ตามรอยเหล้าชาวบ้านในรั้วบ้านผม The Macallan

[เก่ง หล่ายดอย]

ยอมตัดใจควักตังค์ซื้อเจ้านี่มากะไว้ว่าจะส่งท้ายปีเก่าวันนี้ทนความเย้ายวนไม่ไหวเลยเอามาลองซ่ะงั้น
ด้วยความรีบร้อนอยากลองประกอบกับขี้เกียจถ่ายรูปขออาศัยรูปเก่ามาหากินไปก่อนก็แล้วกันครับ 

[เก่ง หล่ายดอย]

คงต้องบอกว่าคุ้มค่าสมค่าตัวครับงานนี้ ทั้งกลิ่น รสชาติ และ after taste นั้นยอดเยี่ยมครับ
ทิ้งความหอมหวานอวลไว้ในปากจริงๆ ครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

อยากพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไรคงต้องหามาลิ้มลองกันเอาเองครับ 
ขอลาไปพิสูจน์ต่อล่ะคร๊าบพี่น้อง 

[เก่ง หล่ายดอย]

กำลังนั่งหาข้อสรุปกับเจ้าตัวนี้อยู่ครับ



บังเอิญว่าตอนที่ซื้อไม่ได้ดูให้รอบคอบครับ
ฟลอยที่หุ้มขวดมันปิดไว้ไม่สนิทเลยต้องตัดใจแกะมาลองก่อน
ทั้งที่เปิดตัว 10 ปีแบ่งให้เจ้านายใหญ่ไปก่อนแล้วแท้ๆ 

วันก่อนก็มีโอกาสได้ลอง GODIVA  White chocolate ไปแล้วเหมือนกันครับ
ไม่ไหวสำหรับผมครับ หวานเกินไปหน่อยครับ + กินไปสองแก้วยังม่ายมาวเลยครับ
ต้องหา SM มาล้างปากต่อครับ  ยังไงเดี๋ยวจะมารีวิวแบบบ้านๆ ให้ได้อ่านกันอีกสักรอบครับ 

[เก่ง หล่ายดอย]

ด้วยความที่ตอนซื้อไม่ได้ดูให้รอบคอบทำให้ต้องเร่งเอาเจ้าตัวนี้ออกมาลองก่อนครับ
The Macallan Elegancia 12 Years Old
ว่ากันด้วยรีวิวแบบบ้านๆ กับลิ้นบ้านๆ เช่นเคยครับ
เริ่มกันที่สีนั้นออกแนวทองอำพันใสๆ งดงามตาดีครับ
ต่อกันที่เรื่องกลิ่นเมื่อรินออกมาครั้งแรกนั้นกลิ่นของ alc ค่อนข้างแรงทีเดียวครับ
แต่เมื่อทิ่งให้สัมผัสกับอากาศสักพักจะได้กลิ่นหอมของโอ๊ก เจือด้วยกลิ่นของวนิลาและกลิ่นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ผสานกันอย่างลงตัวดีครับ
ด้านขาของเหล้านั้นค่อนข้างหนาและหนัก จัดได้ว่าเป็นเหล้าที่บ่มอย่างได้ที่ทีเดียวครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

มาว่ากันที่รสชาติบ้างครับ เมื่อได้สัมผัสครั้งแรกผมว่ามันค่อนข้างแรงทีเดียวครับ แต่เมื่อลองอีกรอบนั้น จากลิ้นบ้านๆ ของผม
ผมว่าเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัวและหน้าประทับใจกว่า ตัว Sherry Wood 12 ปีที่ขายอยู่ในบ้านเราครับ
เป็นรสสัมผัสที่ลงตัวระหว่างความเผ็ดนิดๆ ของเครื่องเทศ เจือด้วยความหวานอมเปรี้ยวหน่อยๆ และกลิ่นควันของโอ๊กอ่อนๆ

[เก่ง หล่ายดอย]

After taste นั้นผมว่าน่าประทับใจทีเดียวครับ กับรสชาติที่ผสานกันอย่างลงตัว ทิ้งความหวานหอม เจือรสเผ็ดนิดๆ ไว้ที่ปลายลิ้น
พร้อมทั้งความหอมกลิ่นโอ๊กอ่อนๆ ไว้ในปากอย่างชวนให้ถวิลหา

ผมว่า The Macallan Elegancia 12 Years Old ขวดนี้เหมาะสำหรับนั่งยาวๆ จิบเล่นๆ กับเพื่อนฝูงรู้ใจในวันว่าง
หรือเพื่อผ่อนคลายหลังอาหารได้เป็นอย่างดีครับ

[otrue]

ถ้าเทียบกับ Original แล้วเป็นยังไงบ้างครับ จะได้ชั่งใจว่าจะเปิดดีไหม

[เก่ง หล่ายดอย]

ถ้าเทียบกับ Original แล้วเป็นยังไงบ้างครับ จะได้ชั่งใจว่าจะเปิดดีไหม

Original ตัวไหนครับคุณตือ
ถ้าเป็น The Macallan Sherry wood 12 ปีที่ขายในบ้านเราแล้ว ผมว่าตัวนี้เนียนกว่าครับ
ค่อนข้างประทับใจสำหรับผมนะครับตัวนี้ ลื่นคอดีครับ after taste ก็ค่อนข้างดีกว่าครับ
แต่ถ้าเป็น Macallan fine oak 10 ปียังไม่ได้ลองครับเปิดขวดนั่งมองสีแล้วขาดแต่ลองครับ

[otrue]

ถ้าเทียบกับ Original แล้วเป็นยังไงบ้างครับ จะได้ชั่งใจว่าจะเปิดดีไหม

Original ตัวไหนครับคุณตือ
ถ้าเป็น The Macallan Sherry wood 12 ปีที่ขายในบ้านเราแล้ว ผมว่าตัวนี้เนียนกว่าครับ
ค่อนข้างประทับใจสำหรับผมนะครับตัวนี้ ลื่นคอดีครับ after taste ก็ค่อนข้างดีกว่าครับ
แต่ถ้าเป็น Macallan fine oak 10 ปียังไม่ได้ลองครับเปิดขวดนั่งมองสีแล้วขาดแต่ลองครับ

ตัว Glenmorangie ครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

  ซ่ะงั้น ถ้าเทียบกับ Original ของ Glenmorangie แล้ว ผมว่าตัวนี้ค่อนข้างแรงกว่าครับ
ส่วนของรสชาตินั้นเข้มกว่าครับ original จะออกแนวนุ่มๆ ครับ
ในเรื่อง after taste นั้นจะยาวสู้ตระกูล glenmorangie ไม่ได้ครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

ถึงคิวเจ้าตัวนี้สักทีครับ หลังจากข้ามไปลอง The Macallan Elegancia 12 ปี ไปก่อนครับ
สำหรับ The Macallan Fine Oak 10 Years ตัวนี้ต้องบอกว่าน่าประทับใจสำหรับลิ้นบ้านๆ แบบผมครับ
ทำได้ดีกว่าที่คาดไว้เยอะทีเดียวครับ
เริ่มที่สีก่อนครับ สีออกแนวทองสดใส ไม่เข้มเหมือนสองตัวพี่(Sherry Oak กับ Elegancia) ครับ
ด้านขานั้นค่อนข้างเล็ก แต่ก็ไม่เบาครับคงเป็นที่อายุในการบ่มเพียงแค่ 10ปี
ด้านของกลิ่นนั้นเจ้า The Macallan Fine Oak 10 Years ขวดนี้ทำได้ดีเชียวครับ
ความที่เหล้านั้นผ่านการบ่มจากถังไม้โอ๊กถึงสามชนิด ทำให้กลิ่นค่อนข้างเด่นทีเดียวครับ
จากข้อมูลบนกล่องนั้น เรียกตัวเองว่า Triple Cask Matured in a Unique ครับ
ถังที่ใช้ได้แก่ ถังแรก European Oak Casks Seasoned with Sherry
ถังที่สอง American Oak Casks Seasoned with Sherry
และถังสุดท้าย American Oak Caks Seasoned with Borbon ครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

แต่จากจมูกบ้านๆ ของผมนั้นพบว่ากลิ่นของไม้โอ๊ก+กลิ่นอเมริกันวิสกี้(Bourbon) ค่อนข้างเด่นชัดครับ
หลังๆ มานี่ชักหลงรักกลิ่นของเหล้าอเมริกันวิสกี้ทำให้รู้สึกได้ว่าเจ้าตัวนี้น่าจะมีดีกว่าที่คิดเอาไว้เสียแล้วครับ 

รสชาติ จากลิ้นบ้านๆ ของผมนั้นลงตัวดีครับทั้งที่เป็นเหล้าที่ผ่านการบ่มเพียงแค่ 10 ปี แต่ก็ทำได้ดีเกินตัวครับ
กลิ่น+รสเครื่องเทศที่ถือได้ว่าเป็นกลิ่นหลักของเหล้าตระกูลนี้ลงตัว และไม่เผ็ดร้อนเหมือนตัว Sherry Oak 12 ปี
ตามด้วยความหวานติดปลายลิ้นของคาราเมล พร้อมทั้งกลิ่นถังโอ๊กจางๆ หลังจากไหลผ่านลำคอ
ทิ้งความลื่นและนุ่มละมุ่นเอาไว้ คล้ายกับตัว Original Glenmorangie ที่คุณตือโปรดปรานครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

ด้าน After Taste นั้นสำหรับผมแล้วจัดได้ว่าน่าประทับใจกว่าตัว Macallan Sherry Oak 12 ปีครับ
อาจเป็นที่ผมชอบเหล้าที่มันนิ่มๆ เนียนๆ และทิ้งความหวานไว้บนปลายลิ้นมากกว่าก็ได้ครับ
ความหวานละมุ่นที่ทิ้งเอาไว้นั้นค่อนข้างยาวพอควร ทำให้อยากลิ้มลองแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ครับ

สรุป สำหรับ The Macallan Fine Oak 10 Years ขวดนี้จัดเป็นอีกตัวที่เหมาะสำหรับไว้นั่งจิบไปคุยไปกับเพื่อนๆ ได้อย่างสบายๆ ครับ

ความประทับใจกับเหล้าตระกูล Macallan สำหรับผมนั้นเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ
กับความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจนในแต่ละรุ่นเหมือน Glenmorangie ครับ 

ปล. ว่าแต่ว่าเจ้าตัว The Macallan Sherry Oak 25 Years ของพี่ชายคนดีของผม
ผมจะมีวาสนาได้ลิ้มลองกับเขาบ้างหรือปล่าวหว่า... ?
กับเหล้าแก้วละเจ็ดร้อยกว่าบาทเนี้ยะ (คำนวนจากราคาตลาดที่ขวดละ 15xxx.- เทได้ 20 แก้ว แก้วละ 35 ml.)

[Nat_Godzila]

เสียดายจัง...เลิกดื่มมานานล่ะ...ไม่งั้น ขอชิมสักหน่อย นะ..อิอิ

[เก่ง หล่ายดอย]

เสียดายจัง...เลิกดื่มมานานล่ะ...ไม่งั้น ขอชิมสักหน่อย นะ..อิอิ

แค่ชิมไม่เป็นไรหรอกม้าง..... ผมเองก็แค่อยากลองเหมือนกันครับ ไม่คิดดื่มเป็นอาชีพเหมือนกันครับ

[KITTI]

 

[otrue]

เล่นเอากลืนน้ำลายเอือกๆ เลยครับ

[เก่ง หล่ายดอย]

Macallan Fine Oak 10 ปีขวดนี้หามาติดบ้านไว้รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับคุณตือ
ผมเองถ้ามีโอกาสไปเดินเล่นท่าขี้เหล็กอีกสักรอบคงต้องหามาติดบ้านไว้สัก 2-3 ขวดครับ

[otrue]

วันแม่เจอกันครับ หึๆ เก็บตังค์ยาวๆเลย