อันนี้แถมท้าย
ข่าวประชาสัมพันธ์
Glenfiddichนำเสนอความหลากหลายแห่งวิสกี้ที่น่าลิ้มลอง
ซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ ที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก พร้อมตอบสนองคนรักวิสกี้ทุกรูปแบบ
(กรุงเทพฯ) 28 มีนาคม 2556 ประเทศไทยกำลังเติบโตเป็นตลาดสำคัญของGlenfiddich (เกลนฟิดิค) ซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ที่ได้รับรางวัลยกย่องมากที่สุดในโลก คนไทยที่ชื่นชอบสิ่งที่ดีที่สุดนิยมดื่มด่ำรสชาติที่ล้ำลึกซึ่งช่วยเสริมความโดดเด่นและหลากหลายของอาหารไทยได้เป็นอย่างดี โรงกลั่นที่บริหารงานภายในครอบครัวอายุกว่า126 ปีที่ถือเป็นโรงกลั่นเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดในโลกกำลังมียอดขายเพิ่มมากขึ้นในเมืองไทยเช่นเดียวกับความต้องการให้จัดกิจกรรมการทดสอบรสชาติของวิสกี้ในกลุ่มเพื่อนฝูงและสำหรับองค์กรธุรกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น
Glenfiddichหรือในสกอตแลนด์มีคำเรียกขานว่า Valley of the Deerหรือ หุบเขาแห่งกวาง เป็นโรงกลั่นแห่งแรกในโลกที่ผลิตซิงเกิลมอลต์ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งผลิตวิสกี้ที่มีความเชี่ยวชาญโด่งดังไปทั่วโลกและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในประทศไทย ซิงเกิลมอลต์วิสกี้ที่เกิดจากโรงกลั่นแห่งเดียวและมาจากข้าวบาร์เลย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เบลนด์วิสกี้มาจากวิสกี้มากกว่าหนึ่งประเภทและไม่ได้มาจากข้าวบาร์เลย์ 100 เปอร์เซ็นต์ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือรายละเอียด กลิ่นและรสชาติของวิสกี้ที่แตกต่างกันนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมซิงเกิลมอลต์และGlenfiddichถึงมีราคาสูง
ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญของWilliam Grant & Sons (วิลเลี่ยม แกรนท์ แอนด์ ซันส์) และยังเป็นตลาดที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ของเราเพราะคนไทยมุ่งเน้นที่คุณภาพและรสชาติเป็นหลัก มร.มาร์คัส โลว์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริการ ประจำภูมิภาคของWilliam Grant & Sons กล่าว แต่ละผลิตภัณฑ์ของเรามาพร้อมกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อตอบสนองความต้องการของนักดื่มแต่ละคน ตั้งแต่กรุ่นกลิ่นความหอมสดใหม่ของผลไม้และลูกแพรของGlenfiddich12 ปี ไปจนถึงความลื่นไหลในความหวานแบบน้ำผึ้งและเผ็ดซ่านอบอุ่นของGlenfiddich15 ปี Glenfiddich ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นในเมืองไทย เราเป็นหนึ่งในซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ เจ้าแรกที่ส่งออกจากสกอตแลนด์ในปีพ.ศ.2506 และมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในตลาดเมืองไทย
Glenfiddichเป็นส่วนหนึ่งของWilliam Grant & Sons โรงกลั่นอิสระที่บริหารงานในครอบครัวซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปีพ.ศ.2429 โดดเด่นด้วยรสชาติและความซับซ้อนที่เกิดจากการผสมผสานความสดของน้ำสะอาดและทักษะชั้นยอดของมอลต์มาสเตอร์อย่าง มร.ไบรอัน คินส์แมน ซึ่งเป็นมอลต์มาสเตอร์คนที่หกในประวัติศาสตร์ 126 ปี ด้วยสูตรการปรุงวิสกี้ที่สั่งสมและสืบทอดมายาวนานกว่าห้าเจนเนอเรชั่น วิสกี้ที่สร้างจากประสบการณ์อันช่ำชองของผู้ชำนาญการจึงมีพัฒนาการและความพิถีพิถัน ผสานความเข้มข้นซับซ้อนเข้ากับบุคลิกเฉพาะตัวของGlenfiddich
หนึ่งในหน้าที่ของมอลต์มาสเตอร์คือการตรวจสอบพัฒนาการของถังบ่มเพื่อรักษาคุณภาพและจำแนกเมื่อมีสิ่งผิดปกติหรือความพิเศษเกิดขึ้น มร.สตรวน แกรนท์ ราล์ฟ แอมบาสซาเดอร์ของWilliam Grant & Sons กล่าว การใส่ใจในรายละเอียดและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมายาวนานทำให้Glenfiddichมีความโดดเด่นอย่างมาก
มร.สตรวน กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทมีความพิเศษ เปี่ยมด้วยสีและกลิ่นที่แตกต่างกันเพื่อดึงดูดลูกค้าที่มีรสนิยมไม่เหมือนกัน อาทิ Glenfiddich12 ปีมีความโดดเด่นที่ความสดและกลิ่นของผลไม้ ดื่มแล้วมีความนุ่มละมุนค้างต่อเนื่องยาวนานด้วยกลิ่นแพรสดและโอ๊คอันนุ่มนวล ขณะที่Glenfiddich15 ปีจะสร้างความประทับใจด้วยกลิ่นที่ล้ำลึกของน้ำผึ้งและลูกเกด บอดี้ที่เต็มแน่นและกลิ่นรสที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน สำหรับGlenfiddich18 ปีผลิตแยกส่วนปริมาณน้อย มอบความนุ่มนวลสุดพิเศษและเต็มเปี่ยมด้วยความเป็นซิงเกิลมอลต์สก็อตซ์วิสกี้อันลึกซึ้ง พร้อมกับกลิ่นอันเข้มข้นของแอปเปิลอบและซินนามอน
Glenfiddichทั้ง 12 ปี 15 ปี และ 18 ปีมีจำหน่ายในร้านค้าปลีกบางแห่งในประเทศไทย ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นอย่าง 21 ปี 30 ปี และ 40 ปีก็มีจำหน่ายในบางพื้นที่เช่นเดียวกัน
เกี่ยวกับ Glenfiddich
Glenfiddichซิงเกิลมอลต์ สก็อตซ์วิสกี้ที่ได้รับรางวัลยกย่องมากที่สุดในโลก มีชื่อเสียงจากการเป็นผู้บุกเบิกขนานแท้ในอุตสาหกรรมนี้ โรงกลั่นGlenfiddich ตั้งอยู่ในเมืองดัฟฟ์ทาวน์ (Dufftown) ในแถบสปีย์ไซด์ (Speyside) ของประเทศสกอตแลนด์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2429 โดยวิลเลี่ยม แกรนท์ พร้อมกับบุตรชายเจ็ดคนและบุตรสาวอีกสองคน ปัจจุบัน Glenfiddichยังคงบริหารงานอย่างเป็นอิสระภายในครอบครัวมาถึงเจนเนอเรชั่นที่ห้าของตระกูลวิลเลี่ยม แกรนท์ ความมีอิสระดังกล่าวเอื้อให้โรงกลั่นสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและยกระดับมาตรฐานให้สูงขึ้นได้ พร้อมกับสืบสานการผลิตวิสกี้ที่หายากที่สุดในโลกต่อไป Glenfiddichเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มผลิตภัณฑ์ซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ในปีพ.ศ.2506 ด้วยการเปิดตัววิสกี้ที่มาจากมอลต์แท้ๆ Glenfiddich ยังเดินหน้ารักษาวัฒนธรรมการบุกเบิกที่ริเริ่มโดยแกรนท์ ผู้ก่อตั้ง ทำให้ได้รับรางวัลมากที่สุดในโลกและเป็นซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในโลก
ผลิตภัณฑ์ของGlenfiddichครอบคลุมทั้งแบบ12 ปี (ปริมาณแอลกอฮอล์ 40% ราคาจำหน่ายปลีก 2,070 บาท) 15 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 2,470 บาท) 18 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 3,380 บาท) และ 21 ปี (แอลกอฮอล์ 40% ราคา 8,999 บาท) รวมถึงซีรีส์ที่หายากและมีมูลค่าสูงอย่างGlenfiddich50 ปี ซึ่งราคาขายในปีพ.ศ.2552 อยู่ที่ 38,000 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดจนGlenfiddich รุ่น Janet Sheed Roberts Reserve1955 ที่จำหน่ายผ่านการประมูลในนิวยอร์กด้วยราคาสูงเป็นสถิติ 94,000 เหรียญฯ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เข้าชมได้ที่www.glenfiddich.com
เกี่ยวกับ William Grant & Sons
William Grant & Sons เป็นผู้ดำเนินงานโรงกลั่นที่ได้รับรางวัลมามากมายโดยบริหารงานภายในครอบครัวอย่างเป็นอิสระ ก่อตั้งโดยวิลเลี่ยม แกรนท์ในปีพ.ศ.2429 ปัจจุบัน จิตวิญญาณของบริษัทได้ถูกสืบทอดมาถึงรุ่นที่ห้าและผลิตแบรนด์สก็อตช์วิสกี้ชั้นนำของโลกมากมาย รวมถึงซิงเกิลมอลต์ยอดนิยมในระดับโลก อาทิ Glenfiddich(เกลนฟิดิค) เดอะบัลเวนีย์(The Balvenie)และแกรนท์ เบลนด์วิสกี้(Grants) ตลอดจนเครื่องดื่มอื่นๆอย่าง เฮนดริก จิน (Hendrick's Gin) เซเลอร์ เจอร์รี่(Sailor Jerry)
มังกี้ โชลเดอร์(Monkey Shoulder) และเรย์ก้า วอดก้า (Reyka Vodka)
เข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมของบริษัทและแบรนด์ต่างๆ ได้ที่
www.williamgrant.com