เรามาหาวิธีดูแลสุขภาพหลังดื่มเหล้ากันดีกว่าครับ

[เล่งฮู้ชง(令狐冲)]

แน่นอนว่าถ้าเราถามหมอ หรือ คนอื่นๆในเรื่องดูแลสุขภาพ เข้าคงแนะนำให้พวกเราดื่มเหล้าให้น้อยลง หรือ ให้เลิกเหล้า...ซึ่งเราคงไม่ต้องการ

ดังนั้นเรามาหาวิธีดูแลสุขภาพหลังดื่มเหล้ากันดีกว่าครับ

ไม่ทราบเพื่อนๆมีวิธี หรือ เคยอ่านบทความอะไรที่เกียวกับเรื่องนี้บ้างครับ...เอามาแบ่งปันกันดีกว่า พวกเราได้กินเหล้ากันน่าๆครับ

[เล่งฮู้ชง(令狐冲)]

ผมไม่มีความรู้เรื่องการแพทย์เลยครับ...แต่เท่าที่พอรู้แบบงูๆปลาๆ เหล้าจะส่งผลกับตับอย่างมาก ดั้งนั้นเราต้องบำรุงตับ

มีอาหารหลายอย่างที่บำรุงตับ แต่อาจเป็นการยากที่จะหาทานได้ทุกวัน(เพราะกินเหล้าทุกวัน) ดังนั้นการกินวิตามินอาจช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ

เท่าที่ผมกินอยู่ตอนนี้ก็มี วิตามินรวม กับ Bรวม

[เล่งฮู้ชง(令狐冲)]

เท่าที่ผมกินอยู่ตอนนี้ก็มี วิตามินรวม กับ Bรวม

[otrue]

จริงๆ เรื่องของอาหารที่ทำลายตับนับไม่ได้มีแต่เพียงแอลกอฮอร์นะครับ ตัวร้ายๆ ที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้แก่
-อาหารที่ใช้สารกันบูด สารเพิ่มรสชาติ สารใส่สี ใส่น้ำตาลเทียม
-ยาแก้ปวด
-นอนดึก
-ไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัว ซึ่งมักจะพบได้ในเนื้อสัตว์

วิธีรักษาน้องตับ
-ไม่ดื่มสุรา เบียร์ หรือของมึนเมา
-ไม่ควรรับประทานยาพร่ำเพรื่อ เพราะสารเคมีจะทำลายตับได้
-ระวังอย่าสูดดมพวกละอองสเปรย์ต่างๆ
-สวมถุงมือ ใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกและหน้ากากทุกครั้งที่พ่นหรือผสมยาฆ่าแมลง
-ไม่สำส่อนทางเพศ
-ไม่ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้น
-ไม่รับประทานอาหารดิบหรือสุกๆ ดิบๆ
-รับประทานอาหารที่สะอาดและน้ำต้มสุก มีภาชนะปิดอย่างมิดชิด
-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

[เล่งฮู้ชง(令狐冲)]

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เจ๋งพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทย…..ป้องกันโรคตับ
 
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ประสบความสำเร็จในการพัฒนา "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทย…..ป้องกันโรคตับ" ออกฤทธิ์ป้องกันการทำลายของเซลล์ตับหรือบำรุงรักษาตับ ระบุประสิทธิผลยอดเยี่ยม มีความปลอดภัยสูง  พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน    เพื่อนำไปผลิตเชิงพาณิชย์

ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า จากการที่ วว.ได้ดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากพืชสมุนไพรไทยออกฤทธิ์ป้องกันโรคตับ โดยได้นำหลักการเดียวกับการวิจัยของประเทศอินเดียมาประยุกต์ใช้ เพื่อช่วยการลดระยะเวลาและขั้นตอนในการทำการวิจัยเกี่ยวกับสมุนไพรได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ วว. ประสบความสำเร็จในการพัฒนา "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทย…ป้องกันโรคตับ" เป็น 2 ชนิด ที่มีสรรพคุณในการบำรุงและป้องกันพิษจากสารเคมีต่อตับ และช่วยบำรุงและป้องกันพิษจากแอลกอฮอล์  เหมาะอย่างยิ่งในการใช้ร่วมกับยาเพื่อรักษาหรือช่วยให้ตับแข็งแรง โดยไม่มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับยาสังเคราะห์  ทั้งนี้ วว.พร้อมที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน เพื่อทำการผลิตในเชิงพาณิชย์ พร้อมจะศึกษาผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวร่วมกับยาในผู้ป่วยต่อไป

"ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ วว.สามารถพัฒนาได้ มี 2 ชนิด คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal-D  ที่ช่วยบำรุงและป้องกันพิษจากสารเคมีต่อตับ  และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal ที่ช่วยในการบำรุงและป้องกันพิษจากแอลกอฮอล์  เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนำมาใช้ร่วมกับยาเพื่อรักษาหรือช่วยให้ตับแข็งแรงโดยไม่มีผลข้างเคียงเช่นเดียวกับยาสังเคราะห์  จึงนับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับป้องกันโรคตับอย่างมีประสิทธิผลและความปลอดภัยสูง"  ผู้ว่าการ วว. กล่าวเพิ่มเติม

ดร.ชุลีรัตน์ บรรจงลิขิตกุล นักวิชาการประจำฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในการวิจัยครั้งนี้ วว. ได้ประยุกต์หลักการของประเทศอินเดียมาใช้ โดยขั้นตอนของการวิจัยเริ่มจากการคัดเลือกพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการป้องกันโรคตับ และนำสารสกัดหยาบที่ได้จากพืชแต่ละชนิดไปทดสอบฤทธิ์ในการป้องกันการทำลายเซลล์ตับที่เกิดจากสารเคมี กระตุ้นการสร้างเซลล์ตับใหม่ขึ้นทดแทนเซลล์ที่ถูกทำลายและการเพิ่มการหลั่งของน้ำดี  ผลจากการคัดเลือกปรากฏว่า พืชสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ พริกไทย ผักบุ้ง และขมิ้นชัน ให้ผลในการป้องกันโรคตับได้ดี  จากนั้นจึงนำสารสกัดจากพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดที่มีฤทธิ์เสริมกัน  มาผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ดดังกล่าว  พร้อมกับทดสอบฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของตับจากสารเคมี กระตุ้นการสร้างเซลล์ตับ และเพิ่มการหลั่งน้ำดีของผลิตภัณฑ์

นอกจากนี้ วว. ยังได้ทำการทดสอบความปลอดภัยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพบว่า ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดมีความปลอดภัยสูง (ค่า LD50 มากกว่า 5,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม)  นับว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่องค์การอาหารและยากำหนด

วิธีการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal-D  และ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal ให้รับประทานวันละครั้งเช้า-เย็น ติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีการหลั่งน้ำดีผิดปกติ หรือมีอาการท้องอืดเวลารับประทานอาหารไขมันสูง

อนึ่งผลิตภัณฑ์ฯ นี้ เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ  ยังไม่มีจำหน่ายในท้องตลาด ขณะนี้ วว. อยู่ในระหว่างรอบริษัทเอกชนมารับการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ต่อไป

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ วว. เทคโนธานี คลอง 5  จ.ปทุมธานี โทร. 0 2 577 9106 ในวันและเวลาราชการ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทย…..ป้องกันโรคตับ
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่นิยมเลือกรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณสมบัติทางชีวภาพที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ออกฤทธิ์ป้องกันโรคตับ ที่กำลังเป็นที่นิยมของต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

"โรคตับ" ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการได้รับสารเคมี ได้แก่ ยาแก้ปวดที่มีพิษต่อตับ สารเคมีที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม และเป็นพิษต่อตับ และอื่นๆ หรือเกิดจากการสะสมของแอลกอฮอล์จำนวนมาก การติดเชื้อ รวมทั้งความผิดปกติของภูมิต้านทาน อย่างไรก็ตามจากการประเมินในผู้ป่วยโรคตับพบว่า ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยมักจะมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ที่มีผลก่อให้เกิดโรคตับอักเสบเรื้อรัง โรคตับแข็ง และมะเร็งในตับ ผลจากการสำรวจประชากรในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบโรคตับอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส B C และ E มีจำนวนมากกว่า 16 ล้านคน ปัจจุบันมีการพบโรคตับอักเสบเพิ่มขึ้นในคนไข้โรคเอดส์ และโรคตับอักเสบจากไวรัส D ในเด็กเพิ่มมากขึ้น

ยาที่ใช้ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับตับ ยังคงมีการพัฒนายาชนิดใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง หลากหลายชนิด แต่ยังมีราคาแพงและก่อให้เกิดผลข้างเคียงสูง ตัวอย่างเช่น interferon-alpha-2a เป็นต้น แม้ว่าปัจจุบันการใช้ยาสมุนไพรจะได้รับความนิยมหรือมีการวิจัยและพัฒนามากขึ้น แต่ยังไม่มีการผลิตยาที่ใช้ในการรักษาหรือป้องกันโรคตับจากสมุนไพรที่ออกฤทธิ์ได้ตามที่ต้องการ ทั้งที่พืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการรักษาโรคตับตามข้อมูลสาธาณสุขมูลฐานระบุไว้มีหลายชนิด เช่น กระเทียม ว่านหางจระเข้ ฟ้าทะลายโจร กฤษณา กระดังงาไทย ฟักทอง ขมิ้นชัน ดีปลี พริกไทย ลูกใต้ใบ มะขามป้อม และอื่นๆ

แต่ปัญหาหลักของการวิจัยและพัฒนายาจากสมุนไพรไทย จำเป็นต้องอาศัยขั้นตอนที่มากและต้องใช้ระยะเวลานานในการศึกษา กว่าจะได้สารบริสุทธิ์ที่ออกฤทธิ์  ซึ่งในประเทศอินเดียได้มีการแก้ปัญหาด้วยการลดขั้นตอนความยุ่งยากต่างๆ โดยนำพืชสมุนไพรที่ออกฤทธิ์เหมือนกันแต่มีประสิทธิภาพต่ำ ในสารเดี่ยวๆ มารวมกันและพัฒนาเป็นสูตรตำรับ เพื่อเป็นส่วนประกอบในอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลจากการศึกษาด้วยวิธีการดังกล่าวทำให้ประเทศอินเดียประสบความสำเร็จในการจดสิทธิบัตรสูตรตำรับได้มากกว่า 33 สูตร

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) โดยฝ่ายเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ  ได้ดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากพืชสมุนไพรไทยออกฤทธิ์ป้องกันโรคตับ ซึ่ง วว. นำหลักการเดียวกับการวิจัยของประเทศอินเดียมาประยุกต์ใช้ โดยคัดเลือกสมุนไพรไทยที่สามารถออกฤทธิ์ป้องกันการทำลายของเซลล์ตับหรือบำรุงรักษาตับมาพัฒนาเป็นอาหารเสริมที่มีประสิทธิผลและความปลอดภัยสูง

วว. ได้ทำการคัดเลือกพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการป้องกันโรคตับ และนำสารสกัดหยาบที่ได้จากพืชแต่ละชนิดไปทดสอบฤทธิ์ในการป้องกันการทำลายเซลล์ตับที่เกิดจากสารเคมี  การสร้างเซลล์ตับใหม่ขึ้นทดแทนเซลล์ที่ถูกทำลายและการเพิ่มการหลั่งของน้ำดี ผลจากการคัดเลือกปรากฎว่า พืชสมุนไพร 3 ชนิด ได้แก่ พริกไทย ผักบุ้ง และขมิ้นชัน ให้ผลในการป้องกันโรคตับได้ดี โดยได้นำสารสกัดจากพืชสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดที่มีฤทธิ์เสริมกัน    มาผสมในอัตราส่วนที่เหมาะสม และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดเม็ด  พร้อมกับทดสอบฤทธิ์ในการป้องกันการถูกทำลายของตับจากสารเคมี กระตุ้นการสร้างเซลล์ตับ และเพิ่มการหลั่งน้ำดีของผลิตภัณฑ์

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากสมุนไพรไทยออกฤทธิ์ในการป้องกันโรคตับของ วว. มี 2 ชนิด ได้แก่

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal-D  เป็นสารสกัดหยาบของสมุนไพรออกฤทธิ์ที่บำรุงและป้องกันพิษจากสารเคมี หรือเชื้อไวรัส เช่น ผู้ป่วยโรคตับอักเสบ   ดีซ่าน

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal เป็นสารสกัดหยาบของสมุนไพรออกฤทธิ์ในการบำรุงและป้องกัน การทำลายเซลล์ตับจากแอลกอฮอล์

ผลการทดสอบความปลอดภัยเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งสองชนิด พบว่ามีความปลอดภัยสูง (LD50 มากกว่า 5,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม)

สำหรับการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าว ให้รับประทานวันละครั้งเช้า-เย็น ติดต่อกับเป็นเวลา 1 เดือน โดยเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการท้องอืด เวลาที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูง หรือผู้ที่มีการหลั่งน้ำดีผิดปกติ

สำหรับแผนการดำเนินงานของโครงการในอนาคต วว. จะได้ดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน เพื่อทำการผลิตในเชิงพาณิชย์ พร้อมจะทำศึกษาผลจากการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดังกล่าวร่วมกับยาในผู้ป่วยต่อไป

ที่มา :  http://www.thailiverfoundation.org/th/cms/detail.php?id=36
 

[เล่งฮู้ชง(令狐冲)]

ว่าแต่จะหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Livetal ได้ที่ไหนละครับ

[MmG]

คารวะท่าน เล่งฮู้ชง(令狐冲) ผมน้องใหม่ มีนามว่า เม้ง นะครับ
   สำหรับการดูแลสุขภาพเราๆ ท่านก็รู้กันดีอยู่แล้วว่า ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย
เมื่อรู้อยู่แล้วแต่ก็ยังทำกันไม่ได้, ขี้เกียจทำ หรือไม่มีเวลา แต่ถ้าเราอยากดื่มเหล้าไปได้อีกนานๆ คงต้องพยายามมาดูแลตัวเองให้มากกว่านี้นะครับ ผมจะแนะนำคร่าวๆ ละกันครับ ท่านที่รู้อยู่แล้วก็เตือนความจำขึ้นไป ส่วนท่านที่ยังไม่รู้ก็นำไปลองปฏิบัติดูครับ

 
  1. อาหาร เห็นตามโฆษณาเขาบอกว่า เราควรกินผักผลไม้วันละ 5 ถ้วย แต่ผมก็ไม่ทราบหรอกว่าปริมาณมันเท่าไหร่ เอาเป็นว่าพยายามทานผักผลไม้ให้ได้ทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดีดี และถ้าคิดว่าตัวเองได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็ควรหาอาหารเสริมมาบำรุง แต่ควรจะเป็นยี่ห้อที่ดีๆ หน่อยนะครับ สำหรับผมก็ a...เวย์ๆ อะไรสักอย่าง ที่มันเป็นกล่องเขียวๆ ราคาเท่ากับ Laphroaig quater cask 
   วิธีตรวจสอบว่าตัวเองขาดสารอาหารแบบง่ายๆ นะครับ คือ สำรวจดูหน้าตาของตนเองว่านอนพักผ่อน 7-8 ชม.ไปแล้วยังโทรมไหม ถ้าโทรมก็ลองดูตามๆ นิ้วมือตรงโคนเล็บของท่านว่ามีหนังลอกหรือเปล่า และก็ดูที่ผิวพรรณและมือว่าแดงเลือดสูบฉีดดีหรือเปล่า แต่ไอ้ที่ไปลองน้อง SM พอกึ่มแล้วมาบอกว่า เนี่ยสุขภาพดีสุดๆ หน้าแดง มือแดง อันนี้ไม่ผ่าน.....
อ้อ และที่สำคัญ อาหารเช้านี่เป็นสิ่งสำคัญมาก พยายามทานไข่, ธัญพืช ให้ได้ในตอนเช้า (+ วิตามินเสริมเข้าไปก็ได้ ร่างกายจะรับได้ดีที่สุดในตอนเช้าครับ) เพราะจะให้แร่ธาตุที่จำเป็นทำให้ร่างกายของเราพร้อมที่จะเริ่มวันใหม่ และถ้าจะดื่มกาแฟ ควรดื่มหลังจากทานข้าวประมาณ 30 นาที คาเฟอีนจะได้ไม่ไปขัดขวางการดูดซึมของมีประโยชน์ที่เราทานเข้าไปนะครับ

เมื่อยมือแล้ว.....ไว้ต่อคราวหน้าครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
   

[otrue]

ช่วงนี้รู้สึกว่าร่างกายเสื่อมโทรมอ่อนล้ายังไงก็ไม่รู้ครับ

[MmG]

เรื่องอ่อนล้านี่เป็นได้ทั้งกายและใจนะพี่ ถ้ากินดี นอนพักผ่อน ออกกำลังกายพอ แต่ยังรู้สึกอ่อนล้า นั่นก็คงเป็นด้านจิตใจแล้วหละครับ ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะครับพี่ๆ ทุกคน

[otrue]

ขอบคุณครับสงสัยช่วงนี้จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย

[เก่ง หล่ายดอย]

พอดีไปเดินเล่นที่โลตัส เจอข้อมูลดีๆ ก็เลยคิดว่าเก็บมาฝากกันครับ

ดื่มมาตราฐาน มีค่าเท่ากับเครื่องดื่ม Lกฮ ที่มี Lกฮ ประมาณ 10 กรัม ที่ผู้ดื่มสามารถขับ Lกฮ ออกจากร่างกายได้หมดภายใน 1 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง

1 ดื่มมาตราฐาน สำหรับเครื่องดื่ม Lกฮ แต่ละชนิดจะมีปริมาณเท่ากับที่แสดงไว้ในรูปประกอบด้านล่างนะครับ

คร่าวๆ ก็ประมาณนี้ครับ เท่ากับ
แชมเปญ 10 cl. ดีกรี 12%
บรั่นดี 3 cl ดีกรี 40%
ไวน์ 10 cl ดีกรี 12%
วิสกี้ 3 cl ดีกรี 40%
เบียร์ 25 cl ดีกรี 5%
ค็อกเทล 3 cl. ดีกรี 40%

เรื่องสำคัญที่นักดื่มทุกคนควรท่องจำให้ขึ้นใจ ก็คือ ปริมาณดื่มมาตราฐานที่จะทำให้คุณดื่มอย่างรับผิดชอบ
ซึ่งในหลายประเทศ รวมถึงฝรั่งเศส และ สหราชอาณาจักร ได้กำหนดปริมาณต่อวันไว้ดังนี้

2 ดื่มมาตราฐานต่อวัน สำหรับ ผู้หญิง
3 ดื่มมาตราฐานต่อวัน สำหรับ ผู้ชาย
0 ดื่มมาตราฐานต่อวัน สำหรับ สตรีมีครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ที่มีอายุต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ผู้ที่อยู่ระหว่างการขับขี่ยานพาหนะ ผู้ที่อยู่ในระหว่างการควบคุมเครื่องจักร และระหว่างการบำบัดด้วยยา ฯลฯ

[choke]

ผมเคยเป็นเเหมือนคุณตือครับ  มันเหนื่อยๆล้าๆอย่างบอกไม่ถูก เป็นมาหลายอาทิตย์ พอได้ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆแบบหลุดโลกพอว่าอาการดังกล่าวหายไปสงสัยคงจะมาจากความเครียด(ช่วงที่ผมเป็นอาการดังกล่าวนั้นผมไม่ได้ดื่มเลย)

[otrue]

สรุปว่าผมสามารถดื่มได้วันละ 3 ดื่มมาตราฐาน คือวิสกี้วันละ 9 cl = 90ml

วิสกี้ขวดลิตร ก็ควรจะต้องดื่มให้หมดภายใน 11.11 วัน??

[เก่ง หล่ายดอย]

ของคุณตือกรณีขวดลิตร ถ้าเป็น 700-750 ml ก็จะได้ประมาณ 7-8 วันพอดี
เท่ากับเดือนละประมาณ 3 ขวดกว่าๆ ปีหนึ่งก็ประมาณเกือบ 40 ขวด 

[choke]

ปีละ40ขวดนี่ไม่น้อยเลยนะครับ

[paiboon_chant]

สำหรับผมจดื่มตอนเย็นหลังอาหารประมาณ 30 นาที วันละประมาณ 5 จิบคงจะประมาณ 1 ก๊งได้ครับถ้าดื่มปนพวกกับแกล้มจะรู้สึกขมปากขาดรสชาดไปเยอะเลย

[otrue]

ปีละ 40ขวด...ผมว่าปีละ20ขวดก็เยอะแล้วนะครับ

[choke]

ถ้าปีละ40ขวดติดต่อกันซักปีนี่สงสัยตับไปก่อนแน่ๆครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

สำหรับผมจะดื่มตอนเย็นหลังอาหารประมาณ 30 นาที วันละประมาณ 5 จิบคงจะประมาณ 1 ก๊งได้ครับ
ถ้าดื่มปนพวกกับแกล้มจะรู้สึกขมปากขาดรสชาดไปเยอะเลย

วิธีเดียวกับที่ผมใช้เลยครับ คุณ paiboon ลองหาพวกชีส หรือพวก shortbread มาลองกินคู่กับ SM สิครับ ผมว่ามันเข้ากันได้ดีเชียวครับ

[choke]

ลองแกล้มกับผลapricotแห้งดูก็ไม่เลวนะครับ