ทำหนังสือรุ่นแล้วติดหนี้ ภาค 2
หนังสือรุ่น ก๋างโต้ง 2530 เสร็จเอาเมื่อประมาณปลายมีนา 2531
รุ่นเราส่วนหนึ่งที่เอนฯติด มช.ก็อยู่เชียงใหม่ บางส่วนก็เข้ากรุงเทพ บางส่วนก็ไปไหนไม่รู้ไม่ทราบชะตากรรม
หัวหน้าหนุ่มศิริพงษ์ 302/604 เลือกที่จะออกจากป่ามาเป็นทหาร(เขาเรียก กบฏ) เข้าเรียน นักเรียนนายเรืออากาศ อยู่ กทม.
ประธานรุ่น วินสัน 302/606 เข้ากรุงเป็นลูกพ่อขุนรามฯ อยู่ กทม. ไม่เคยเห็นหน้าอีกเลยจนบัดนี้
รองประธานหญิงสองคนถ้าจำไม่ผิดคือ ปุ๋ม ทรงศิริ 602 เหมียว สรัญยา 605 อยู่ มช.
หนังสือรุ่นถูกแจกจ่ายแบบตัวใครตัวมัน ใครอยู่เชียงใหม่ก็ได้รับง่ายหน่อยฝากๆกันไปแจก
ใครอยู่ไกลหรือที่หายสาบสูญไม่รู้ที่อยู่จนปัจจุบันนี้ ที่ยังไม่ได้หนังสือรุ่นก็ยังมี
เพราะไม่มีนโยบายส่งหนังสือรุ่นถึงบ้าน ก็งบมันหมดไปแล้วมีหนี้ค้างโรงพิมพ์อีกจำนวนเท่าไหร่ไม่รู้
ไม่เคยมีใครเล่าให้ผมทราบเลย เพราะผมไม่ใช่ฝ่ายงบประมาณ
ศิริพงษ์ ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง และคงจะไม่มีโอกาสได้เล่า เพราะต้องเข้าประจำการโรงเรียนทหารซะแล้ว
ผมก็ไม่ได้ไปไหนไกลรอวันที่จะทราบชะตากรรมของรุ่นเราอยู่ที่ ม.พายัพ
แล้ววันหนึ่งของ ปลายปี 2531 ก็ได้ต้อนรับการมาเยือนของเพื่อนจาก 602 ณรงค์ ต้นพิริยะพงษ์ ปุ๋ม ทรงศิริ
เอ้ นุชนภางค์ ทั้งหมดเรียนอยู่ มช. ไปพบที่บ้าน( เนื่องจากสมัยนั้นที่บ้านยังไม่มีโทรศัพท์เลย บางครั้งติดต่อกับเพื่อนใน มช.ยังเล่นเขียนจดหมายหากันเอา คิดดูสิ ) แจ้งความประสงค์ว่าต้องการช่วยเพื่อนเราคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบกรณีมีหนี้สินค้างชำระ ถามไปว่าใคร เขาบอกว่า ศิริพงษ์ 604 อ้าว มันเป็นหนี้ใครค่าอะไรทำไมต้องช่วยมันด้วย แล้วทุกอย่างก็กระจ่างแจ้งจากปากของเหล่าเพื่อนๆชุดนี้ ว่า หัวหน้าหนุ่ม เป็นผู้ลงนามรับหนังสือรุ่นมาและจ่ายเงินไปบางส่วนแล้วแต่ยังคงค้างค่าใช้จ่ายอยู่อีกประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งเงินของรุ่นเรามันหมดไปแล้วเพราะรายได้จากการจัดคอนเสิร์ท บิลลี่ นั้นมันไม่พอต่อค่าใช้จ่าย จึงอยากจะหารายได้มาช่วยชำระหนี้ให้แก่ศิริพงษ์ ซึ่งยอมเอาหน้าไปรับหนี้ แต่ตัวติด(คุก)ทหารนักเรียนนายเรืออากาศ ไม่สามารถออกมาดำเนินการหารายได้เพื่อใช้หนี้ได้ รองประธานหญิง ปุ๋ม ทรงศิริ จึงต้องรับภาระแทนด้วยการระดมเพื่อน 602 ที่อยากจะอาสาช่วยมาชุมนุมกัน โดยตกลงที่จะจัดฉายหนังสักเรื่องหนึ่ง (สูงสุดคืนสู่สามัญ) สุดท้ายก็ไม่พ้นที่จะต้องมาจัดฉายหนังเพื่อปิดบัญชีหนี้ตัวนี้ให้ได้ สมัยนั้นเงินหมื่นสำหรับนักศึกษามหาลัยปี 1 ก็ไม่ยากแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ จึงต้องหาที่ปรึกษาเพื่อความชัวร์จะได้ไม่พลาดอีกเหมือนครั้ง ไอ้บิลลี่ ( ตอนนี้เวรกรรมก็ตามสนองแล้ว เลิกกะเมียไปแล้วฮ่า ฮ่า)
จำได้ว่านัดชุมนุมกันหน้าหอสมุด มช. ประสานขอความช่วยเหลือจากรุ่นพี่ มว. รุ่น 28 คนหนึ่งซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อน 605 (ต้องขออภัยที่จำชื่อไม่ได้แต่ทราบว่าเป็นผู้หญิง 605) ซึ่งรุ่นพี่ 28 นี้เขาก็เคยจัดฉายหนัง รู้สึกจะเป็นเรื่อง The Thing ฉายที่แสงตะวัน(หนังสนุกมาก) ประสบความสำเร็จมาแล้ว ก็ได้อาศัยถามพี่เขาว่าจัดอย่างไร เช่าโรงหนังอย่างไร หาหนังจากที่ไหนมาฉาย เลือกหนังอย่างไร ทำบัตร ขายบัตรอย่างไร พี่เขาก็ให้คำปรึกษาที่ดีมาก
จนมั่นใจว่าไม่น่าจะยากจึงเริ่มดำเนินการ
โดยไปติดต่อเช่าหนังและโรงฉายที่ห้องผู้จัดการโรงหนังแสงตะวัน สมัยนั้นเชียงใหม่มีโรงหนังที่ใช้การได้อยู่ในลักษณะโรงขนาดใหญ่ไม่ใช่โรงแบบมัลติเพล็กซ์แบบปัจจุบัน มีแสงตะวัน ฟ้าธานี มหานคร นครเชียงใหม่ ทิพยเนตร ศรีวิศาล ทั้งหมดเป็นของ กำนันนั้มนครปฐมผู้เข้ามากว้านซื้อกิจการโรงหนังในเชียงใหม่ (ที่รู้ก็เพราะเคยทำวิจัยตลาดเรื่องโรงหนังในเชียงใหม่สมัยเรียนอยู่พายัพ)
ก็ไปคุยกะผู้จัดการ พร้อมกับ ณรงค์ ต้น 602 และให้เราเป็นคนตัดสินใจเลือกหนังที่จะฉาย ตอนนั้นจำได้ว่าเลือกเรื่อง Roxanne เป็นหนังแนวโรแมนติกคอมมิดี้ นำแสดงโดยสตีฟ มาร์ติน รับบทเป็นพนักงานดับเพลิงจมูกยาว
ไม่น่าจะใช่เรื่อง กูนี่(กูเป็นหนี้) อย่างที่กานต์บอกนะ และหนังก็จัดฉายที่โรงหนังฟ้าธานี 28 กค.32
เสร็จจากฉายหนังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็เหลือเงินพอที่จะชำระหนี้ได้พอดี ศิริพงษ์ 302/604อยู่กรุงเทพคงไม่รู้หรอกกว่ากรูช่วยปลดหนี้ให้มึงแล้วเพื่อน เครดิตต้องยกให้ ณรงค์ ต้น 602 ที่เป็น
านคอยประสานงานทั้งหมด
ปุ๋ม ทรงศิริ 602 ไม่แน่ใจว่าคุมบัญชีรึเปล่า เอ้ นุชนภางค์ จอน ธนานันท์ 602 ป๋วย ทศพล 602 ส่วนใหญ่จะเป็น 602 เพราะอยู่หอด้วยกันใน มช. ก็ดึงกันไปช่วยงานง่ายหน่อย เราอยู่พายัพ ต้องข้ามฟากไปช่วยเหมือนกัน ช่วยดูเรื่องหนัง ทำบัตร สมัยก่อนใช้มือจับภู่กันระบายสี ทำอาร์ตเวิร์คส่งโรงพิมพ์ ยังไม่มีคอมฯเหมือนสมัยนี้หรอก ลำบาก แต่ก็สนุกได้ช่วยกัน(จริงก็เหมือนมีเวรกรรมต้องทำให้มันตลอด)
หลังจากประสบความสำเร็จจากหนังเรื่องนั้นมา ณรงค์ ต้น 602 ก็ติดลมบน ได้เข้ามำกิจกรรมต่างๆใน มช. จัดฉายหนังอีกหลายเรื่อง ทั้งในนามของคณะวิศวะ ทั้งของพรรคการเมืองใน มช. จนได้รับเลือกต้งให้เป็น นายก องค์การ นศ.มช. ในปีหลังๆ เราก็ได้ไปช่วยมันทำบัตรอีกเช่นเดิมดังรูปที่แปะมาให้ดู ดีนะยังเก็บไว้บ้างบางส่วน
อ้อ อีกเรื่องนึงที่ไอ้ต้น ณรงค์มันได้แถมมา คือเมีย หลังจากเรียนจบและทำงานอีกปีสองปี มันก็แต่งงานกับ ปุ๋ม ทรงศิริ น่าจะเป็นเพราะหนังเรื่อง Roxanne รึเปล่าก็ไม่รู้วะ
จบ
ข้อมูลเรื่องราวผิดพลาดพลั้งไปก็อภัยให้ตูด้วย เรื่องมันนานมา กว่า 17 ปีแล้วเพื่อนเอย อาจจะตกๆหล่นๆบ้างอย่าว่ากันเน้อ