ผมไปเจอที่ Web ไหนก็ไม่ทราบจำไม่ได้แล้ว Copy เอาไว้ เห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาฝาก (ขออนุญาติเจ้าของบทความด้วยนะครับ)
ความโชคดีบนความผิดพลาด>>>> มีคนบอกว่า ถ้าไม่นับแฮมเบอร์เกอร์และน้ำอัดลมสีดำ
>> สิ่งที่แสดงความเป็นอเมริกันแท้เห็นจะเป็นอเมริกัน
>> วิสกี้ที่มีชื่อว่า....”เบอร์เบิ้น”(Bourbon)
>> เรื่องของ “เบอร์เบิ้น” มีตำนานเล่าขานมาที่ยาวนาน ไม่แพ้ ไวน์, วิสกี้, เบียร์...
>> รวมทั้งเมรัยอมตะอีกหลายชนิด แต่ไม่มีใครกล้าบอกได้ว่า...
>> ตำนานเหล่านั้นจริงหรือเพื่อด้านการตลาด สิ่งที่สามารถยืนยันได้คือ....
>>>> “เบอร์เบิ้น” (Bourbon) เป็นเมรัยที่เกิดจากความโชคดีบนความผิดพลาด...
>> นักปรุง”เบอร์เบิ้น”(Bourbon) ที่เคนตักกี้(Kentucky) บอกว่าเค้าความจริงนั้น...
>> หลังสงครามปฏิวัติในสหรัฐอเมริกาสิ้นสุดลงได้ไม่นาน...
>> รัฐบาลใหม่ของอเมริกา ขณะนั้นต้องการให้ชาวบ้านย้ายถิ่น...
>> ไปอยู่ทางภาคตะวันตกของทวีปอย่างเร่งด่วนและรวดเร็ว...
>> จึงทำการจัดสรรที่ดินให้กับผู้ที่ย้ายไป พร้อมเงื่อนไขต้องปลูกข้าวโพด...
>> บนพื้นที่นั้นด้วย แต่ชาวบ้านไม่ต้องการบริโภคข้าวโพด....
>> ประกอบกับการขนส่งก็ลำบาก จึงหันไปใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน (เช่นแบบไทยเรา)
>> ทำเหล้า...ที่กลั่นจากข้าวโพด ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด การขนส่งสะดวก...
>> และที่สำคัญไม่ต้องกลัวเสียหาย เหมือนข้าวโพด...
>> “เหล้าข้าวโพด” ถูกบรรจุลงถังไม้ ที่ไม่มีการเผาอย่างในปัจจุบัน...
>> เพราะการทำถังไม้ต้องใช้เวลานาน โดยเฉพาะการตัดไม้แล้วนำเผาไฟขึ้นรูป...
>> เพื่อตัดปัญหาและเพื่อความรวดเร็ว ชาวบ้านจึงใช้ไม้ที่ถูกไฟไหม้แล้วมาทำเป็นถัง...
>> บรรจุเหล้าข้าวโพด ลงเรือล่องไปตามแม่น้ำมิสซิปปี้ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอันยาวนาน...
>> เมื่อมาถึงจุดหมายปลายทางและลูกค้าเปิดดูปรากฏว่าวิสกี้ข้าวโพดสีขาว...
>> ที่พวกเขาคุ้นเคยนั้น กลับกลายเป็นสีทองเหลืองอร่าม กลิ่นหอมอบอวล...
>> ชิมแล้วรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อม กลายเป็น”ความโชคดีบนความผิดพลาด“
>> เบอร์เบิ้น” (Bourbon) มีกฎกติกาที่รัฐบาลตั้งไว้ เพื่อควบคุมคุณภาพหลายข้อ...
>> 1. ต้องใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบ อย่างน้อย 51% ขึ้นไป ที่เหลืออาจเป็นข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์
>> 2. ต้องบ่มในถังไม้โอ๊คใหม่เผาข้างใน
>> 3. ต้องบ่มอย่างน้อย 2 ปี
>> 4. ต้องใช้น้ำสะอาดไหลผ่านหินปูน เพราะน้ำชนิดนี้จะทำให้ความหวานและมีอยู่ในมรัฐ
>> เคนตักกี้เท่านั้น
>> 5. เมื่อบรรจุถังบ่ม ห้ามมีแอลกอฮอล์สูงเกิน 80 ดีกรี
>>> ขบวนการที่พิถีพิถันมีดังนี้........
1. การบด เริ่มบดจากบดเมล็ดธัญพืช ผสมน้ำแล้วต้มให้สุก เพื่อเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาล
2. การหมัก หลักจากผสมตามข้อ 1 แล้ว เพิ่มยิสต์เพื่อเปลี่ยนเป็นน้ำตาล 3-4 วัน
3. การกลั่น
4. การบ่ม ถูกเทลงในถังไม้โอ๊ค อย่างน้อย 2 ปี
“เบอร์เบิ้น” (Bourbon) นั้นดื่มได้หลายลักษณะคือ
ออน เดอะ ร็อก ผสมกับน้ำแข็ง และผสมกับน้ำมะนาว
คนอเมริกันชอบดื่ม “เบอร์เบิ้น”(Bourbon) เพียว ๆ
- ถ้าดื่ม”เบอร์เบิ้น” (Bourbon) ให้อร่อยต้องผสมกับสไปร์ หรือ เซเว่น-อัพ เพราะรสชาติจะหอมหวานปานน้ำทิพย์
- จากสวรรค์
- - แต่ไม่ควรผสมดื่มกับโคคาโคลา เนื่องจากอร่อยสู่รัม(RUM)ไม่ได้
- “เบอร์เบิ้น” (Bourbon) ที่มีคะแนน
- 1. ยี่ย้อ Elijah Craig 12 ปี
- 2. Sazerac 18 ปี
- 3. Van Winkle Family Reserve
- 4. Evan Williams
- 5. Maker
- 6. Woodford Reserve
“ความโชคดีบนความผิดพลาด ซึ่งไม่ได้เกิดกับทุกกรณี เป็นหนึ่งในล้านเท่านั้น
.......................Peter..................................