ขอตั้งกระทู้ซ้ำไว้เป็นแนวทางสำหรับเพื่อนสมาชิกใหม่ครับ เพราะของเก่ามันอยู่ในหน้าแรกๆ ของ
กระทู้เหล้าชาวบ้านในรั้วบ้านผม ทำให้อาจหาไม่เจอ
ขอเอาของเก่ามาเล่าใหม่เป็นแนวทางสำหรับเพื่อนสมาชิกใหม่ก็แล้วกันนะครับ
ลองลิ้มชิม วิสกี้ กับมาสเตอร์
มัลคอล์ม เมอร์เรย์ ทูตของเดวาร์ สกอตช์วิสกี้ และผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการสกอตช์วิสกี้ ได้มาให้ความรู้ในฐานะมาสเตอร์ นำการ ชิมวิสกี้ ให้กับบาร์เทนเดอร์ชาวไทยเมื่อไม่นานมานี้
มัลคอล์ม บอกว่า วัตถุประสงค์ในการทำวิสกี้ เทสติ้ง ก็เพื่อค้นหารสชาติที่ถูกใจ ซึ่งอาจจะทำได้จากการเตรียมตัวอย่าง ซิงเกิ้ล มอลต์ เกรนด์ หรือเบล็นเดด วิสกี้ อย่างใดอย่างหนึ่ง หลายๆ ยี่ห้อเพื่อชิมเปรียบเทียบกัน อย่างน้อย 46 ตัวอย่าง
สิ่งที่ต้องเตรียมเพื่อทำวิสกี้ เทสติ้ง นอกจากวิสกี้ คือแก้วทรงทิวลิป จำนวนเท่ากับวิสกี้ที่จะชิม กระดาษสีขาวสำหรับเช็กสีของวิสกี้ได้อย่างชัดเจน กระดาษและปากกาสำหรับจด น้ำแร่ และแก้วใส่น้ำเปล่า สำหรับล้างปาก
ก่อนที่จะชิมวิสกี้ ควรล้างปากให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า และทำอย่างเดียวกันระหว่าง ที่เปลี่ยนชนิดของวิสกี้ด้วย นอกจากนี้ ควรเลือกห้องที่มีแสงสว่างมากพอ เพื่อที่จะได้เห็นสีสันของวิสกี้ได้อย่างชัดเจน กระจ่างตา ดังนั้น การชิมวิสกี้ จึงมักจะจัดเวลาก่อนอาหารกลางวัน เนื่องจากมีแสงสว่างเพียงพอ และปากของเรายังสัมผัสอาหารมาไม่มาก
ก่อนและขณะที่ชิมวิสกี้ ไม่ควรรับประทานอาหารใดๆ ยกเว้น บิสกิต หรือขนมปัง ห้ามใส่ น้ำหอม หรือให้มีกลิ่นอื่นๆ อย่าง กลิ่นบุหรี่ ที่อาจเล็ดลอดมาทำลายและรบกวนกลิ่นของวิสกี้ได้
การชิมวิสกี้นั้น จะต้องอาศัยประสาทสัมผัส ทั้ง ตา จมูก และปาก เริ่มด้วยการใช้ตาดูสีของวิสกี้ ซึ่งสามารถบ่งบอกอายุการบ่มของวิสกี้แต่ละตัวได้ โดยวิสกี้ที่มีสีเข้มมักจะมีการหมักบ่มนานกว่าวิสกี้ตัวที่สีอ่อนกว่า อย่างไรก็ตาม สีที่เข้มอาจจะเป็นกรณีที่เติมส่วนผสมอื่น อย่าง คาราเมลเข้าไป เพื่อให้วิสกี้มีกลิ่นหอมก็ได้
นอกจากใช้ตาดูสีแล้ว ยังต้องใช้ดูขาของวิสกี้ด้วย โดยการเขย่าแก้วเพื่อจะดูคราบวิสกี้ที่เรียกว่า ขา (leg) ที่ไหลลงมาตามแก้วเพื่อดูอายุการบ่มของวิสกี้เช่นเดียวกัน ซึ่งปกติวิสกี้ที่มีอายุการบ่มน้อยจะมีขาที่เล็กและไหลเร็วกว่าวิสกี้อายุมาก หรือหมักบ่มนานที่จะมีขาที่หนาและไหลช้ากว่า
ต่อมาเป็นประสาทสัมผัสจมูก ที่ใช้ในการตรวจสอบวิสกี้ โดยไม่จำเป็นต้องสูดกลิ่นเข้าไปอย่างแรง แต่ต้องแกว่งแก้ววนไปมา ค่อยๆ ดมช้าๆ เพื่อให้จมูกได้สัมผัสกลิ่นวิสกี้ ถ้าวิสกี้ชนิดนั้น กลิ่นเบาบางเกินไป อาจจะเติมน้ำแร่ลงไปสักเล็กน้อย จะช่วยให้กลิ่นของวิสกี้กระจายได้มากขึ้น และจะทำให้สามารถสัมผัสกลิ่นของผลไม้ น้ำผึ้ง ควันจางๆ หรือกลิ่นของโอ๊กได้ดียิ่งขึ้นด้วย
สุดท้ายคือ การชิม ซึ่งนับว่าเป็นขั้นตอนสำคัญในการค้นหารสชาติวิสกี้ที่ถูกใจ โดยจะต้องจดจำรสสัมผัสวิสกี้ทั้งขณะที่อยู่ในปาก และขณะกำลังไหลผ่านลำคอลงไปในกระเพาะ โดยในปากของคนเราจะมีจุดรับรสที่แตกต่างกันอยู่ 4 จุด คือเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม วิธีการชิมวิสกี้ให้ได้รสชาติที่แท้จริง ควรจะต้องอมและกลั้วอยู่ในลำคอก่อนจะกลืน ลงไป เพื่อให้จุดรับรสทุกจุดรับรู้รสชาติได้ทั่วที่สุดและนานที่สุด ก่อนที่จะกลืนลงคอ และรอเวลา สักครู่เพื่อจดจำรสชาติของวิสกี้ที่ผ่านลำคอ
สิ่งที่ควรจะจดเอาไว้ระหว่างการทำเทสติ้งก็คือ สีสันของวิสกี้ เข้มหรืออ่อน สีเหมือนน้ำผึ้ง สีทองเข้ม หรือสีอำพัน ฯลฯ กลิ่น ที่โดดเด่นออกมา เช่น มีกลิ่นของน้ำผึ้ง กลิ่นควัน กลิ่นไม้โอ๊ก กลิ่นหวานๆ กลิ่นหญ้า กลิ่นผลไม้ ฯลฯ จากนั้น จด รสชาติ ส่วนมากจะตามมาจากกลิ่น เช่น มีรส น้ำผึ้ง รสถังไม้โอ๊ก รสหวาน รสวานิลลา เป็นต้น พร้อมกับสังเกต บอดี้ ของวิสกี้ด้วย หลังจากที่ผ่านลำคอไปแล้ว ว่าความเข้มข้นมีขนาดไหน ดื่มลื่นคอ หรือมีลักษณะที่บาดคอ ฯลฯ สุดท้าย ก็สรุป ทั้งหมดที่จดมา รวมทั้งสังเกตรสชาติที่ยังคงค้าง อยู่ในปากและลำคอ การที่วิสกี้ค้างอยู่ในปากนานหรือสั้น เป็นตัวบ่งชี้คุณภาพของการหมักบ่มด้วย
มัลคอล์ม เสริมว่า ไม่มีสกอตช์วิสกี้ ตัวไหนที่ไม่ดี หากการเลือกดื่มวิสกี้ที่ชอบเป็นรสนิยมส่วนตัว เช่นเดียวกับวิธีการดื่มวิสกี้ของแต่ละคน
ดื่ม สกอตช์วิสกี้ ให้ถึงรส
เมื่อได้เรียนรู้วิธีสัมผัสวิสกี้จนสามารถค้นหาวิสกี้ที่ต้องจริต หรือถูกรสนิยมส่วนตัวแล้ว วิธีการดื่มวิสกี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
หากอยาก ชิม วิสกี้รสเยี่ยมที่สุด ควรเลือกดื่มวิสกี้กับน้ำหรือน้ำแข็ง จากลำธารและแม่น้ำที่ใช้มาทำเป็นส่วนผสมวิสกี้สกอตแลนด์ แต่คงจะเป็นไปได้ลำบาก การเลือกดื่มตามรสนิยมน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
มัลคอล์ม ซึ่งเป็นทูตนานาชาติของเดวาร์ วิสกี้ ซึ่งมีประสบการณ์เดินทางไปหลายประเทศทั่วโลก เล่าว่า ชาวสกอต นิยมดื่มวิสกี้แบบเพียวๆ ไม่ผสม หรือจะเติมน้ำแร่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ชาวอเมริกันนิยมดื่มวิสกี้ใส่น้ำแข็งอย่างเดียว ไม่ผสมอย่างอื่น เนื่องเพราะเห็นว่า วิสกี้เป็นของดี ราคาแพง คนอังกฤษนิยมดื่มวิสกี้โดยการผสมเป็นค็อกเทล ชาวจีนนิยมดื่มโดยผสม ชาเขียวแทนโซดา
ในประเทศไทย ที่เป็นเมืองร้อน เรานิยมดื่มวิสกี้ใส่น้ำแข็งผสมน้ำ ผสมโซดา และผสมโคล่า ซึ่งมัลคอล์ม แนะนำว่า ยังมีทางเลือกที่จะดื่มวิสกี้ให้สดชื่น ก็คือ ดื่มวิสกี้ผสมจิงเจอร์เอล (ginger ele) ซึ่งรสชาติจะไม่หวานมากเท่าโคล่า และซ่ากว่าโซดา ซึ่งจะช่วยคลายร้อนได้ดี และยังขับเน้นรสชาติของวิสกี้ได้ดียิ่งขึ้น
การชิม สามารถทำให้เรารับรู้รสชาติที่แท้จริงของตัววิสกี้ กระนั้น จะอย่างไรก็แล้วแต่ เมื่อต้องการจะดื่มให้รื่นรมย์ ควรจะเลือกทั้งวิสกี้ และวิธีการ รวมทั้งบรรยากาศที่ชื่นชอบมากที่สุดเป็นส่วนตัว เรื่องนี้ แม้แต่มาสเตอร์ อย่าง มัลคอล์ม เมอร์เรย์ ยังเห็นด้วย
ที่มา
http://raanaroy.posttoday.com/content.php?id=47