มีนาคม 29, 2024, 04:11:10 PM

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนครับ กรุณาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อโพส ดูไฟล์แนบ และเข้าสู่บอร์ดอื่นๆ
กรุณาอย่าสมัครสมาชิกเพื่อโฆษณาเวปไซด์ หรือสินค้าใดๆ รวมถึงการเสนอขายสินค้าทุกชนิด
หากพบเห็น ทางทีมงานจะทำการตักเตือนก่อนในครั้งแรก
แต่หากยังฝ่าฝืนกระทำการดังกล่าวอีกทีมงานจะดำเนินการลบสมาชิกของท่านทันทีตามข้อตกลงในการสมัครสมาชิกครับ


หลังจากลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิกใหม่แล้วโปรดตัวสอบ e-mail ของคุณ หรือทดลอง log in ได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ
*** บางครั้ง e-mail อนุมัติอาจอยู่ใน จดหมายขยะ หรือ Spam ขอบคุณครับ

ผู้เขียน หัวข้อ: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่  (อ่าน 12167 ครั้ง)

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 01:34:08 PM »
ขอแจ้งข่าวด่วนครับ


     ในโอกาสที่พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรณื (หลวงปู่จันทร์ กุสโล) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง
ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธรรมยุต) ได้กลับไปพักรักษาอาการอาพาธ (อาการป่วย) ที่วัดตั้งแต่
วันที่ 27 มิถุนายน พุทธศักราช 2551 เป็นต้นมา ซึ่งอาการอาพาธของหลวงปู่ดีขึ้นตามลำดับ
เป็นที่น่าพอใจของคณะแพทย์ผู้ทำการรักษา
     โอกาสนี้ พระเดชพระคุณพระพุทธิสารโสภณ เจ้าอาวาสวัดล้านนาญาณสังวราราม เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่
ลำพูน-แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต) ขอเชิญชวนพระสงฆ์ สามเณร ศิษยานุศิษย์ ศรัทธาสาธุชนทั้งหลาย ได้ร่วมพิธี
เจริญพระพุทธมนต์เพื่อน้อมถวายเป็นบุญกุศลแก่พระเดชพระคุณพระพุทธพจนวราภรฎ์ (หลวงปู่จันทร์ กุสโล)
                              ในวันศุกร์ที่ 10 กรกฏาคม พุทธศักราช 2551 เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป
                                        ที่ลานพระธาตุเจดีย์หลวง วัดเจดีย์หลวง
                                 ขออนุโมทนาเชิญชวนตามวันเวลาดังกล่าวนี้โดยทั่วกัน

 
                                               พระพุทธิสารโสภณ
                                เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ - ลำพูน - แม่ฮ่องสอน (ธรรมยุต)


tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 01:36:24 PM »
ตอนนี้อาการป่วยของหลวงปู่ ดีขึ้น แต่เพื่อน ๆ ท่านใดที่เป็นศิษย์ หรือไม่เป็นศิษย์ก็ได้ครับ

เพื่อเป็นศิริมงคลต่อตนเอง การกราบนมัสการ พระเถระ ผู้ซึ่งมีแต่ความดีงาม

ผู้เปี่ยมด้วยความรัก และเมตตาธรรม

เป็นบุญกุศลอย่างยิ่งใหญ่ครับ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 01:44:36 PM »
มีภาพมาให้ชมครับผม เป็นภาพ หลวงปู่ ครับ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 01:54:15 PM »
วันนี้ผม กับท่าน สุชิน ได้ไปกราบนมัสการท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้วคร้าบ

ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการไปกราบท่าน

รีบ ๆ หน่อยน๊ะคร้าบ

เพราะนับวันจะมีคนมากราบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อ่ะ เด๋วจะเสียเวลานานคร้าบ

แต่นานหน่อยคงบ่เป็นอะหยั๋ง เพราะว่าได้กราบพระเถระ ผู้ใหญ่ คร้าบบบบ

แล้วเป็นพระปฏิบัติ ดี ปฏิบัติ ชอบ อีกต่าง หาก

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 01:55:38 PM »
สาเหตุที่ ผม กับ ท่านสุชิน ไปกราบก็เพราะได้เป็นลูกศิษย์ท่าน

โดยที่หลวงปู่เป็นผู้ อุปชา ให้แก่ ผม และท่านสุชิน ตอนบวชพระคร้าบ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:00:25 PM »
ผมมีเหตุการณ์ที่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อมาเล่าให้ฟังครับ

เมื่อก่อนผมนับถือหลวงปู่อยู่องค์หนึ่ง ท่านชื่อว่า หลวงปู่เปลื้อง (วัดบางแก้วพดุงธรรม จ.พัทลุ)

ก่อนท่านลาสังขารประมาณ ไม่เน 10 วัน ท่านได้เข้าฝันผม

ในฝันมีอยู่ว่า ท่านนั่ง ที่ชายหาดสีขาวสะอาดตา แล้วมีลูกศิษย์ ท่านนั่ง ภาวนา อยู่บนหาด ที่กว้างไกลออกไปในทะเล

แล้วน้ำทะเลก็ค่อย ๆ พัดพาลูกศิษย์ ไปที่ละน้อย ทีละน้อย จนในที่สุด ก็มาพัดพาร่างของหลวงปู่ลงไปในทะเล เป็นองค์สุดท้าย

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:06:05 PM »
แล้วมาครั้งนี้ กระผมก็ได้รับข่าวสารทางการฝัน จางหลวงปู่ จันทร์ อีกแล้วครับท่าน

เป็นเวลาที่ผมฝัน ก่อนที่ท่านจะเข้ารับการรักษาตัวที่ ร.พ. สงฆ์ 

ผมก็ได้สงสัยเป็นอย่างมากว่าอยู่ ๆ ทำไมฝันถึงท่านได้ ผมก็ได้ไปหาท่านที่วัดฯ

ปรากฎว่า ท่านได้เข้าไปรักษาตัวที่ ร.พ. แล้ว

จึงเกิดอาการใจหายเป็นอย่างยิ่ง

ผมจึงได้มองไปรอบ ๆ แล้ว เห็นว่า วิหารวัดเจดีย์หลวง ยังคงอยู่ในระหว่างการ บูรณะ จึงทำให้เกิดอาการหลายอย่างขึ้นมา

ทั้งอาการปลงจิต อาการนี้เป็นอาการที่ผมรู้สึกว่า ทุกอย่างล้วนมีที่มา แล้วก็มีที่ไป ขึ้นอยู่กับว่าเป็นอะไร

ไม่ว่าเป็น คน สัตว์ หรือสิ่งของ ล้วนย่อมมีการเกิด และแตกดับ ไม่เว้นทุกสิ่ง

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:09:05 PM »
เอาประวัติคร่าว ๆ ไปดูคร้าบ

 

วัดเจดีย์หลวง (เชียงใหม่)
 
วัดเจดีย์หลวง หรือ "โชติการาม" หรือ "ราชกูฏา" หรือ "กุฏาราม" ก็เรียก เป็นวัดที่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ เลขที่ ๑๐๓ ถนนพระปกเกล้าฯ ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัด เชียงใหม่ นับเป็นวัดสำคัญมากวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่มาตั้งแต่อดีต เป็นที่ตั้งของเสา หลักเมืองเชียงใหม่ นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งศูนย์กลางการบริหารคณะสงฆ์ฝ่ายธรรมยุตในภาคเหนือ
วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยพระญาแสนเมืองมา กษัตริย์ในราชวงศ์มังรายองค์ที่ ๗ ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด และได้รับสร้างต่อมาในสมัยพระญาติโลกราช (พ.ศ.๒๐๒๒ - ๒๐๒๔) การที่ถูกเรียกชื่อว่า "วัดเจดีย์หลวง" เนื่องจากมีพระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่ ("หลวง" หมายถึง ใหญ่) 
โบราณวัตถุสถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดเจดีย์หลวง
๑. พระธาตุเจดีย์หลวง เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่ก่อสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๑๙๓๔ สมัยพระเจ้าแสน เมืองมา นับเป็นพระธาตุที่มีความสูงใหญ่ที่สุดในอาณาจักรล้านนา คือ ประมาณ ๘๐ เมตร ฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส กว้างด้านละ ๖๐ เมตร ปัจจุบันมีอายุกว่า ๖๐๐ ปี
๒. พระวิหาร พระอุโบสถ พระวิหารหลวง หรือพระวิหารกลาง ปัจจุบันเป็นทั้งพระอุโบสถ ด้วย ตั้งอยู่ห่างพระธาตุเจดีย์หลวงประมาณ ๑๕.๘๔ เมตร ไปทางทิศตะวันออก เป็นสถาปัตยกรรมทรงล้านนาประยุกต์ ส่วนอุโสถหลังเก่าศิลปะแบบล้านนาดั้งเดิมที่อยู่หลังวัด ด้านตะวันตกขององค์เจดีย์หลวงได้เลิกใช้งานตั้งแต่ปี ๒๕๒๒ เพราะคับแคบเกินไป วิหารที่วัดเจดีย์หลวงนี้หลังแรกซึ่งสร้างครั้งแรกโดยพระนางติโลกจุฑา พระราชมารดาของพระเจ้าสามฝั่งแกนเมื่อปี พ.ศ.๑๙๕๔ พร้อมทั้งได้หล่อพระอัฏฐารสพุทธปฏิมาประธานและพระอัครสาวกโมคคัลลาน์ สารีบุตร ไว้ในพระวิหาร ต่อมาในปี พ.ศ.๒๐๑๗ พระเจ้าติโลกราชให้รื้อวิหารหลังเก่าแล้วสร้างวิหารหลังใหม่ มีขนาดกว้าง ๙ วา ยาว ๑๙ วา ขึ้นแทนมาในปี พ.ศ.๒๐๕๘ พระเมืองแก้วให้รื้อวิหารหลังเก่าแล้วสร้างขึ้นใหม่ในที่เก่าอีก ครั้นถึงสมัยพระเมกุฏิสุทธิวงศ์ไฟได้ไหม้วิหารเสียหายจึงต้องรื้อแล้วสร้างใหม่ทับที่เดิมอีกครั้ง
ต่อมาในยุคเจ้าหลวงอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๗ ราชวงศ์ทิพจักร ได้ รื้อวิหารหลังเดิม แล้วสร้างวิหารหลังใหม่ขึ้นที่เดิมอีก ซึ่งวิหารในยุคก่อน ๆ นั้นคงสร้างด้วยไม้ จึงมีการสร้างและรื้อถอนกันได้บ่อย ๆ ส่วนวิหารหลังปัจจุบันได้รับการสร้างขึ้นใหม่ในยุคเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๙ โดยสร้างขึ้นหลังปี พ.ศ.๒๔๗๑
๓. พระอัฏฐารส เป็นพระพุทธรูปปั้นขนาดใหญ่ปางห้ามญาติ สูง ๑๘ ศอก หล่อด้วยทองสำริด มีพระอัครสาวก โมคคัลลาน์ สารีบุตร สร้างโดยพระนางติโลกะจุดา(ติโลกจุฑา) นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางต่าง ๆ หลายขนาดอีกจำนวนมากประดิษฐานอยู่รายล้อมพระอัฏฐารส +++๔. พระนอน หรือ พระพุทธไสยาสน์ เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่คู่กับพระเจดีย์ แต่ไม่ปรากฏว่า สร้างขึ้นเมื่อใด และใครเป็นผู้สร้าง พระนอนองค์นี้สร้างด้วยอิฐฉาบปูนปิดทอง เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๖ ได้บูรณะใหม่ทาสีทองสำเร็จแทน มีพุทธลักษณ์สวยงามมาก หันเศียรสู่ทิศใต้ พระพักตร์หันเข้าหาองค์พระธาตุเจดีย์หลวง สูง ๑.๙๓ เมตร ยาว ๘.๗๐ เมตร อยู่ห่างจากพระเจดีย์หลวงไปทางทิศตะวันตก
๕. เจดีย์ขนาดเล็ก เป็นเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมแบบเชียงใหม่ มีอยู่ ๒ องค์ ตั้งอยู่กระหนาบ พระวิหารด้านเหนือและด้านใต้ เยื้องไปทางด้านหน้าของวิหารหลวง
๖. พระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของเจดีย์หลวงและวิหาร เป็นพระอุโบสถขนาดเล็ก แบบพื้นเมืองเชียงใหม่ ก่ออิฐฉาบปูน
๗. เสาอินทขีล เชื่อกันว่าเป็นหลักเมืองเชียงใหม่ เดิมอยู่ที่วัดสะดือเมือง (วัดอินทขีล หรือวัดสะดือเมือง ข้างศาลากลางหลังเก่า) ปัจจุบันเป็นที่ตั้งหอประชุมติโลกราช พระเจ้ากาวิละเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๑ (พ.ศ.๒๓๒๔ - ๒๓๕๘) ในราชวงศ์ทิพจักร โปรดให้ย้ายเสาอินทขีล จากวัดสะดือเมือง มาไว้ ณ วัดเจดีย์หลวง เมื่อ พ.ศ.๒๓๔๓
๘. บ่อเปิง เป็นบ่อน้ำใหญ่ ลึก ก่อด้วยอิฐกันดินพังไว้อย่างดี คำว่า "เปิง" แปลว่า คู่ควร-เหมาะสม เป็นบ่อใหญ่สมกับที่ขุดขึ้นมาเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างพระธาตุเจดีย์หลวงซึ่งในสมัยที่พระเจ้าติโลกราช ทรงสร้างเสริม พระธาตุเจดีย์หลวง (พ.ศ.๒๐๒๒ - ๒๐๒๔) นั้น ทั่วทั้งวัดเจดีย์หลวงมีบ่อน้ำถึง ๑๒ บ่อ ต่อมาถูกถมไปเพื่อเอาพื้นที่สร้างถาวรวัตถุ
๙. พระมหาสังกัจจายน์ ประดิษฐานอยู่ในวิหารหลังเล็ก อยู่ห่างจากพระธาตุเจดีย์ไปทาง ทิศเหนือ เชื่อว่ามีความเก่าแก่พอ ๆ กับพระนอน ปัจจุบันพระสังกัจจายน์มี ๒ องค์ องค์ใหม่อยู่ด้านหน้าวัด ติดกับวัดพันเตา สร้างเมื่อประมาณ ๓๐ กว่าปีมานี้เอง
๑๐. ต้นยางใหญ่ในวัดเจดีย์หลวงมีต้นยางใหญ่ ๓ ต้น กล่าวกันว่าอายุกว่า ๒๐๐ ปี
๑๑. กุมภัณฑ์ มีอยู่ ๒ ตน สร้างไว้เพื่อให้คอยรักษาเสาอินทขีล ตนหนึ่งอยู่ด้านหน้าวัด
๑๒. หอธรรม เมื่อปี พ.ศ.๒๐๑๗ พระเจ้าติโลกราช ได้ทรงสร้างพระวิหารหลวงขึ้นใหม่ พร้อมทั้งให้สร้างหอธรรม (หอพระไตรปิฏก) ไว้ทางด้านเหนือขององค์พระธาตุเจดีย์
๑๓. กุฏิแก้วนวรัฐ เป็นกุฏิหลังแรกของวัด สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง เจ้าแก้วนวรัฐสร้างถวาย เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๑
วัดเจดีย์หลวงทางกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๐๓
 
(จากหนังสือสมโภช ๖๐๐ ปีพระธาตุเจดีย์หลวง พ.ศ.๒๕๓๘)


tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:12:11 PM »
เอารูปไปดูครับ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:25:55 PM »
ไปโหลดรูปมาได้อีกคร้าบ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 02:30:30 PM »
เสาอินทขิล กับรูป พระครับ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 04:24:23 PM »
เข้ามาดูหัวข้อนี้ดู อะรัยอ่ะ มีแต่คนอ่านบ่มีคนตอบเล้ย

สู่เขาเข้ากระทู้ ธรรมมะ หน้อยเดียวบ่ดาย -08

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 04:59:21 PM »
อ้ายเซียนหื้อ credit ที่มาของรูปหน่อยก่อดีเน้อครับ
ว่า solo มาเอง หรือว่าไปเอามาจากที่ไหนครับ
บ่าอยากหื้อเป็นประเด็นครับ  :smile6:
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ ป๊อบ ลูกไก่ย่าง

  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ****
  • กระทู้: 368
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 05:01:17 PM »
ในสมัยก่อนตอนเด็กๆจำได้ว่าไปดูองค์เจดีย์หลวงหลายครั้ง..รู้สึกว่าองค์เจดีย์ในสมัยนั้นดูช่างยิ่งใหญ่สวยงามกว่านี้มาก
ปัจจุบันกลับไปอีกครั้งถึงได้รู้สึกว่า ใจกลางเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองผู้คนในเมืองสนใจสร้างการค้าและธุรกิจขึ้นในเมือง
โดยอาศัยบรรยากาศของวัฒนธรรมที่สวยงามมาดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาท่องเที่ยวสร้างผลกำไรให้กับชาวเมืองมากมาย
แต่กลับลืมให้การใส่ใจดูแลวัฒนธรรมที่ล้ำค่า ปล่อยให้กาลเวลาและธรรมชาติทำลายสิ่งสูงค่าทางสถาปัตยกรรมของเรา
กว่าจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็ยากเกินกว่าจะบูรณะให้ดีแล้ว ผมเป็นคนหนึ่งที่เห็นแล้วรู้สึกเสียดายครับ ขอบคุณอ้ายเซียนที่ส่งข่าวครับ  ขอบคุณมากมากอีกครั้ง

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 05:02:57 PM »
ขออำไพคร้าบบบ

พอดีค้นหาใน google หลาย ๆ หัวข้อคร้าบ แล้วบ่ฮู้ว่าจะ

ตามหาว่ามาจากไหนได้พ่องคร้าบ

ส่วนหัวข้อแรกนั้น เฮาไปกราบหลวงปู่มา แล้วมีใบปลิว เลย  

เอามาลงในเวปเฮา เพื่อบอกบุญอ่ะน๊ะคร้าบบบบบบ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 05:08:01 PM »
อ้าย อาเฮียเนิน คร้าบบบบบบบ
กระทู้นี้ขออ้ายเนินจ่วยอ่านตวยเน้อ มันเกินกว่า 5 บรรทัด คร้าบบบบ

หวังว่าคงจะได้รับบุญโดยถ้วนหน้าคร้าบบบบบ
 -123

ออฟไลน์ Chat601

  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,172
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กรกฎาคม 09, 2008, 05:24:31 PM »
บ่ได้ไปเมินแล้ววัดเจดีย์หลวง เฮาก้าหาไปวัดพระสิงห์มา ก้าหาเกยได้เข้าไปสรงน้ำพระธาตุ
แถวๆ พระธาตุ - พระนอนนั้นสงบมากๆ มีร่มไม้ใหญ่ครึ้ม ลมพัดเย็นสบาย วัดวาสะอาดสะอ้าน
ทำหื้อเฮาฮู้สึกสงบ สบายใจ๋อย่างบอกบ่ถูก ตี้วัดเจดีย์หลวงมีมุมเงียบๆ แบบนี้ก่อท่านเซียนฯ

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2008, 09:28:11 AM »
มุมสงบนั้นบ่ฮู้เน้อ แต่วันนี้ มีเณรนักขนาดเลยอ่ะ เพราะมีโรงเรียนตวยคร้าบ

แต่มุมสงบนั้นน่ะ บ่แนะนำฮื้อไปเน้อ เพราะเปิ้นเอาไว้ตั้งบำเพ็ญกุศล

สำหรับผู้ที่ล่วงไปแย้ววววอ่ะ -14

tanakorn tananuwat

  • บุคคลทั่วไป
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2008, 04:55:19 PM »
ใค๋ได้ไปพ่องก่อคร้าบบบบ วันนี้ผมทำงานทั้งวันเล้ย

มีข่าวอย่างใดก่บอกพ่องเน้อคร้าบบบบบ

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: วัดเจดีย์หลวง วรวิหาร จ.เชียงใหม่
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กรกฎาคม 10, 2008, 04:58:45 PM »
ผมอยู่จ๋อมตอง บ่ได้ไปครับอ้ายเซียน
แต่มีข่าวร้ายเรื่อง โรคหวัดหมูระบาดครับ  -25
พักนี้ที่จ๋อมตองคงต้องงดกิ๋นหมูกั๋นชั่วคราวคร๊าบ
ตายไปแล้ว 4-5 คน นอนอยู่โรงพยาบาลอีกหลายอยู่ครับ  -08
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย