แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา(13 ธค.49)

[อุเทน47]

  กรุงเทพฯ 13 ธ.ค.- “สมิทธ” แนะชาวเชียงใหม่ที่อยู่ใกล้พื้นที่เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว ควรสร้างอาคารบ้านเรือนที่มีโครงสร้างแข็งแรง เพราะมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4-5 ริกเตอร์ ได้ตลอดเวลา ด้านอธิบดีกรมชลฯ สั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนแม่กวงฯ และ ัดอย่างละเอียด เบื้องต้นยังไม่ได้รับความเสียหาย ย้ำเขื่อนสามารถรับแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ ขณะเดียวกัน เกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง

เหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.1 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนเกือบทั่วทั้งจังหวัด นายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ศูนย์กลางเกิดในจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณรอยต่ออำเภอแม่ริม อำเภอสันทราย ใกล้บริเวณเขื่อนแม่กวง อุดมธารา หลังเกิดแผ่นดินไหวจนถึงเช้าวันนี้ ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กถึง 23 ครั้ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่สามารถพยากรณ์ได้ว่าจะเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นอีกหรือไม่ กรมอุตุนิยมวิทยาจะติดตามอย่างใกล้ชิด สำหรับความเสียหายที่เกิดจากแผ่นดินครั้งนี้ เบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีอาคารในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เกิดรอยร้าว แผ่นดินไหวไม่สามารถพยากรณ์ได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ได้แต่เตือนให้ประชาชนรับทราบ เข้าใจและเตรียมตัวป้องกันภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว

นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวมีรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่เกิดเป็นแขนงของรอยเลื่อนแม่ทา ความรุนแรงนับว่าอยู่ในระดับปานกลาง และเกิดบนแผ่นดินที่มีความลึกตื้น เพียง 30 กิโลเมตร ส่งผลให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเสียหายบ้าง ส่วนตัวอาคารใหม่ที่สร้างภายหลัง กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้วางแผนไว้แล้ว ดังนั้น การก่อสร้างได้มาตรฐานรองรับแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวได้ประมาณ 5-6 ริกเตอร์

อย่างไรก็ตาม คงไม่ต้องอพยพประชาชนที่อยู่บริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก แต่ต้องทำความเข้าใจให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ ทราบว่า อยู่บนพื้นที่เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหว ควรต้องสร้างอาคารบ้านเรือนที่มีโครงสร้างแข็งแรง เพราะมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขนาด 4-5 ริกเตอร์ ได้ตลอดเวลา และไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า

ด้านนายสามารถ โชคคณาพิทักษ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเขื่อนแม่กวง อุดมธารา และเขื่อน ัด ซึ่งอยู่ในพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่พบว่าแนวสันเขื่อนหรืออาคารเขื่อนได้รับความเสียหาย แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจในรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตัวเขื่อนโดยมาตรฐานได้ออกแบบป้องกันการเกิดแผ่นดินไหวความรุนแรงขนาด 8 ริกเตอร์ รวมทั้งยังมีการออกแบบให้รองรับการเกิดแผ่นดินไหวได้ เชื่อว่าแผ่นดินไหวความรุนแรงขนาด 5.1 ริกเตอร์ คงไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ขณะนี้เขื่อน ัด มีปริมาณน้ำอยู่ 254 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 96 ของความจุ ส่วนเขื่อนแม่กวงฯ มีปริมาณน้ำ 186 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 77 ของความจุ ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำที่ค่อนข้างมาก.-สำนักข่าวไทย

[saharath]

ขอบอกว่า ที่บ้านสั่นสะเทือนมากๆๆๆๆครับ เสียดายไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ เลยไม่รู้สึกอะไร

[อุเทน47]

ข่าวเพิ่มเติม 

ปภ.เชียงใหม่ ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเขื่อนแม่กวงฯหลังเกิดแผ่นไหว เบื้องต้นไม่พบรอยร้าว ประสานกรมทรัพย์ฯส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบแล้ว ด้าน ม.แม่โจ้ รับเกิดรอยร้าวที่ตัวอาคารจริง รุดส่งทีมวิศวกรเข้าตรวจสอบอาคารหวั่นโครงสร้างได้รับผลกระทบ

(13ธค.) นายประจญ ปรัชญสกุล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ (ปภ.เชียงใหม่) เปิดเผยว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริกเตอร์ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และหลายฝ่ายเกรงว่าเขื่อนแม่กวงอุดมธาราที่ตั้งอยู่ใน อ.ดอยสะเก็ด จะได้รับผลกระทบ ดังนั้นในช่วงเช้าวันนี้ (13 ธ.ค.) ทางปภ.เชียงใหม่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณตัวเขื่อน พบว่าจากการมองด้วยตาเปล่ายังมีสภาพสมบูรณ์ ไม่พบรอยแตกร้าว

แต่ในเรื่องของโครงสร้างตัวเขื่อนนั้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะทางปภ.ไม่มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงได้ประสานไปยังกรมทรัพยากรธรณีให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งทางกรมทรัพยากรธรณีได้จัดส่งเจ้าหน้าที่จากจังหวัดน่านเข้าตรวจสอบโดยเร่งด่วนแล้ว คาดว่าประมาณ 12.00 น.ของวันนี้จะเริ่มทำการตรวจสอบได้

นายประจญ กล่าวว่า ในส่วนของอาคารหอพักชาย 2 ชั้น 5 ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีรายงานว่าเกิดรอยร้าวขึ้นที่บริเวณชั้น1 และชั้น 5 จากการตรวจสอบพบว่าอาคารหลังดังกล่าวมีสภาพใหม่ เบื้องต้นพบว่าเกิดรอยร้าวขึ้นจริง แต่เป็นรอยร้าวที่เกิดจากการกระเทาะของปูนที่ยึดเกาะไม่ดี เมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนทำให้เกิดรอยแยกที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้านแหล่งข่าวจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า ยอมรับว่าเกิดรอยร้าวขึ้นที่ตัวอาคารจริงและขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้สั่งการให้วิศวกรเข้าตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุว่าแรงสั่นสะเทือนมีผลกระทบต่อโครงสร้างของตัวอาคารหรือไม่และกรณีที่มีนักศึกษาหนีลงจากตึกอย่างโกลาหลนั้น ไม่ได้เกิดจากตัวอาคารไม่ปลอดภัยแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าเป็นสัญชาติญาณการเอาตัวรอดมากกว่า ที่มา คมชัดลึก