.....กระทู้นี้ไม่รู้จะไปอยู่ในหมวดไหน แต่ขอลงให้ความรู้แก่เพื่อนๆนะคับ ......
ข้อมูลต่อไปนี้ แทบไม่มีออกทางสื่อเลย โดยเฉพาะสื่อ ทีวี ทำให้คนที่รู้เรื่องนี้มีน้อยมาก
ผมขอเขียนสรุปสั้นๆ โดยรวบรวมข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญโรคจากคลินิกนิรนาม และเวปที่เกี่ยวโรคเอดส์ ฯลฯ
++++ กรณีหากคิดว่าเราเสี่ยงหรือรับเชื้อติดเอดส์ เช่น ร่วมเพศแล้วถุงยางแตก หรือเมาร่วมเพศโดยไม่ป้องกันกับคนที่คิดว่าเสี่ยง หรือโดนข่มขืน หรือโดนคนบ้าเอามีดหรือเอาของมีคมไล่แทง ไล่ฟัน ไล่จิ้ม ฯลฯ
วิธีปฏิบัติและแก้ปัญหา...สิ่งแรก....
1. ต้องตั้งสติดีๆ แล้วรีบไปหาหมอที่รพ.ที่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุด เพื่อรับยาต้านไวรัสเอดส์แบบฉุกเฉิน หากไปหา ที่คลินิกนิรนามได้ยิ่งดี ที่นั่นเค้าเชี่ยวชาญการจัดยาต้านแบบชั้นเซียน แล้วราคาค่ายาต้านถูกกว่ารพ.เอกชน
2. ระยะเวลาที่รับยาต้านไวรัสเอดส์แบบฉุกเฉินนั้น ต้องกินยาหลังเสี่ยง ไม่เกิน72ชม.(3วัน) แต่นักวิชาการและผู้เชี่ยวแนะนำให้กินยาไม่เกิน1-2ชม.หลังเสี่ยงรับเชื้อ จะได้ป้องกันได้มากที่สุด หากเกินกว่านี้ เปอร์เซ็นต์จะป้องกันไม่ให้รับเชื้อเอดส์ก้อจะน้อยลง หรืออาจสายเกินแก้
3.หากไปหาหมอที่รพ.ใดเพื่อรับยา แล้วทางรพ.นั้นบอกให้นัดมาพบวันหลัง หรือไม่สนใจ หรือปล่อยให้รอนาน เราต้องเปลี่ยนรพ.ทันที
4.หลังจากกินยาต้านไวรัสแล้ว เรามีอาการข้างเคียงต่างๆ เช่นมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออ่อนเพลียมากได้ เป็นต้น
5.ข้อเสียอีกอย่างหนึ่ง หากเราได้ใช้ยาต้านไวรัสตัวนั้นไปแล้ว เราจะใช้ยาต้านตัวนั้น อีกไม่ได้แล้วหากในวันข้างหน้าเราเกิดพลาดติดเชื้อเอดส์ เพราะมันจะดื้อยา ต้องเปลี่ยนหายาต้านไวรัสตัวอื่นมารักษาแทน(เท่ากับหมดทางเลือกในการรักษาไปหนึ่งทาง)
6.ระหว่างกินยาต้าน อย่าเครียดมาก แล้วควรกินอาหารเพื่อสุขภาพ และลดอาหารประเภท "หวานๆ มันๆ" เพื่อให้ภูมิต้านทานโรคดีขึ้น
7.หลังกินยาต้านที่หมอจัดให้จนครบกำหนดแล้ว...หากตรวจเลือดแล้วเป็นบวก คือเรามีเชื้อเอดส์ ก้อไม่ต้องคิดมากเพราะเดี๋ยวนี้ยาต้านดีมากๆๆ หากตรวจพบว่าติดเชื้อแต่เนินๆ รักษาตัวดี ไม่รับเชื้อเพิ่ม เรามีโอกาสอยู่ได้นานร่วม30-40ปี ในอนาคตข้างหน้ายาต้านพัฒนาดีๆๆ ชีวิตก้ออยู่ยืดยาวจนครบอายุไข(แก่ตาย) .... ใครเป็นโรคไต เบาหวาน ยังใช้ชีวิตลำบากกว่าคนมีเชื้อเอดส์อีก เพราะมีข้อจำกัดเรื่องการกิน การอยู่มากๆๆ .... ที่เราเห็นสภาพผู้ป่วยอาการหนักๆๆ ที่วัดพระบาทน้ำพุนั้น พวกคนป่วยเหล่านั้นมักรู้ตัวว่าเป็นเอดส์ตอนเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้วทั้งนั้น หรือรู้ตัวว่าเป็นแล้วไม่ดูแลรักษาตัวเองให้ดี ไปรับเชื้อเพิ่ม ทำให้ต้องมีสภาพดังที่เห็น ยิ่งระยะสุดท้าย ยิ่งรักษายากมากๆๆ
++++ส่วน เรื่องการประชาสัมพันธ์ในรับยาต้านไวรัสเอดส์แบบฉุกเฉิน นั้นไม่แพร่หลาย เพราะทางผู้ใหญ่เกี่ยวด้านโรคเอดส์ เค้าขัดแย้งกัน ฝ่ายหนึ่งอยากให้เผยแพร่เพราะจะได้ช่วยเหลือและป้องกันได้ทัน ลดจำนวนคนติดเชื้อเอดส์ แต่...อีกฝ่ายหนึ่งไม่อยากให้เผยแพร่ เพราะเกรงว่าคนไทยจะไม่กลัวเอดส์ และจะไม่การป้องกันเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะคิดว่าหลังร่วมก้อมียาต้านกินป้องกันได้ สำหรับผมคิดว่าน่าจะประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้ปชช.ให้รู้ ดีกว่า... ไม่ลองนึกถึงผู้หญิงที่โดนข่มขืนแล้วไม่กล้าแจ้งความ หรือกล้าบอกเรื่องนี้กับใครบ้างหรือ หากเธอมีความรู้เรื่องกินยาต้าน ก้อน่าช่วยให้ป้องกันไม่ให้ติดเอดส์จากการข่มขืนได้ไม่น้อย
ในวันที่ 1 ธค.นี้ เป้นวันเอดส์โลก ขอให้เพื่อนสนิทของผมที่ติดเชื้อ HIV และผู้ติดเอดส์ทั่วโลก จงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และมีจิตใจที่เข้มแข็งในต่อสู้กับโรคนี้ จงอย่าถ้อ เพราะยังโรคอื่นที่น่ากลัวและทุกข์ทรมานในการใช้ชีวิตประจำวัน มากกว่านี้อีก(ส่วนตัวผมเอง ผมกลัวโรคไต มากสุด) แล้วคนที่ไม่ติดเชื้อก้อขอให้อย่าได้รังเกียจ โปรดให้ความเมตตา ช่วยเหลือให้กำลังใจต่อผู้ป่วยด้วย
****ข้อความที่ผมโพสต์ให้ข้อมูลไปนี้ อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความก้าวหน้าของตัวยา และการรักษา ....เราควรปฎิบัติและกินยาตามแพทย์สั่งด้วยคับ****
หากมีปัญหาเรื่องเอดส์ โทร.02-253-2666