นั่งจิบวิสกี้เงียบๆ คนเดียว@Whisgar, สุขุมวิท 23 (ภาค 2)

[Weerakorn_K]

สวัสดีสมาชิกชมรมมักเหล้าคลับทุกๆท่านอีกครั้งหนึ่งครับ เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม  ที่ผ่านมา ผมก็ได้พาทุกท่านไปนั่งดื่มเหล้าเงียบๆ คนเดียว
ที่ Flann O’Brien Irish Pub ถนนสีลม ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้ไปผับแห่งนี้ คืนนั้นที่ Flann O’Brien Irish Pub ผมจัดวิสกี้ไป 3 แก้ว 
Pork Chop 1 จาน ผมกลับถึงโรงแรมประมาณ 4 ทุ่มนิดๆ อาบน้ำเข้านอนตามปกติ ตื่นเช้ามาก็ไม่แฮ้งค์ครับ

วันที่ 12 ธันวาคม ตอนเย็นประชุมเสร็จแล้วผมก็จัดการรับประทานอาหารเย็นให้เรียบร้อยก่อนออกไปตระเวณราตรีกันต่อครับ คืนนี้ผมก็ขอนำทุกท่าน
ไปผับเดิมที่ผมเคยไปมาแล้วอีกครั้งหนึ่งครับนั่นก็คือ Whisgar ซอยสุขุมวิท 23 ครับ ผมก็นั่ง MRT จากสถานีหัวลำโพงไปลงสถานีสีลม
และนั่ง BTS จากสถานีศาลาแดงไปลงสถานี BTS อโศก แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 23 ไปร้าน Whisgar ครับ
ตอนที่ผมมาถึงร้านก็เกือบๆ จะ 2 ทุ่มแล้วครับ วันนี้รู้สึกบรรยากาศจะคึกคัก มีทั้งฝรั่งและคนไทยมานั่งดื่มกันพอสมควรครับ ผมเข้ามานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ได้ซักพักก็มีฝรั่ง 2 คนกับคนไทยอีก  1 คน มานั่งที่เคาน์เตอร์บาร์เหมือนกันครับ บาร์เทนเดอร์ผู้หญิงก็แนะนำเหล้าตัวใหม่ให้ผมลองดื่ม คือ  Sullivan Cove Double Cask ครับ ผมหยิบขวดมาดูแล้ว ผมรู้สึกว่าขวดมันแปลกๆ ? (เรื่องนี้ผมเล่าให้คุณตือฟังแล้ว ใครอยากรู้ถามคุณตือกันเอาเองนะครับ) ผมดูขวด Sullivan Cove Double Cask สักครู่แล้วคืนบาร์เทนเดอร์ไป ระหว่างนั้นบาร์เทนเดอร์ผู้ชายก็แนะนำให้ผมลองวิสกี้ที่จัดเป็น Set ครับ  ผมเห็น Set Classic Malt 6 ตัว ราคา 2,200 บาท++ ครับ ผมก็บอกว่าระดับนี้แล้ว ผมเลือกเองได้ว่าจะดื่มวิสกี้ตัวไหนครับ 
ครั้งนี้ก่อนที่ผมจะมา Whisgar ผมก็ได้ทำโพยวิสกี้ที่ผมจะดื่มมา 4 ตัวครับ บวกกับที่ติดค้างจาก Flann O’Brien Irish Pub อีก  2 ตัว
แค่คิดก็ ดูๆ แล้วถ้าผมจัดวิสกี้ที่ Whisgar 4 ตัว บวกกับที่ตกค้างอีก 2 ตัว งานนี้มีหวังหมดตัวแน่นอน 
ผมจึงเปลี่ยนแผนใหม่โดยคืนนี้ผมจะจัดเหล้า 3 แก้วครับ เนื่องจากไม่มีส่วนลด จัดมากกว่านี้ไม่ไหวครับ    

[Weerakorn_K]

ระหว่างที่ผมนั่งดูเมนูอยู่ บาร์เทนเดอร์ก็เอาถั่วมาให้เป็นกับแกล้มฟรีครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นถั่วอะไร เป็นถั่วพิตาชิโอหรือเปล่า ?
ผมดูเมนูแล้ว ผมแพ้ทาง Single malt จากเขต Speyside และ Highland ครับ แก้วแรกจัดเหล้าตามโพย Glenfarclas 105 Cask Strenght (400 บาท)      พอผมสั่งเหล้า บาร์เทนเดอร์ก็ถามว่าพี่จะเอาแบบ on the rock หรือเปล่า ผมได้ยินก็สะดุ้ง เหล้าระดับนี้ขืนดื่มแบบ on the rock รสชาติจืดหมด                         จึงย้ำว่าขอแบบเพียวๆ ครับ
Glenfarclas 105 Cask Strenght 60 %AVB
ขาเหล้า...ขาเล็ก ไหลเร็ว ดูๆแล้วน่าจะเป็นวิสกี้ที่อายุไม่มากครับ
สี...ผับค่อนข้างมืด ดูๆ แล้วน่าจะออกแนวเหลืองทองอมแดงจากถังเชอรี่ครับ
กลิ่น...เชอรี่นำมา ตามด้วยผิวส้ม น้ำผึ้ง พริกไทย อบเชย รู้สึกเผ็ดจมูกนิดๆ
รสชาติ...รสชาตินุ่ม หวานน้ำผึ้ง วานิลา ครีมมันๆในปาก อัลมอนด์ เผ็ดพริกไทย เปรี้ยวนิดๆ
Finish…เปรี้ยว เผ็ด ค้างในปากยาวนาน
สรุป... Glenfarclas 105 Cask Strenght เป็นวิสกี้ที่เข้ม แต่นุ่มมากครับ  ไม่น่าเชื่อว่าจะมีดีกรีถึง 60 ดีกรี ดื่มง่ายกว่าที่คิดครับ

[Weerakorn_K]

จัด Glenfarclas 105 เรียบร้อยไปแล้ว ผมขอเมนูมาดู ตอนแรกผมทำโพยมาว่าจะจัด Balvenie Single Barrel 15 yo เป็นแก้วต่อไป
แต่พอเข้าผับแล้วกลายเป็นอื่น ? ผมดูแล้วจัด  1 ใน 6 Classic malt ของ Diageo  Dalwhinnie 15 yo (450 บาท) ครับ
Dalwhinnie 15 yo 43%AVB   
ขาเหล้า...ขาเล็ก ไหลเร็ว ไม่ค่อยสมอายุเท่าไหร่
สี...สีออกสีทองอ่อนๆ แบบ pale gold
กลิ่น...น้ำผึ้ง หอมกลิ่นมวลหมู่ดอกไม้ กลิ่นหอมมากๆ ตามด้วยอัลมอนด์ ครับ ผมไม่เคยเจอวิสกี้ที่มีกลิ่นหอมแบบนี้มาก่อน
รสชาติ...light body หวานน้ำผึ้ง วนิลามันๆ หอมตลบอบอวลในปากยาวนานเป็นที่สุด เผ็ดนิดๆ รวมแล้วรู้สึกว่ารสชาติจะอ่อนไปหน่อยครับ
Finish…รู้สึกเหมือนกินอัลมอนด์มันๆในปากสั้นๆ หวานนิดๆ จบเร็วไปหน่อยครับ
สรุป...Dalwhinnie 15 yo เป็นเหล้าที่นุ่มนวล ชวนฝันเป็นที่สุด ตั้งแต่เป็นสมาชิกชมรมมักเหล้าคลับมา ผมว่าตัวนี้เป็นเหล้าที่รสชาตินุ่มที่สุดเท่าที่เคยดื่มมาเลยครับ นี่ถ้ามีเป็นขวด ด้วยความที่รสชาตินุ่ม ดื่มง่าย ผมว่าเผลอๆ จัดคนเดียว รวดเดียวครึ่งขวดได้เลยครับ

[Weerakorn_K]

แก้วสุดท้าย ผมดูเมนูแล้วเปลี่ยนใจไม่จัด Single malt ครับ ลองเปลี่ยนไปดื่ม Cocktail หรืออย่างอื่นดีกว่า ผมดูเมนูแล้วได้มา 2 ตัว
Hendrick’s Gin กับ Irish Coffee ผมนั่งตัดสินใจสักครู่  เมนูสุดท้ายในค่ำคืนนี้เลือก Irish Coffee (350 บาท) ครับ
สำหรับ Irish Coffee นี้มีส่วนผสมเท่าที่ผมพอรู้ คือ กาแฟ, Jameson Irish Whisky น้ำตาลทรายแดง และวิปครีม ครับ
โดยเอาน้ำตาลทรายแดงมาลนไฟทาที่ขอบแก้ว ชงกาแฟผสม Jameson เทลงไปในแก้ว และปิดท้ายด้วยวิปครีมครับ
รสชาติ....เข้มข้นเต็มรสกาแฟ วิปครีมมันๆ ตามด้วยรสชาติของ Jameson  ปิดท้ายด้วยรสหวานของน้ำตาลทรายแดง
ผมได้ลองดื่ม Irish Coffee มา 2 ครั้งแล้ว จัดเป็น Cocktail ในใจของผมเลยครับ

สุดท้ายภารกิจตระเวนราตรีกรุงเทพ 2 คืนซ้อนของผมก็ต้องมีวันเลิกรา ค่าเสียหายของคืนนี้ที่ Whisgar  วิสกี้ 2 แก้ว Cocktail 1 แก้ว
และน้ำดื่ม 1 ขวด  บวกภาษีและค่าบริการ ราคา 1,447.71 บาทครับ
ผมก็ขอลาทุกท่านกลับบ้านแต่เพียงเท่านี้ครับ ครั้งต่อไปหากมีโอกาสมากรุงเทพอีก ผมจะไปจัดเหล้าที่ร้านอื่น และเอามาเล่าสู่กันฟังครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

รายการนี้ก็น่าสนใจนะครับ เสียดายผมลง กทม. ช่วงสงกรานต์ไม่รู้ว่าเขาจะให้เปิดขายเหล้าได้หรือปล่าว
หากให้ขายก็คงได้ลองกันสักครั้งแน่ๆ ครับ

[otrue]

คุณโตวันหลังมากทม. บอกด้วยสิครับ

[Weerakorn_K]

คุณโตวันหลังมากทม. บอกด้วยสิครับ

รับทราบครับ...ครั้งต่อไปหากมีโอกาสไป กทม.จะโทรบอกครับ