันถึงได้ห่างกันซ่ะ -07
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ ole

  • มักเหล้าคลับ
  • Freshman MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 1,016
  • ถูกใจ: +10/-2
เห็นแบบนี้แล้วไม่แปลกใจกับราคาตาม Duty Free แล้วล่ะครับ มิน่ามันถึงได้ห่างกันซ่ะ -07

ห่างกัน....หลักพัน...เลยครับ ...  :angry4:
(เคยเห็นในห้าง 8xxx แต่ใน duty free 4xxx ...ไซร์ 70 cl ครับ)

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
ห่างกัน....หลักพัน...เลยครับ ...  :angry4:
(เคยเห็นในห้าง 8xxx แต่ใน duty free 4xxx ...ไซร์ 70 cl ครับ)
ใน Duty Free ยังลดได้อีกนี่สิครับ -22 ดูอย่าง KP ดิครับ สูงสุดเท่าไหร่นะ 32% หรือปล่าวหว่า ????
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ ole

  • มักเหล้าคลับ
  • Freshman MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 1,016
  • ถูกใจ: +10/-2
ห่างกัน....หลักพัน...เลยครับ ...  :angry4:
(เคยเห็นในห้าง 8xxx แต่ใน duty free 4xxx ...ไซร์ 70 cl ครับ)
ใน Duty Free ยังลดได้อีกนี่สิครับ -22 ดูอย่าง KP ดิครับ สูงสุดเท่าไหร่นะ 32% หรือปล่าวหว่า ????

ประมาณ 30 up ครับ (เป็น Member + ซื้อตรงวันเกิดครับ)  :no:

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
ถ้าเหล้ายิ่งแพงราคาตอน+ภาษียิ่งทวีคูณ -02
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ Paul_mccartney

  • มักเหล้าคลับ
  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 499
  • ถูกใจ: +0/-0
  • While My Guitar Gently Weeps
ราคาทำไมมันต่างกันเงี้ยะอะครับ -07
I'm waited on the line of green and blue.

ออฟไลน์ loveonlymuay

  • มักเหล้าคลับ
  • อนุบาล MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 99
  • ถูกใจ: +1/-0
เป็นที่มาของการหลบภาษีหรือเปล่าครับ  -22 -22 -22

ออฟไลน์ top

  • มักเหล้าคลับ
  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 387
  • ถูกใจ: +4/-0
อ่านแล้ว  -15
   ถือว่าทำประโยชน์ละกัน เงินส่วนต่างไปอยู่ตรงไหนหนออออ

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
ผมว่ายี่ห้อที่เค้าพูดถึงตามข่าวคงไม่พ้นBenmore
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ Weerakorn_K

  • มักเหล้าคลับ
  • Freshman MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 1,087
  • ถูกใจ: +4/-1
ผมว่ายี่ห้อที่เค้าพูดถึงตามข่าวคงไม่พ้นBenmore
ผมเคยได้ยินข่าวร่ำลือกับว่า Benmore คือ JW Red ที่บรรจุในฟิลิปปินส์ ไม่รู้ว่าเท็จจริงแค่ไหนครับ

ออฟไลน์ otrue

  • มักเหล้าคลับ
  • Junoir MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 3,827
  • ถูกใจ: +33/-0
  • ขอบคุณ Montfort27 ที่ให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดดีๆ
Benmore นี่แน่นอนครับเพราะข้างขวดเขียนไว้แต่ Red นี่ผมไม่แน่ใจครับ
สุราช่วยคลายกล้ามเนื้อ

ออฟไลน์ choke

  • Sophomore MC27/30
  • **
  • กระทู้: 2,083
  • ถูกใจ: +20/-0
  • long lasting

อ่านแล้วรู้สึกว่า....คนไทยนี่รวยจริงๆ  กินเหล้าแพงกว่าชาวบ้านเค้าอีก
When I drink  whiskey, I drink whiskey; and when I drink water, I drink water

ออฟไลน์ choke

  • Sophomore MC27/30
  • **
  • กระทู้: 2,083
  • ถูกใจ: +20/-0
  • long lasting
ปกติเหล้าสกอตที่นำเข้ามาในประเทศไทย เหล้าเกรด 3 ที่เรียกกันว่า “เหล้าเซกันดารี่”

ที่ว่านี้มีเหล้าอะไรบ้างครับ
When I drink  whiskey, I drink whiskey; and when I drink water, I drink water

ออฟไลน์ pip

  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,760
  • ถูกใจ: +16/-0
ปกติเหล้าสกอตที่นำเข้ามาในประเทศไทย เหล้าเกรด 3 ที่เรียกกันว่า “เหล้าเซกันดารี่”

ที่ว่านี้มีเหล้าอะไรบ้างครับ

.....เอาตามความเข้าใจของผมเองนะ....

....จะแบ่งเกรดเหล้าตามตลาดดังนี้ครับ (จะหมายถึง Blended Whisky เท่านั้น และไม่นับเหล้าที่เกรดสูงกว่านี้ พวก 15 ปี ขึ้นไป)

    -  พรีเมียม >>>> เหล้า 12 ปี >>>>> JW Black, Chivas, Dewar's 12 YO, Ballantine's 12 YO

    -  สแตนดาร์ด >>>> เหล้า 5-6 ปี >>>> JW Red, J & B, Dewar's White Label, Famous Grouse, Teacher's, Grant's Family Reserve, Ballantine's Finest

    -  อีโคโนมี >>>> เหล้า 3 ปี >>>> 100 ไพเพอร์ส, สเปย์ รอยัล, เบนมอร์ (เคยโฆษณาว่าเป็นเหล้า 5 ปี), บลู อีเกิ้ล

     *** แต่ก็มีบางเจ้าที่นำเข้า เหล้า 5 ปี มาแข่งกลับเหล้า 3 ปี แต่ลึกๆ แล้วผมว่าเหล้า 5 ปี ที่นำเข้ามาจำหน่าย ในราคาเหล้า 3 ปี จะมาการลดส่วนผสมบางตัวไม่เหมือนกับที่จำหน่ายในต่างประเทศ

ยกตัวอย่างเช่น อาจลดส่วนผสม จากเหล้า 15 ปี บางตัว เหลือเป็น 12 ปี เพื่อลดค่าต้นทุนให้สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่ถูกลง

...... เหล้าเกรด 3 ที่เรียกกันว่า “เหล้าเซกันดารี่” ก็คือเหล้า อีโคโนมี ครับ.......

     ***  เหล้า 5 ปี มาแข่งกลับเหล้า 3 ปี >>>> Whyte & Mackay Special, แคลน แมคเกรเกอร์, William Lawsons
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2011, 04:10:02 PM โดย pip »
-0043 -0043 -0043