มีนาคม 29, 2024, 04:06:23 AM

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนครับ กรุณาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อโพส ดูไฟล์แนบ และเข้าสู่บอร์ดอื่นๆ
กรุณาอย่าสมัครสมาชิกเพื่อโฆษณาเวปไซด์ หรือสินค้าใดๆ รวมถึงการเสนอขายสินค้าทุกชนิด
หากพบเห็น ทางทีมงานจะทำการตักเตือนก่อนในครั้งแรก
แต่หากยังฝ่าฝืนกระทำการดังกล่าวอีกทีมงานจะดำเนินการลบสมาชิกของท่านทันทีตามข้อตกลงในการสมัครสมาชิกครับ


หลังจากลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิกใหม่แล้วโปรดตัวสอบ e-mail ของคุณ หรือทดลอง log in ได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ
*** บางครั้ง e-mail อนุมัติอาจอยู่ใน จดหมายขยะ หรือ Spam ขอบคุณครับ

ผู้เขียน หัวข้อ: Do you believe in Destiny?  (อ่าน 62415 ครั้ง)

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Do you believe in Destiny?
« เมื่อ: เมษายน 06, 2008, 09:36:56 PM »
ไม่รู้ว่าจะป่ะไว้ที่ไหน ขอเป็นที่นี่ก็แล้วกันเน้อ
ม่วนบ่ม่วนอย่างใดก็อ่านไปก็แล้วกั๋นครับ เป็นของขวัญปี๋ใหม่เมืองให้เพื่อนทุกคนครับ

   "Do you believe in destiny ?" เคยได้ยินคำถามนี้ไหมครับ สงสัยว่ามันจะมีอยู่จริงรึปล่าว ?
อยากหาคำตอบให้กับคำถามนี้บ้างหรือปล่าวครับ ถ้าอยากรู้คำตอบของคำถามประโยคนี้ ล้อมวงเข้ามาใกล้ๆ สิครับ ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง

   ก่อนหน้านี้ผมเคยได้ยินคำถามประโยคนี้มาจากหนัง ละคร เอ! หรือว่าเป็นเพลงหว่า ผมจำไม่ได้เสียแล้วสิครับ "Do you believe in Destiny?"
มันคืออะไร สิ่งแรกที่ผมคิดขึ้นมาครั้งแรกเมื่อได้ยินประโยคนี้
อุ๊บ! ขอโทษนะครับ ผมลืมแนะนำตัวเองไปเสียแล้วสิ ผมชื่อ ก๊ำ ครับ (คำนี้ในภาษาเหนือแปลว่า ค้ำชู ครับ)
มีวงเล็บคำแปลแบบนี้ไม่บอกก็คงรู้นะครับว่าเป็นคนเหนือ  ใช่ครับผมเป็นคนเชียงใหม่ ครับ ผมอยู่ในอำเภอเล็กๆ ทางใต้ของจังหวัดเชียงใหม่
เอาละครับแนะนำตัวไปแล้วก็มาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าครับ คำถามที่เกิดขึ้นในใจผมทันทีเมื่อได้ยินประโยคคำถามนี้เป็นครั้งแรก
"มันมีอยู่จริงๆ เหรอ destiny เนี้ยะ" เอาละครับคุณอาจคิดต่อไปว่า "ไอ้นี่มันกำลังจะพูดเรื่องอะไรของมันฟ่ะ เมื่อไหร่มันจะเข้าเรื่องสักที"
ใจเย็นๆ ครับค่อยๆ ฟังผมเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ดีกว่าครับ ผมเองก็ได้ยินประโยคนี้นานมาแล้วเหมือนกัน
แต่มาเริ่มคิดถึงมันเมื่ออายุปาเข้าไปจะสามสิบนิดๆ เดี๋ยวนี้ก็ใกล้จะสี่สิบอีกไม่นานนี้แล้ว

   ครับ เมื่อผมได้ยินคำถามประโยคนี้อีกครั้ง ผมก็ค่อยๆ คิดทบทวนถึงเรื่องต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เล็กจนโต
คุณละครับเคยใช้เวลานั่งทบทวนถึงเรื่องแบบนี้บ้างหรือปล่าวครับ แต่ตอนนี้มาฟังเรื่องของผมต่อดีกว่าครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2009, 09:00:50 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 06, 2008, 10:05:47 PM »
ผมเริ่มต้นจากการเรียนในโรงเรียนของรัฐบาลในอำเภอที่ผมอาศัยตั้งแต่เกิด จนกระทั่งเมื่อผมเรียนจบ ป.3 และกำลังจะขึ้น ป.4
เจ้า Destiny ก็เข้ามาทักทายกับชีวิตของผมเป็นครั้งแรก
เมื่อคุณนายของบ้านผมได้มีประกาศิตให้ผมไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อในโรงเรียนเอกชนชื่อดังของจังหวัด
ซึ่งท่านได้เรียกผมเข้าพบในวันหนึ่งช่วงปิดเทอมปลาย

   "ก๊ำเอ้ย แม่อยากให้ลูกเข้าไปเรียนในเวียง ลูกจะได้มีความรู้เป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่บ้านเรา" 
   "ครับ" ผมรับคำอย่างว่าง่าย เพราะผมเป็นคนว่าง่ายอยู่แล้ว

เนื่องจากว่าท่านได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมว่า ได้จัดการให้ลุงของผมไปติดต่อสมัครสอบให้เรียบร้อยแล้ว
และจะต้องไปสอบในวันรุ่งขึ้นทันทีแล้วผมจะว่าอย่างไรได้ละเนี้ยะ

   "เอ้าเอาไงก็เอากันฟ่ะ หนังสือก็ยังไม่อ่านด้วยดิ เพิ่งจะสอบไล่เสร็จ แท้ๆ เฮ้อ! กรรมของตูจริงๆเลย" อันนี้บ่นในใจครับพูดดังไม่ได้เดี๋ยวเจ็บครับ  :smile6:

วันรุ่งขึ้นผมต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปสอบตามบัญชาของคุณนายแม่ โดยมีคุณพ่อที่เคารพ และคุณลุงที่รักไปส่ง
ซึ่งจะประกาศผลสอบในวันถัดไป เรื่องการสอบผมไม่ขอพูดถึงเพราะจำไม่ได้
เอาเป็นว่าผมสอบติด แต่เป็นสำรองอันดับสามก็แล้วกัน  สรุปคือต้องรอว่าจะมีคนสละสิทธิ์ 3 คน ผมถึงจะได้เรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งนั้น
แล้วคุณว่ามันเกิดอะไรขึ้นล่ะครับ

ใช่ครับ Destiny มันมาทักทายและเล่นตลกผมเป็นครั้งแรกครับ
ปรากฎว่าทางโรงเรียนเรียกตัวผมเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ ไปได้ 3 วันครับ
ผมยังจำได้ดีครับวันนั้นผมตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่เช้าตามปกติครับ
จากนั้นในคาบเรียนที่สอง คุณพ่อที่เคารพ และคุณลุงที่รักของผมก็มาที่ห้องเรียน

   "คุณครูครับ ขออนุญาตครับ ผมมารับก๊ำครับ" พ่อผมพูด ในขณะที่ผมเริ่มงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับตูฟ่ะ เมื่อเช้าก็ยังไม่เห็นจะมีเรื่องอะไรเลยนี่หว่า
    "ก๊ำ พ่อมารับลูกโรงเรียน... ที่เราไปสอบไว้เค้าเรียกตัวลูกแล้วต้องไปมอบตัว และเริ่มเรียนวันนี้เลย"

   "เอาดิอะไรกันฟ่ะ" ผมเริ่มนึกในใจ
           "เปิดเรียนไปด้วยแล้วเนี้ยะนะ แล้วไงล่ะ จะต้องทำไงต่อละเนี้ยะ บ้านเรากับโรงเรียนก็ไม่ใช่ใกล้ๆ ด้วยจะต้องทำอย่างไรบ้างอ่ะ"
   
ตกลงผมต้องเดินออกจากห้องเรียนโดยไม่มีโอกาสได้ลาเพื่อนเก่าๆ ที่ได้เล่นทะโมนมาด้วยกันสักคนเลยครับ
เดินมาที่รถของลุงด้วยความงงในชีวิตว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตูต่อไปฟ่ะ
   
   "พ่อ  แล้วผมต้องไปพักที่ไหนล่ะ หรือว่าพ่อจะไปส่งผมทุกวัน" ผมถามขึ้นเป็นประโยคแรกเมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเรียบร้อย
   "อ๋อ แม่กับลุงเค้าจัดการติดต่อหอพักให้เรียบร้อยแล้ว ลูกไปมอบตัวและเริ่มเรียนก่อน"
           "แล้วเดี๋ยวตอนเย็นพ่อกับลุงจะไปรับที่โรงเรียน แล้วพาไปส่งที่หอพักต่อเลย" พ่อที่เคารพตอบผมมาราวกับมีแผนการมาแล้วล่วงหน้า
   "แล้วเสื้อผ้า ก๊ำยังไม่ได้เตรียมอะไรเลยนะ"
   "ไม่เป็นไร แม่เค้าเตรียมไว้ให้ลูก เรียบร้อยแล้วล่ะ เอาไปสักไม่กี่ชุดก่อน เดี๋ยวเสาร์-อาทิตย์นี้พ่อไปรับกลับบ้านแล้วค่อยมาเอาไปเพิ่มก็ได้"

เอาละสิผมเริ่มคิดในใจอีกครั้งอะไรฟ่ะ ไม่ถามสักคำว่าเราคิดไงบ้าง
สงสัยงานนี้คุณนายที่บ้านเตรียมแผนไว้เรียบร้อยแน่ๆ
แล้วชีวิตเด็กหอจะเป็นอย่างไรบ้างอ่ะ ไอ้เราเองก็ไม่เคยออกบ้านมาก่อน
โชคดีเป็นของผมครับที่สมัยนั้นยังไม่มีหนังเรื่อง "เด็กหอ" ไม่งั้นผมคงต้องผวาแน่ๆ   -07

   "พ่อครับ แล้วหอที่จะไปพักเนี้ยะ อยู่ที่ไหนเหรอครับ"
   "เป็นของมาสเตอร์ที่ลุงกับน้าๆ ของลูกเคยอยู่นะ รู้สึกว่าจะมีพี่เซ้งลูกป้านัทเพื่อนของแม่อยู่ด้วยนะ"
   "เหรอครับ" ผมได้แต่รับคำ และนั่งเงียบๆ ไปตลอดทาง

และนั่นเป็นครั้งแรกที่เจ้า Destiny ได้เข้ามาทักทายกับชีวิตของผม
ได้นำทางผมออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นเวลาร่วม 20 ปีนับจากวันนั้น
นำพาให้ผมได้พบกับเพื่อนดีๆ ประสบการณ์ ความรัก ความทรงจำดีๆ อีกมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
ตามผมมานะครับแล้วผมจะเล่าให้ฟัง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2009, 09:04:54 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 08, 2008, 08:34:43 AM »
ชีวิตของผมดำเนินต่อมาด้วยความเฮฮา สนุกสนานในโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งนั้น
และการใช้ชีวิตเด็กหอของผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมากนัก อาจเป็นเพราะผมสามารถปรับตัวได้เร็ว
การเรียนของผมก็จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ได้ดีเด่นอะไรมากนัก
ถ้าจะเล่าเรื่องชีวิตในโรงเรียน และชีวิตของเด็กหอคนหนึ่งก็อาจเป็นนิยายได้อีกสักเรื่อง
แต่ยังไม่ใช่วันนี้ครับ เอาไว้มีโอกาสผมจะนำมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ

นอกเรื่องไปเยอะแล้วมาเข้าเรื่องของเรากันต่อดีกว่าครับ
วันหนึ่งในปิดเทอมปลายภาคของ ม.2 มาถึง
เจ้า Destiny เพื่อนเก่าของผมก็ได้แวะเวียนเข้ามาทักทายผมอีกครั้งโดยการชักนำของคุณนายแม่เจ้าเดิมนั่นแหละ

   "ก๊ำ พรุ่งนี้ป้าวิภาเพื่อนของแม่จะมาเยี่ยม และพักอยู่กับเราประมาณ 4-5 วันนะลูก"
   "ครับแม่ แล้วป้าเค้าจะมากับใครบ้างละครับ"
   "อ๋อ เห็นบอกว่าจะพาลูกสาวมาด้วย 2 คนนะ คนโตรู้สึกว่าจะอายุแก่กว่าเราสัก 2 ปีนะ"
           "ส่วนคนเล็กอายุไล่ๆ กับเรานั่นแหละอ่อนกว่าเราไม่กี่เดือนนี่แหละ แล้วพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าละ ไปรับป้าเป็นเพื่อนแม่ที่สถานีรถไฟด้วยกัน"
   "ได้ครับ" ผมได้แต่รับคำคุณนายแม่ และนึกในใจว่า 2 สาวหน้าตาจะเป็นอย่างไรบ้างนะ

เช้าตรู่ของวันถัดมา ผมกับคุณนายแม่ก็ตื่นแต่เช้าเพื่อไปรับป้าวิภาและลูกสาวที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ด้วยกัน
ครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าของ ปอยลูกสาวคนเล็กป้าวิภา ผมก็ได้แต่นึกในใจว่าทำไมน้องเค้าน่ารักจัง  :love:
ช่วงเวลา 4-5 วันนี้ผมคงมีความสุขที่ได้พาป้าวิภาและลูกสาวทัวร์เชียงใหม่ในคราวนี้แน่ๆ   :smile3:
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วช่วงเวลา 4-5 วันหมดไปกับการนำทัวร์สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นดอยสุเทพ ดอยอินทนนท์ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกแม่ยะ บ่อสร้าง สันกำแพง ฯลฯ
พร้อมๆ กับสัญญาณมิตรภาพที่เริ่มต้นขึ้นระหว่างผมกับปอย
โดยการแลกเปลี่ยนที่อยู่เพื่อติดต่อกันทางจดหมายในสมัยนั้น
แน่นอนผมต้องให้ที่อยู่หอพักอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่ผมจะให้ที่อยู่ที่บ้านซึ่งกว่าผมจะได้กลับบ้านก็เดือนละครั้ง

แน่นอนครับเมื่อปอยกลับไปแล้วผมก็เริ่มการติดต่อทางจดหมายกับเธอทันที
พร้อมกับเริ่มจุดมุ่งหมายที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ เมื่อจบมัธยมต้น หรือมัธยมปลาย
ไม่น่าเชื่อนะครับว่าปอยจะเป็นคนที่สร้างแรงผลักดันให้ผมได้ก้าวไปสู่ชีวิตที่จะนำพาผมห่างไกลบ้านออกไปอีก
และเป็นผู้หญิงที่ทำให้ผมหัวเราะ เศร้า รู้สึกเหงาได้ในเวลาเดียวกัน
ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามฟังเรื่องราวของผมต่อไปเรื่อยๆ สิครับแล้วผมจะเล่าให้ฟังเมื่อถึงเวลา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2009, 09:06:06 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 09, 2008, 08:54:49 PM »
แต่แล้วเจ้า destiny เพื่อนรักก็ได้ทำการเปลี่ยนแปลงชีวิตผมอีกครั้งทำให้ผมต้องรอไปก่อนในความคิดที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ
เมื่อผมกำลังจะจบ ม.3 ได้มีการจัดสอบเพื่อเรียนต่อชั้น ม.4 ของโรงเรียน  :smile1:
ผมเข้าสอบด้วยความคิดว่า "ไอ้ผลการเรียนกลางๆ อย่างเรามันจะมีความหวังกับเค้าเหรอ เพราะแม้แต่มาสเตอร์เจ้าของหอพักก็ไม่คิดว่าผมจะสอบได้"

แต่แล้ว....

ใช่ครับ เจ้าเกลอเก่าเล่นตลกกับผมอีกครั้งเมื่อผลการสอบออกมาปรากฎว่า
ผมสอบติดในรอบแรกที่คัดเลือกเฉพาะเด็กในโรงเรียนก่อน  :try:
ผมเริ่มคิดหนักครับว่าผมจะเรียนไหวเหรอ และในเมื่อผมเองมีความต้องการที่จะเรียนในสายอาชีพมากกว่าด้วย การเจรจาจึงเริ่มต้นขึ้น

   "แม่ครับ ก๊ำไม่อยากเรียนต่อที่นี่แล้วอ่ะ"
   "ทำไมละลูก ใครๆ เค้าก็อยากจะเรียนที่นี่กันจะตาย"
   "ก็ไม่รู้ว่าก๊ำจะเรียนไหวหรือปล่าวดิ อีกอย่างก๊ำอยากเรียนสายอาชีพด้วยอ่ะ"
           "ก๊ำอยากเรียนบัญชี เพราะที่บ้านเราก็ค้าขายอยู่แล้วด้วย นะแม่นะให้ก๊ำไปเรียนต่อสายอาชีพที่กรุงเทพฯ ได้ไหมครับ"
   "อ้าวแล้วที่โรงเรียนเก่านี่ลูกก็สอบติดแล้วไม่ใช่เหรอ"
   "ติดได้ก็สละสิทธิ์ได้นิแม่"
   "ไม่เอาแม่ไม่อยากให้ลูกไปอยู่ไกลๆ"
   "อะไรฟ่ะจับตูไปอยู่หอมา 6 ปี ห่างบ้านมาตั้งนานแล้วนา" อันนี้ผมคิดเองในใจไม่กล้าพูดออกไปหรอกครับ
   "ก็ผมไม่อยากเรียนอ่ะแม่ ผมกลัวเรียนไม่ไหว"
   "ก็ลูกยังไม่ได้เรียนจะรู้ได้ยังไงว่าเรียนไม่ไหว"
   "เฮ้อ!" ผมได้ต่อถอนใจเงียบๆ แล้วตอบว่า "ก็ได้ครับแม่ แล้วตอนจบ ม.6 แม่ต้องให้ก๊ำเลือกเองนะว่าก๊ำจะเรียนอะไร ที่ไหนด้วยอ่ะ"
   "เอาไว้ให้ถึงเวลานั้นก่อน เราค่อยมาพูดกันอีกที"

เสียงคุณนายแม่ล่องลอยมาเข้าหูผมเบาๆ
พร้อมกับความคิดในใจของผมที่ได้แต่คิดว่า รอก๊ำก่อนนะปอยคงอีกนานกว่าเราจะได้อยู่ใกล้ๆ กัน  :cry7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 19, 2009, 09:08:12 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 09, 2008, 09:02:56 PM »
ขออภัยเพื่อนๆ ที่ติดตามด้วยครับ กระทู้นี้ขอหยุดตัวเองลง คงไม่ว่ากันนะครับ
เนื่องจากว่าเจ้าของเรื่อง เล่าไปป๊อดไป ครับ เนื่องจาก base on true story 90 กว่าเปอร์เซ็นต์
ขออภัยเพื่อนๆ เป็นอย่างสูงมานะที่นี้ด้วยครับ  -01
เอาเป็นว่าไปติดตาม จากหล่ายดอยสู่รั้วแดงขาวน้ำเงิน ต่อไปก่อนนะครับ
จนกว่าผมจะรู้สึก ป๊อดน้อยกว่านี้ครับ
ขอโตดคร๊าบ  -09 -09 -09
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2008, 09:14:45 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ อุเทน47

  • Senoir MC27/30
  • ****
  • กระทู้: 8,403
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 10, 2008, 08:21:00 AM »
อ้าวน้าเก่ง หลอกให้อยาก...แล้วจากไปได้ไง  กำลังสนุกเชียว
อยากรู้จักน้องปอยให้มากกว่านี้ อิอิ  :smile9:
เวลาเขียนเรื่องนี้ก็ต้องระวังหลังไว้ด้วย...ทำให้เกร็งแม่นบ่
เดาเอาว่า็มีอยู่เหตุผลเดียว...ที่ทำให้ป๊อดคือ...เกลียมัว  555  :x

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 10, 2008, 04:14:53 PM »
มันบ่ใจ่จะอั้นครับอ้ายเก๋ เรื่องเมียน่ะ เคลียร์ได้
แต่ไอ้ที่กัวว่าจะเคลียร์บ่ได้นี่มัน เกาะบรรดาผู้เกี่ยวข้องจากประสบการณ์ตรงทั้งหลายนี่แหละครับ
มัน  -25 ป๊อดอย่างแรง เพราะพาดพิงหลายคนอยู่


ป๊อด ครับ ป๊อด ขอเวลาทำใจให้มันร่มร่ม ก่อนเน้อพี่น้อง
หลังสงกรานต์จะตัดสินใจอีกทีว่าจะโพสต่อหรือปล่าว
เพราะเรื่องนะเขียนไว้จบนานแล้วครับ
 -08 -09 -02 -14
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 10, 2008, 09:33:41 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ korokoso

  • Sophomore MC27/30
  • **
  • กระทู้: 2,221
  • ถูกใจ: +0/-0
  • ไปทะเลกันดีก่า
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 13, 2008, 05:34:57 PM »
เอ้าบ่านี่ หลอกให้อยากแล้วจากไปอีกละ (ใช้นามแฝงสิโว้ย) ว่าแต่ ไอ้คำว่าป๊อดเนี้ย มรึงยังใช้กันอยู่อีกหร๋อว่ะ  :no2:
หนึ่งมิถุนา จาไปเรียนที่เชียงใหม่นะเออ

ออฟไลน์ Mor-Rim-Doi

  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,151
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 15, 2008, 01:37:52 PM »
อยากอ่านต่อครับ
ชีวิตของนายฟอเรส ก๊ำ คนนี้
อยากรู้ว่าทำยังไง
ถึงหลอกภรรยาคนนี้
มาเป็นเมียอยู่หล่ายดอยได้

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 17, 2008, 08:48:16 PM »
เอาเป็นว่าตัดสินใจได้แล้วครับพี่น้อง
เดี๋ยวให้จบเป็นเรื่องๆ ไปก็แล้วกันนะ
ไปพร้อมๆ กันหลายเรื่องมันบ่ไหวครับ
เดี๋ยวคนอ่านสับสน แต่รับรองว่าเรื่องนี้เริ่มแล้วต้องให้จบครับ
ไม่ปล่อยให้เพื่อนหมออารมณ์ค้างเหมือนตอน ม.2 ที่ตอนถูกยึดหนังสือไปแน่นอนครับ  :x
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 10:20:27 PM »
มาต่อเรื่องให้อีกสักตอนครับ เดี๋ยวแฟนๆ จะลงแดงกันไปซะก่อน  022 หรือปล่าวหว่า  -09

ชีวิตนักเรียนระดับมัธยมปลายของผมเริ่มต้นขึ้นเมื่อเปิดภาคเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ๆ
เนื่องจากในช่วงมัธยมต้น และประถมของโรงเรียนผมนั้นเป็นโรงเรียนชายล้วน แต่สำหรับมัธยมปลายนั้นต่างออกไป
มีการรับนักเรียนหญิงเข้ามาด้วย ทำให้พวกทะโมนอย่างพวกผมรู้สึกต่างออกไปในช่วงแรกๆ
และนี่เองเป็นเหตุที่ทำให้ผมได้มาพบกับใครอีกคนที่ทำให้ผมรู้สึกดีๆ และสร้างความทรงจำที่มีค่ากับผมจนถึงทุกวันนี้

เรื่องเริ่มจากวันหนึ่งในฤดูหนาวของชั้น ม.4 ของผม เมื่อผมได้พบกับสาวน้อยในเสื้อไหมพรมกันหนาวสีชมพู
ซึ่งต่อมาได้เป็นแบบเสื้อและสีที่ประทับอยู่ในความทรงจำสีจางๆ ของผมมาจนถึงทุกวันนี้
ผมยังพบอีกว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำให้ผมประทับใจได้ในเสื้อแบบนี้และสีนี้ในเวลาต่อมา
ถึงแม้ว่าต่อมาผมและเธอจะได้เป็นแค่เพียงเพื่อนกันในทุกวันนี้
นอกเรื่องไปอีกล่ะ มาต่อกันดีกว่าครับ

เพียงครั้งแรกที่ผมได้เห็นหน้าตาของเจ้าของเสื้อตัวนี้
ผมรู้สึกประทับใจอย่างทันทีจนเรียกได้ว่ารู้สึกดีดีกับเธออย่างมากมายทันที
ครับด้วยความที่ผมเป็นเด็กหอดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมที่จะได้รู้จักชื่อของเธอคนนั้น
แค่เพียงผมได้รู้ว่าเธอเรียนอยู่ห้องไหนก็เป็นสิ่งที่ไม่ยากอีกต่อไป  :smile7:

ในที่สุดผมก็รู้ชื่อของเธอจากเพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นเด็กหอด้วยกันที่เรียนห้องเดียวกันกับสาวเสื้อไหมพรมสีชมพูคนนั้น
เธอชื่อ...นุ่น...ครับ ห้องเรียนของเธออยู่ห่างจากผมไปอีก 3 ห้องครับ
และช่างบังเอิญเหลือเกินที่ เพื่อนสนิทของผมในห้องก็แอบปิ้งกับสาวสวยในห้องเดียวกับเธออยู่เหมือนกัน
ที่เหลือก็แค่ทำอย่างไรผมจะได้รู้จักกับเธอนี่สิครับ
เฮ้อ! นึกๆไปแล้วสมัยนั้นเป็นเรื่องยากเย็นนะครับกับการที่จะเริ่มทำความรู้จักกับใครสักคนที่เป็นเพื่อนต่างเพศ
แต่...
ทุกอย่างเป็นไปได้ครับเมื่อผมเป็นเด็กหอซึ่งมีเพื่อนเรียนอยู่ทุกห้องในชั้นอยู่แล้วนิครับ  022
ก็เริ่มจากการแวะไปทักทายเพื่อนเด็กหอด้วยกันในห้องเธอไงครับ เข้าใจใช่ไหมครับ
จากนั้นเมื่อเพื่อนรู้ก็ไม่ยากที่จะทำความรู้จักกับเธอครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2008, 09:10:54 AM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 18, 2008, 10:26:15 PM »
   "นุ่น นุ่น มีเพื่อนเราคนหนึ่งเค้าอยากรู้จักเธออ่ะ"

เจ้าเพื่อนเด็กหอตัวแสบของผมเริ่มต้นบทสนทนาขึ้น

   "ใคร? เหรอ" เสียงนุ่นแว่วมากระทบหูผมซึ่งยืนหน้าแดงอยู่
   "เนี่ยะ เพื่อนเราเด็กหอเดียวกับเราชื่อ ก๊ำ อยู่ห้อง..."
   "หวัดดีค่ะ"
   "..." :งง:

สำหรับผมซึ่งกำลังยืนงงกับการกระทำของเจ้าเพื่อนตัวแสบอยู่
มานทำไรของมานฟ่ะ  -17
แลกกับยิ้มหวานๆ ของนุ่นที่มาพร้อมกับเสียงใสของเธอที่ทักทายมา

   "เออ... หวัดดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ"

พร้อมกับยื่นมือขวาออกไปทำไมหว่า นึกว่าเป็นการรู้จักแบบนักธุรกิจมั้ง

   "..."  ????   

นุ่นทำหน้าตาแบบงงๆ ว่าหมอนี่จะมาไม้ไหนเนี๊ยะ พร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ แต่สุดแสนจะน่ารักของเธอ (ในสายตาผม  :smile8: )
แต่เสียงหัวเราะที่ดังกว่ามาจากเจ้าเพื่อนเด็กหอตัวแสบ ที่ถอยห่างออกไปตั้งหลักวิ่ง (คงรู้ว่าจะมีอะไรตามมา)  -18
ซึ่งแลกมาด้วยความอายอย่างหนักจนแทบอยากวิ่งหนีไปของผม

   "โทษทีครับ ผมลืมตัวไป นี่ครับ"    ผมรีบแก้ไขพร้อมกับยื่นลูกอมฮาร์ทบีทรูปหัวใจออกไปให้กับเธอ
   "อะไรเหรอ"   แน่ะถามได้ก็เห็นๆ อยู่ว่าเป็นอะไร
   "ผมให้ครับ เนื่องในโอกาสที่เราได้รู้จักกัน"
   "ไม่เป็นไรค่ะ ไปก่อนนะค่ะ แล้วเจอกันค่ะ"     :smile8:

เธอเดินจากไป พร้อมกับความรู้สึกดีๆ ที่เริ่มต้นขึ้นกับสาวเจ้าของเสื้อไหมพรมสีชมพู
ซึ่งยังคงประทับใจในความทรงจำจางๆ ของผมจนถึงทุกวันนี้ :smile4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 24, 2009, 09:16:00 AM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ อุเทน47

  • Senoir MC27/30
  • ****
  • กระทู้: 8,403
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 19, 2008, 10:19:46 AM »
เนื้อเรื่องชักเร้าใจ  -11 เปรียบไปก็คล้ายดั่งกับ...
หนังแฟนฉัน ภาค 2 ดีดีนี่เอง
เดี๋ยวชวนหมอริมดอยมาเป็นผู้กำกับ ให้น้าเก่งเขียนบท ตรูจะเป็นผู้อำนวยการสร้าง ให้อาเฮียเป็นนายทุน อิอิ

ออฟไลน์ korokoso

  • Sophomore MC27/30
  • **
  • กระทู้: 2,221
  • ถูกใจ: +0/-0
  • ไปทะเลกันดีก่า
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 08:32:18 AM »
ขอเป็นคนคัดนักแสดงเอง  :smile7:
หนึ่งมิถุนา จาไปเรียนที่เชียงใหม่นะเออ

ออฟไลน์ Mor-Rim-Doi

  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,151
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 07:26:32 PM »
ถ้า 'จารคัดนะ
รับรองมีน้อง Aoi กะ Miyabi แหง
แล้วคนไหนเหมือนคุณนุ่นครับ
                            :angry4:

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 08:31:35 PM »
Miyamoto Mushashi ครับ -04
เอ้ย... ขอ miyabi เป็นน้องปอยครับ
ส่วน นุ่น ขอเป็น น้องอ้อย ก็แล้วกันคร๊าบ

ว๊าก... จะบ้าเหรอ...  -15
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 20, 2008, 08:58:31 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 08:57:16 PM »
มาพักสมองครุ่นคิดเรื่องราวในวันวาน ก่อนจะจบ จากหล่ายดอยสู่รั้วแดงขาวน้ำเงิน ให้อ่านเรื่องนี้ไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกันครับ

คุณของจะงงกันใช่ไหมว่าแล้วสาวน้อยในใจคนแรกของผมอยู่ไหนกันล่ะ
ไหนว่าเริ่มจะมีสัญญาณมิตรภาพเริ่มต้นกันไง จริงๆ แล้วผมกับปอยนั้น ผมก็ได้แต่ติดต่อทางจดหมาย
และแลกรูปถ่ายแทนใจกันไว้ ไม่ได้เจอหน้ากันเลยตลอดระยะเวลา 3 ปีที่เรียนช่วงมัธยมปลาย
จะมีคุยกันบ้างทางโทรศัพท์นานๆ ครั้งเพราะค่าโทรศัพท์สมัยนั้นก็แพงเอาการอยู่ที่เดียวสำหรับวัยรุ่นอย่างผมซึ่งยังหาเงินเองไม่ได้
และถ้าผมสบโอกาสได้ลงไปกรุงเทพฯ กับใครก็จะได้เพียงโทรหาให้ชื่นใจบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็แค่นั้นไม่มีอะไรคืบหน้า

วกกลับมาที่สาวเจ้าของเสื้อไหมพรมสีชมพูกันต่อดีกว่าครับ
โอกาสที่ผมจะได้พูดคุยกับนุ่นนั้นเรียกว่าค่อนข้างยากมากๆ ครับได้แต่เฝ้ามองเธอห่างๆ
คอยฝากของไปให้เธอบ้างในบางโอกาส
จนกระทั่งวันหนึ่งในช่วงปลายภาคเรียนนั้นเองที่โอกาสได้เข้ามาหาผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว
จำได้ว่าวันนั้นคุณนายแม่เจ้าเก่าของผมอีกนั่นแหละครับ ได้มีบัญชาให้ผมไปหาซื้อของขวัญวันเกิดให้กับคุณตาในเย็นวันหนึ่ง
ทำให้ผมต้องขึ้นรถเมล์หลังเลิกเรียน และความบังเอิญหรือว่าเป็นโชคชะตาของผมที่ทำให้ผมได้พบกับเธอ
และได้นั่งไปด้วยกันบนรถเมล์เจ้ากรรมคันนั้น อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะปกตินุ่นจะมีรถมารับเป็นประจำ

   "หวัดดีครับ นุ่น"
   "อ้าว ก๊ำเหรอทำไมวันนี้ไม่กลับกับรถโรงเรียนล่ะ"    (อุ๊ย! รู้ด้วยว่าเรากลับรถโรงเรียน)
   "พอดี แม่ก๊ำใช้ให้ไปทำธุระนิดหน่อยครับ แล้วนุ่นละทำไมไม่กลับกับรถประจำล่ะ"
   "ช่วงนี้เราไปเรียนเสริมภาษาที่ ... ช่วงเย็นน่ะ"
   "เหรอ ขยันจังเนอะ แล้วนุ่นเรียนถึงไหนแล้วล่ะครับ"
   "เพิ่งเริ่มเรียนเองค่ะ ตอนนี้อยู่ Class 1 อยู่เลย แต่ใกล้จบคอร์สแล้วล่ะ คงต้องหยุดก่อนเพราะใกล้สอบแล้ว ช่วงปิดเทอมก็คงจะลงเรียนต่อน่ะ"
   "อืม... ดีเนอะ ช่วงปิดเทอมเราคงต้องกลับไปช่วยที่บ้านอ่ะนะ เรียนแบบนี้เค้าเรียนอะไรเหรอ"
   "ก็เรียนฝึกพูดกับฟังอ่ะ"
   "น่าสนใจอยู่เหมือนกันเนอะ แล้วเค้าเรียนที่ไหนล่ะ ค่าเรียนแพงหรือปล่าวครับ"
   "ก็ไม่แพงนะ แล้วก็เรียนที่โรงเรียน... น่ะ"    โอ้ว!!! ถิ่นเสือเลยนะนั่นนะโรงเรียนที่ว่านะ อริทางด้านกีฬากับโรงเรียนผมเลยอ่ะดิ
   "ดีเนอะ แล้วคอร์สใหม่เค้าจะเริ่มรับสมัครกับเรียนเมื่อไหร่ล่ะ"
   "สมัครก็คงช่วงเดือนหน้า เริ่มเรียนก็หลังเราสอบเสร็จพอดีแหละ แล้วก๊ำจะไปทำธุระแถวไหนล่ะ"
   "ก็แถวๆ ตลาดต้นลำใยครับ"
   "ก็เกือบถึงแล้วซิ"    (ทำไมวันนี้รถมันไม่ติดเลยอ่ะ  :no: เฮ้อ!!!)
   "ครับ ป้ายหน้าก็ต้องลงแล้วล่ะ"
   "อืม... แล้วเจอกันที่โรงเรียนนะ"
   "ครับ"

ผมลงรถเมล์พร้อมทั้งนึกถึงปิดเทอมที่จะมาถึงและการเรียนเสริมภาษาของผมไว้ในใจ
ฮึ ฮึ ต้องรีบทำธุระของคุณนายแม่ให้เสร็จ แล้วรายงานผลพร้อมทั้งขออนุมัติในการเรียนเสริม อุ อุ ......
แน่นอนครับเมื่อผมรายงานผลการทำธุระ และขออนุมัติในช่วงวันหยุดที่ผมกลับบ้าน
ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ผมคิด คุณนายแม่อนุญาตอย่างทันใจ และให้ไปสมัครได้เลย
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ korokoso

  • Sophomore MC27/30
  • **
  • กระทู้: 2,221
  • ถูกใจ: +0/-0
  • ไปทะเลกันดีก่า
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 09:00:15 PM »
อุอุอุ  -021 พี่หมอ ป๋มมีเด็กที่มี.......แบบน้อง Aoi อยู่ที่นั่นอยู่แล้ว  -021 -021 -021 เดี๋ยวจะไปพามาเป็นดารา  :smile10:
หนึ่งมิถุนา จาไปเรียนที่เชียงใหม่นะเออ

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: เมษายน 20, 2008, 09:14:52 PM »
 -07 เสียวแว๊บ กลับไปดูที่ save เอาไว้ปรากฎว่าต้นฉบับหายไปครึ่งเรื่อง  -14
โชคดีที่สำรอง file ไว้ ไม่งั้น  -08 เพื่อนหมออารมณ์ค้างอีกแน่ๆ  -09
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: Do you believe in Destiny?
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: เมษายน 21, 2008, 08:54:11 PM »
ไม่รอช้าครับผมชวนเจ้า ...ชิด... เพื่อนสนิทผมที่คบกันมาตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนที่นี่
ชิดเป็นลูกครึ่งครับเป็นเหมือนเพื่อนตายของผมก็ว่าได้ และยังจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของผมไปอีกนานทีเดียวครับ

   "เฮ้ย... ชิด ปิดเทอมนี้คิงว่างป่ะ"
   "ทำไมเหรอก๊ำ"
   "อ๋อ พอดีว่างๆ ว่าจะชวนคิงไปเรียนเสริมภาษาที่ ...."
   "เฮ้ย... ไม่สบายหรือปล่าวว่ะเพื่อน นึกไงถึงจะไปเรียนเสริมว่ะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นสนใจนี่หว่า"
   "พอดี ฮาอ่อนภาษานิ คิงก็รู้นี่หว่า แต่คิงเก่งอยู่แล้ว ไปส่งฮาเฉยๆ ก็ได้เพื่อน"
   "แต่ฮาว่าก็น่าสนนะ เอาเหอะเดี๋ยวฮาไปเรียนเป็นเพื่อนคิงก็ได้ ไม่เป็นไร แต่แน่ใจนะเพื่อนว่าอยากเรียนจริงๆ อ่ะ"
   "ทำไมล่ะก็ฮาอยากเรียนจริงๆ นี่หว่า"
   "เฮ้ย...นึกออกแล้ววันก่อนคิงบอกว่า นุ่น เรียนอยู่นี่หว่า ใช่ป่ะ อยากเรียนตามสาวนี่หว่า อย่ามาหลอกฮาดีกว่า"
   "ก็ได้เพื่อนว่ะ งั้นแหละ เดี๋ยวเขาจะรับสมัครอาทิตย์หน้าไปด้วยกันนะเพื่อน"
   "ได้ดิ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าวันจันทร์หลังเลิกเรียนเราไปสมัครด้วยกัน"

เย็นวันจันทร์ผมก็ได้ไปสมัครเรียนยังสถาบันภาษาแห่งนั้น
พร้อมทั้งมีการสอบสัมภาษณ์จากอาจารย์ฝรั่งเจ้าของภาษา
ซึ่งปรากฎว่าผมได้เรียน Class 2 ห้อง A ครับ
แต่เจ้าชิดเพื่อนผมได้พาสชั้นไป Class 8 ครับ
ซึ่งจากตรงนี้เองทำให้เจ้าชิดพบกับ Destiny ของตัวเองเมื่อได้พบกับสาวหน้าตาน่ารักต่างโรงเรียน
นำพาให้พบและรู้จักคำว่า "ความรักฝังใจ" เป็นครั้งแรก
ซึ่งยังประทับอยู่ในความทรงจำจางๆ ของมันจนถึงทุกวันนี้ และเมื่อมีโอกาสได้เจอกันผมมักจะแซวมันในเรื่องนี้อยู่เสมอ
และจะด้วยเพราะเหตุบังเอิญหรือว่า Destiny จะเล่นตลกกับมันหรือเปล่าก็ไม่รู้ทำให้ผมเองได้รู้จักกับสาวน้อยของมันคนนี้
และครั้งหนึ่งเธอได้ช่วยชีวิตผมเอาไว้ก็ว่าได้ เอาไว้เมื่อถึงเวลาผมจะเล่าให้ฟังครับ

นอกเรื่องไปอีกแล้วครับ กลับมาที่เรื่องของผมกันต่อดีกว่า
ถึงไหนแล้ว อ๋อ...ใช่แล้วผมได้เรียน Class 2 แล้วนี่ผมจะได้เรียนห้องเดียวกับนุ่นหรือปล่าวละเนี้ยะ
ผมได้แต่ภาวนา เพราะในช่วงเวลาหลังจากนั้นผมแทบจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับนุ่นอีกเลย
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย