พฤษภาคม 18, 2024, 02:56:35 AM

ยินดีต้อนรับเพื่อนๆ ทุกคนครับ กรุณาลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่อโพส ดูไฟล์แนบ และเข้าสู่บอร์ดอื่นๆ
กรุณาอย่าสมัครสมาชิกเพื่อโฆษณาเวปไซด์ หรือสินค้าใดๆ รวมถึงการเสนอขายสินค้าทุกชนิด
หากพบเห็น ทางทีมงานจะทำการตักเตือนก่อนในครั้งแรก
แต่หากยังฝ่าฝืนกระทำการดังกล่าวอีกทีมงานจะดำเนินการลบสมาชิกของท่านทันทีตามข้อตกลงในการสมัครสมาชิกครับ


หลังจากลงทะเบียนเพื่อสมัครสมาชิกใหม่แล้วโปรดตัวสอบ e-mail ของคุณ หรือทดลอง log in ได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ
*** บางครั้ง e-mail อนุมัติอาจอยู่ใน จดหมายขยะ หรือ Spam ขอบคุณครับ

ผู้เขียน หัวข้อ: เหล้าชาวบ้านในรั้วบ้านผม  (อ่าน 1043384 ครั้ง)

ออฟไลน์ KITTI

  • มักเหล้าคลับ
  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 468
  • ถูกใจ: +1/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #160 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 01:06:24 PM »
ปุ๊ยใจคอมรึงจะยกอย่างเดียวไปพูดไรมั่งเหรอ
มามะแวะมาบ้านตรูดีกว่า คราวหน้าที่หลบ เอ้ย หนี เออ... ไม่ใช่้ไม่ไช่้
มาประชุมหรือมาสัมมนาที่เชียงใหม่ ก็แวะมาดิ  :smile7:
  :try:

ออฟไลน์ akadiki

  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ****
  • กระทู้: 330
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #161 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 02:03:52 PM »
 -30 -25 024

ออฟไลน์ Montri babu

  • มัธยมปลาย MC 27/30
  • *****
  • กระทู้: 681
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #162 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 03:26:00 PM »
ดูรูปร่างแล้วน่าลองมาก
เจ้า Miyabi เนี่ย

อ้าว ไม่ใช่เหรอ
เออเออ Hibiki ก็ได้
อ้ายเก่งคร้าบบ
ได้โปรดเถิดดดด...
miyabi ที่ส่งไปดูหมดแล้วเหรอครับ
ส่วน Hibiki นี่ถ้าจะลองด้วยค่าตัวขนาดนี้หารกันดีกว่ามั๊ย...  :smile6:
จะหารกันชิม miyabi กา...รอฮาตวยเน้อ :cry5:

ออฟไลน์ charnwitp

  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,140
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #163 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 04:16:00 PM »
อ้ายสิว จะหาร ต้องหาร สองส่วน เน้อ อิอิ :smile10:
คนเราจะต่อสู้กับความรู้สึก ได้ ด้วยความรู้สึกเท่านั้น

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #164 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 05:27:25 PM »
อ้ายสิวครับ ถ้า miyabi นี่คงบ่ไหวก้าครับ สีท่าจะแปงเหลือใจ๋เลยครับ
อาจต้องนัดล่วงหน้า กว่าน้องเปิ้นจะเดินทางมาจาก Japan อีก
อีกอย่างถ้าน้อง miyabi มาไทยแต้ๆ มีหวังครับ สุวรรณภูมิแตกแน่ๆ ครับอ้าย


ถ้าเป็น hibiki นี่อ้ายสิวแวะหิ้วจาก Duty Free แล้วมาหารกั๋นดีกว่าครับ
ค่าตัวถูกกว่าเกือบครึ่งเลยครับอ้าย ข่าวว่าไม่เกิน 3000.- ครับอ้าย  023
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #165 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 08:56:58 PM »

ส่วนเจ้าตัวนี้ล่าสุดเห็นราคาหดลงมาที่ 1285.- ครับ  :งง:
ไม่แน่ใจว่าจะดูผิดหรือปล่าวน่ะ ทำไมราคามันลงหว่า
หลังจากนั่งทบทวนดูดีๆ เออ...ราคามัน 1285.- อยู่แล้วนี่หว่า ตรูดันจำราคาสับสนไปได้ซ่ะงั้น  :smile6:
เอาเป็นว่าคงมีรีวิวตัวนี้เร็วๆ นี้ครับ  -30

ส่วนเจ้า Glenmorangie นั่นก็เหมือนกันครับ ค่าตัวอยู่ที่ 1580.- นั่นแหละครับ ไปดูราคามาหลายที่เลยจำสับสนกันไปซ่ะงั้น  -08

ปล. เหล้าในริมปิงบางตัวถูกกว่าที่อื่นอยู่หลายตังค์เหมือนกันครับ แนะนำว่าให้เดินดูจดราคาแล้วค่อยจัดการจะดีกว่าครับ
อย่างตัว Suntory Yamazaki นี่ที่ริมปิงจะอยู่ที่ 2750.- ครับแต่เป็นขวดรุ่นใหม่กว่าตัวที่ Tops ที่เคาะราคาที่ 2700.- นะครับ

ส่วนวันเสาร์ที่ผ่านมาไปสะดุ้งจริงกับตัว Glenfiddich 18 ปีมากกว่าครับที่เคาะราคาเบาๆ ที่ 1750.- หนีจาก Duty Free แม่สายแค่ 100.- ซ่ะงั้น
ทั้งที่ตัว Glenfiddich 12 ปีที่ขายในร้านส่งย่านนิมมานฯ อยู่ที่ 1690.- ส่วนตัวเดียวกัน 18 ปีใน tops เห็นอยู่ที่ 3000+ ครับ
เพื่อนคนไหนสนใจเจ้าหุบแห่งกวางก็เข้าไปหากันเอาเองเน้อ บอกที่หาซื้อให้แล้วเต็มๆ ครับ  :laugh2:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2009, 09:03:33 PM โดย เก่ง หล่ายดอย »
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #166 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 09:01:34 PM »




รูปปรากอบของ Glenfiddish ครับ ตัวนี้เห็นว่าได้คะแนนเฉลี่ยกันที่ 80-85 จาก 100 ครับ
สนใจก็ไปหามาลองกันได้อีกตัวที่เป็น Single Malt Whisky ครับ
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ KITTI

  • มักเหล้าคลับ
  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ***
  • กระทู้: 468
  • ถูกใจ: +1/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #167 เมื่อ: มิถุนายน 22, 2009, 09:09:42 PM »
 -30

ออฟไลน์ akadiki

  • มัธยมต้น MC 27/30
  • ****
  • กระทู้: 330
  • ถูกใจ: +0/-0
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #168 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 06:22:57 AM »
 -30 :angry4: -02

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #169 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 01:07:10 PM »
ปรับแก้นิดหน่อยดูสิว่าเป็นอย่างไร  -30
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #170 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 01:10:05 PM »
 :V
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ jackthairath39

  • jackthairath39@ovi.com
  • Freshman MC 27/30
  • *
  • กระทู้: 1,870
  • ถูกใจ: +0/-0
    • บริรักษ์ นิลนาคะ (แจ๊ค) 304/27 602/30
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #171 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 02:38:12 PM »
ทำไงจะได้กินซักแก้ววะ เก่ง

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #172 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 02:44:56 PM »
แวะมาแล่ ตัวไหนฮามีเดี๋ยวจัดให้  -021
ที่แน่ๆ กลุ่มชมรมวันศุกร์เปิ้นกำลังจะจัดทดลองทุกตัวนี่หว่า
ลองปรึกษาเลขาฯ ชมรมดูก่า อ้ายเก๋น่ะ  :laugh2:
ตอนนี้กำลังทดลองทำ Rock อยู่ว่ะ ดูว่ามันจะ on the rock แต้ๆ แบบไหน  -021
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #173 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 04:49:08 PM »
คงจะขาดไปไม่ได้สำหรับเรื่องราวคราวนี้ ด้วยยอดสุราจากจีนที่เรามักได้ยินกันจากนิยายกำลังภายในที่ได้อ่านกัน
งานนี้ถ้าจะต้องหวังพึ่งเฮียหามาให้ได้ลองกันเสียแล้วครับ

ขอบคุณที่มาจากเวปนี้ครับ http://www.suramoutai.com/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%96.htm

ทำไมสุราเหมาไถถึงได้ชื่อว่า เป็นสุราประจำชาติจีน

 

 

           การที่สุราเหมาไถได้ชื่อว่าเป็นสุราประจำชาติจีนนั้น มีเหตุผลอยู่หลายประการ ซึ่งได้แก่ กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีประวัติอันยาวนาน เทคนิคและขบวนการหมักบ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัตถุดิบที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยม และวัฒนธรรมการผลิตที่ลึกซึ้ง รวมถึงในทางประวัติศาสตร์แล้ว สุราเหมาไถได้แสดงบทบาทอันทรงคุณค่าในด้านการเมือง การต่างประเทศ เศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของชนชาติจีน นอกจากนี้ ยังตัดสินจากที่เหล้าเหมาไถได้รับความนิยมชมชอบจากผู้นำจีนมาแล้ว 3 ยุค 3 สมัย จึงถือเป็นสุราที่ได้ผ่านการทดสอบอันยาวนานในตลาดสุราจีน และความชื่นชอบในสุราเหมาไถของชาวจีนนั้น เกิดจากการที่พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติของสุราเหมาไถในชีวิตประจำวันของพวกเขาเอง  ด้วยประการเหล่านี้ เหล้าเหมาไถจึงเป็นเหล้าที่คู่ควรแก่คุณค่าที่สุด  มีเอกสารทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า “เหล้าจวี๋เจี้ยง” เป็นบ่อเกิดแห่งเหล้า  และ “เหล้าจวี๋เจี้ยง” ที่ผลิตในอำเภอเหมาไถในปัจจุบัน เคยได้รับความนิยมชมชอบในรสชาติอันหอมหวนจากจักรพรรค “ฮั่นหวู่ตี้” ในยุคราว 2,000 กว่าปีก่อน และสุราเหมาไถได้รับเลือกให้เป็นสุราที่ใช้ในราชสำนักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปี ค.ศ. 1915     ในงานมหกรรมสินค้านานาชาติปานามา ซึ่งจัดขึ้นที่ลอสแองเจอลิส ประเทศ  สหรัฐอเมริกา เหล้าเหมาไถได้รับรางวัลเหรียญทอง และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของเหล้ากลั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก  จนกระทั่งกลายเป็นตัวแทนสินค้าจีนที่ก้าวสู่ตลาดโลกก่อนใคร

ปี ค.ศ. 1935        ในช่วงเวลาก่อนและหลังการเปิดประชุมครั้งสำคัญที่เมืองจุนอี้ของคณะปฏิรูปการปกครอง(พรรคคอมมิวนิสต์)ของจีน ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่ประเทศจีนตกอยู่ในภาวะความวุ่นวายทางการเมือง และในช่วงเวลาดังกล่าว มีประชาชนจีนที่อาศัยอยู่ในแถบเมือง จุนอี้ ต่างนำเหล้าเหมาไถไปมอบให้กับผู้นำอาวุโสและทหารของคณะปฏิรูป(พรรคคอมมิวนิสต์) เพื่อเป็นการให้กำลังใจ ผู้นำคณะปฏิรูปซึ่งได้แก่ เหมาเจ๋อตุง โจวเอินไหล จูเต๋อ และเติ้งเสี่ยวผิง  ทุกคนต่างชื่นชอบในรสชาติของเหล้าเหมาไถ  นอกจากนี้ อดีตผู้นำจีน โจวเอินไหล เคยกล่าวไว้ว่า “ความสำเร็จของทหารคณะปฏิรูป ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับเหล้าเหมาไถ”

ปี ค.ศ. 1949       หนึ่งคืนก่อนพิธีเปิดประเทศที่ยิ่งใหญ่ อดีตผู้นำจีน โจวเอินไหล ได้เรียกประชุมและตกลงเลือกเหล้าเหมาไถเป็นเหล้าที่ใช้ดื่มฉลองในงานพิธีเปิดประเทศ และใช้เป็นเหล้าที่ใช้ในการเลี้ยงรับรองแขกคนสำคัญ ในงานเฉลิมฉลองวันชาติจีน นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาระหว่างประเทศที่นครเจนีวา  การเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ  และการเจรจาระหว่างจีนกับญี่ปุ่นนั้น  เหล้าเหมาได้แสดงบทบาทสำคัญโดยเป็นตัวกลางพิเศษที่พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศคู่เจรจาซึ่งมีความขัดแย้งมายาวนาน และยังมีนับครั้งไม่ถ้วนที่ผู้นำจีนเลือกเหล้าเหมาไถเป็นของขวัญชิ้นพิเศษมอบให้กับผู้นำต่างชาติ

      ปัจจุบัน    ทุกครั้งที่มีการจัดงานสำคัญขึ้นที่สถานฑูตจีนในต่างประเทศ ก็มีจะมี กำหนดเสริฟเหล้าเหมาไถทุกครั้ง ดังนั้น  เหล้าเหมาไถจึงได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในด้าน เสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ   การเฉลิมฉลองความสำเร็จ และ กระชับมิตร   ในปี ค.ศ. 1975 รองผู้นำจีน หวังเจิ้น ได้ประกาศในงานระดับชาติงานหนึ่งว่า “เหล้าเหมาไถ เป็นเหล้าประจำชาติจีน”

 ปี ค.ศ. 1978        รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนสามารถควบคุมตัวผู้นำกลุ่มต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ได้ ทั้ง 4 คน  นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำจีนในขณะนั้นทราบข่าวดีดังกล่าวก็ได้ยกแก้วเหมาไถขึ้น พร้อมกับกล่าวต่ออาจารย์และสหายที่ร่วมปฏิบัติการครั้งนั้นว่า “ขอพวกเรามาร่วมดื่ม ขอให้ความไม่สงบภายในบ้านเมืองจงหมดสิ้นไป”

ปี ค.ศ. 1984        นาย จู เซี๋ย ฟ่าน รองประธานสมาชิกคณะกรรมการสภาจีน มีคำกล่าวว่า “เหล้าประจำชาติจีนเหมาไถ เป็นสุดยอด  แห่งเมรัยจีน”

 ปี ค.ศ. 1999        นาย หยางปอ  อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมขนาดเบา มีคำกล่าวว่า “เหล้าเหมาไถ เป็นเหล้าประจำชาติจีนที่คู่ควรแก่คุณค่า”  หลายต่อหลายครั้ง ที่เหล้าเหมาไถขึ้นแท่นอันดับหนึ่งอย่างเต็มภาคภูมิจากงานประกวดเหล้าที่ขึ้นชื่อในจีน และเหล้าเหมาไถได้กลายเป็นสินค้าจีนที่ขึ้นชื่อที่สุดรายแรก(อันดับ 1 ) ในยุค 80

 ปี ค.ศ. 2000       เหล้าเหมาไถได้รับการยอมรับจากประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งสะท้อนวัฒนธรรมจีน ได้มีการบันทึกเหล้าเหมาไถลงในบันทึกประวัติศาสตร์จีน และเก็บรักษาสิ่งบันทึกดังกล่าวไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของจีน

                           เหล้าเหมาไถนั้นเปรียบเสมือนนามบัตรใบหนึ่งที่ประเทศจีนแจกให้กับคนทั่วโลก  ความนิยมดื่มเหล้าเหมาไถเริ่มจากทั่วทุกทิศของประเทศจีน จนกระทั่งไปสู่ทั่วทุกแห่งหนของโลก เหล้าเหมาไถถือได้ว่าเป็นสินค้าจีนตัวเดียวที่เจาะตลาดชนชั้นสูงของชาติตะวันตกซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ได้สำเร็จ.
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #174 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 04:50:05 PM »
ทำไม...สุราเหมาไถจึงได้รับรางวัลเหรียญทอง

 

เป็นที่ทราบกันดีว่า เหล้าเหมาไถเป็นสุราชั้นเลิศที่โด่งดังไปทั่วโลกจากการที่ได้รับเหรียญทองจากงานนิทรรศการสินค้านานาชาติปานามา แต่ก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ทราบความเป็นมาของเรื่องนี้   

       ในปี 1881 ได้มีการริเริ่มโครงการขุดคลองปานามาในทวีปอเมริกา  และในปี 1903 มีการทำสนธิสัญญาระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศปานามาขึ้นฉบับหนึ่งซึ่งมีผลให้สหรัฐฯ เป็นผู้ได้รับสัมปทานในการขุดคลองปานามา  จนกระทั่งงานขุดคลองดังกล่าวแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1912   รัฐสภาสหรัฐฯ มีมติให้จัดงานนิทรรศการสินค้านานาชาติปานามาขึ้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จของงานขุดคลองปานามา  ในเดือนมีนาคมของปี ค.ศ.1912 รัฐบาลจีนได้รับจดหมายเรียนเชิญให้ไปร่วมงานนิทรรศการดังกล่าว จาก นาย William Howard Taft ซึ่งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในขณะนั้น  และหลังจากนั้น รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้ส่งทูตพิเศษไปยังจีนเพื่อเจรจาเชิญชวนให้องค์กรทางธุรกิจของจีน เข้าร่วมการประกวดสินค้าในงานดังกล่าว นาย หยวน ซื่อ ข่าย ประธานาธิบดีของจีนในขณะนั้น ได้สั่งการมอบเรื่องนี้ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้ดำเนินการ และต่อมาในเดือน มิถุนายน ของปี ค.ศ.1913 จีนได้มีการตั้งหน่วยงานเฉพาะเพื่อดูแลโดยตรงเกี่ยวกับการเตรียมการเพื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการสินค้านานาชาติปานามาขึ้น โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการเกษตร กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการคลังร่วมกันเตรียมการ นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้ง “องค์กรผลิตภัณฑ์เพื่อการประกวด ขึ้นในแต่ละมณฑล” โดยมีหน้าที่คัดเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อส่งเข้าประกวด  และมณฑลกุ้ยโจวได้นำเสนอสุราเหมาไถจากผู้ผลิต 2 เราย คือ “เฉินอี้ ” และ “หยงเหอ” เข้าร่วมการประกวดโดยส่งประกวดภายใต้ชื่อ  “สุราเหมาไถ”  ในนามของ  “บริษัทผู้ผลิตสุราเหมาไถ” 

               วันที่ 20 กุมภาพันธ์ ของปี ค.ศ.1915 ได้มีการเปิดงานนิทรรศการสินค้านานาชาติปานามาอย่างอลังการ ณ ซานฟรานซิสโก งานนี้ถือได้ว่าเป็นงานนิทรรศการที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งแรกของโลกในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีผู้เข้าร่วมการประกวดและจัดแสดงสินค้ามากกว่า 2 แสนองค์กร

               เรื่องราวความเป็นมาของการได้รับรางวัลเหรียญทองของสุราเหมาไถ คือ ในขณะนั้น มีคนจีนผู้หนึ่งซึ่งแต่งกายด้วยชุดจีนและไว้ผมเปีย ถูกมองว่าเป็น “ขี้โรคแห่งเอเชีย” ถือไหเหล้าเหมาไถอยู่ในมือ โดยไม่มีใครให้ความสนใจเลย จนขั้นตอนการประกวดใกล้จบลง คนจีนผู้นั้นได้ไอเดียขึ้นมา แกล้งทำเป็นไม่ทันระวังทำไหเหล้าเหมาไถหล่นแตก ส่งผลให้กลิ่นอันหอมอบอวลของเหล้าเหมาไถกระจายไปทั่วงาน กลิ่นนั้นได้ดึงดูดความสนใจของกรรมการผู้ทำการตัดสินในการประกวด กรรมการแต่ละท่านได้ผลัดกันลิ้มลองรสชาติของสุราเหมาไถ จากนั้น ต่างก็ออกมาให้การยอมรับว่า สุราเหมาไถเป็นเหล้าขาวที่ดีที่สุดในโลก และมีการตกลงมอบรางวัลเหรียญทองเป็นเหรียญเพิ่มเติมให้แก่สุราเหมาไถ

            สุราเหมาไถจึงแจ้งเกิดบนเวทีโลกนับแต่นั้นมา ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ชาวจีนในยุคสมัยนั้นโอ้อวดได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเป็นการสร้างแรงบันดานใจให้กับชาวจีนทั่วประเทศ ให้มีการพยายามพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ของตนเอง ซึ่งส่งผลให้ในภายหลังได้เกิดการพัฒนาสินค้าจีนสู่เวทีโลกอีกหลายอย่างตามมา.

 

-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #175 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 04:51:02 PM »
ทำไม...การดื่มสุราเหมาไถในปริมาณที่พอเหมาะจึงดีต่อสุขภาพ

 

           หัวข้อวิจัยและการทดลองที่ใช้เวลากว่า 4 ปี ในที่สุดก็ได้คำตอบว่า ผู้ที่ดื่มสุราเหมาไถเป็นเวลานานไม่เพียงแต่ไม่ส่งผลต่อการเกิดพังผืดในตับซึ่งเป็นอาการที่นำไปสู่ภาวะตับแข็งเท่านั้น แต่กลับมีผลดีต่อการบำรุงตับอีกด้วย

           สำนักพิมพ์ซินหัว ณ เมืองกุ้ยหยาง มีรายงานว่า มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ทางเทคนิควิทยาศาสตร์ว่า คนที่ดื่มสุราเหมาไถเป็นเวลานานในปริมาณพอเหมาะ ไม่มีผลต่อการเกิดพังผืดในตับซึ่งเป็นอาการที่นำไปสู่ภาวะตับแข็ง ข้อนี้เป็นผลสรุปจากการนำสุราเหมาไถ 53 ดีกรีมาเป็นหัวข้อวิจัยเป็นเวลานาน 4 ปี และผลสรุปนี้ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านโรคตับที่มีชื่อเสียง 9 ท่านของจีน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นักวิจัยจากสถาบันวิจัยแห่งชาติของจีน

          โดยเป็นที่ทราบกันดีอยู่ว่า การดื่มสุราในปริมาณมากใน 1 ครั้ง และการดื่มสุราในปริมาณมากต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้นมีผลเสียต่อตับ  การดื่มสุราวันละ 80 - 150  ซีซี. ติดต่อกัน 10 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับจากพิษสุรา โรคตับจากไขมัน โรคตับอักเสบจากพิษสุรา  เกิดพังผืดในตับ จนกระทั่งโรคตับแข็ง  แต่จากการสำรวจพนักงาน 99 ราย ของบริษัทผู้ผลิตสุราเหมาไถที่มีอายุงานเกิน 10 ปี และดื่มสุราเหมาไถโดยประมาณ 250 ซีซี. ต่อวัน ผลการสำรวจคือ มีเพียง 1 รายเท่านั้นที่เป็นโรคตับอักเสบ ส่วนที่เหลือทั้งหมดนั้นไม่มีการเกิดพังผืดในตับและอาการตับแข็ง

         งานวิจัยผลกระทบจากการดื่มสุราเหมาไถพบว่า สุราเหมาไถทำให้ปริมาณโปรตีน Metallothionein ในตับเพิ่มขึ้น 22 เท่า โปรตีนชนิดนี้สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเซลล์ตับชนิดที่ทำให้เกิดพังผืดในตับ และยับยั้งการเกิดคอลลาเจน ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นสาเหตุหลักของการเกิดพังผืดในตับ ในขณะเดียวกันปริมาณอ๊อกซิเจนและเอ็นไซม์ที่มีอยู่ในสุราเหมาไถซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น อาจไปรวมตัวกับโปรตีน Metallothionein และเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน จนสามารถป้องกันการเกิดพังผืดในตับได้ โดยผู้เชี่ยวชาญต่างมีความเห็นว่า ส่วนประกอบหลายชนิดที่มีคุณค่าทางสารอาหารในสุราเหมาไถนั้น อาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโปรตีน Metallothionein ขึ้น

        จากรายงานการทดลองชี้ให้เห็นว่า ในสุราเหมาไถประกอบไปด้วยโปรตีน กรดอะมิโน 18 ชนิด วิตตามินหลายชนิดและธาตุอาหารอื่นๆ ที่ร่างกายมนุษย์ต้องการ ส่วนปริมาณของสารต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายมนุษย์ เช่น สาร Methanol , สาร Benzene และสารประกอบเคมีที่มีอินทรีย์แอลดีไฮด์ (aldehyde) นั้น พบน้อยมากในสุราเหมาไถ ซึ่งมีปริมาณน้อยเกินกว่ามาตรฐานของนานาชาติ และสารบางตัวตรวจไม่พบเลย

        จากการทดลองดังกล่าว ยังพบว่า การดื่มสุราเหมาไถในปริมาณที่พอเหมาะและต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะมีอัตราเสี่ยงน้อย ต่อการเกิดโรคทางระบบขับถ่ายและโรคแผลในกระเพาะอาหาร และหลังจากมีการแจ้งผลการทดลองนี้ นาย หวง เซิ่ง หมิง เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมเหล้าขาวของจีน ได้กล่าวอย่างปลาบปลื้มว่า นี่คือข้อโต้กลับที่ดีที่สุดต่อคำกล่าวที่ว่า “เหล้าขาวส่งผลเสียต่อสุขภาพ”   นาย หวง เซิ่ง หมิง ยังเห็นว่า การดื่มสุราขาวคุณภาพดังเช่นสุราเหมาไถในปริมาณที่พอเหมาะ และต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้น เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  นอกเหนือจากนี้ ยังมีข่าวที่ตีพิมพ์เผยแพร่ตามสื่อ ว่า นาย บิล เกต ประธานบริษัท Microsoft  มีความสนใจต่อประสิทธิภาพที่พิเศษของสุราเหมาไถเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งกล่าวว่า อยากที่จะเดินทางไปยังเมืองกุ้ยหยางเพื่อเยี่ยมดูงานด้วยตัวเอง และถ้าเป็นไปได้จะขยายความร่วมมือครั้งใหม่พร้อมกับลงมือทำการสำรวจ

       นอกจากนี้ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งอังกฤษ   องค์กรด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา และองค์กรด้านวิจัยวิทยาศาสตร์ชื่อดังของจีน ต่างมีความสนใจต่อการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของสุราเหมาไถเป็นอย่างมาก.

-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #176 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 04:52:25 PM »
ประวัติย่อของสุราเหมาไถ


เหมาไถ (หรือ เหมาถัย) เป็นหนึ่งในจิตวิญญาณของสามเมรัยกลิ่นหอมที่รู้จักกันดีด้วยเอกลักษณ์คือกลิ่นที่หอม นุ่มลึก ความหอมของเหมาไถ เป็นหนึ่งเดียว กลิ่นหอมรัญจวนนี้ จึงถูกแต่งตั้งให้เป็นต้นกำเนิดและมีชื่อเสียง ติดหนึ่งในสามของเมรับกลิ่นหอมของประเทศจีน

เหมาไถ คือความน่าพิศวง ที่ประกอบด้วยภูมิปัญญาอันน่ามหัศจรรย์ และอัจฉริยภาพของผู้ต้มข้าวสาลี และข้าวฟ่างชั้นเลิศ เทคนิคและกรรมวิธีที่ประณีต และขบวนการหมักบ่มที่สมบูรณ์แบบ ผ่านการฆ่าเชื้อโรค ดังนั้นเหมาไถจึงเปรียบเป็นมรดกที่สืบต่อกันมาชั่วลูกชั่วหลานของวัฒนธรรมจีน สุราเหมาไถมีประวัติยาวนานตั้งแต่ราชวงศ์ "ฮั่น" ในปี ค.ศ. 135

ตามเอกสารบันทึก ผู้ต้มสุราในเมืองเหมาไถที่ตั้งรกรากมาก่อน มีความสุขอย่างมากโดยการปกครองของจักรพรรดิ ฮั่นวู จากนั้นมา เหมาไถก็มีชื่อเสียงขจรขจายไปไกล ในปี ค.ศ. 1915 สุราเหมาไถได้รับรางวัลเหรียญทองที่งานเทศกาล Panama International Fair และได้กลายเป็นสุราที่มีชื่อเสียงรู้จักกันดีและได้รับรางวัลเหรียญทองของจีนอีกหลายครั้ง สุราเหมาไถถูกจัดวางในตลาดมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และหลายภูมิภาค

บริษัท Guizhou Mautai Chiew I/E (กุ้ยโจว เหมาไถ ชิว) ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1993 ตั้งแต่นั้นมา มีมูลค่าการนำเข้าส่งออก ได้มีมูลค่าเกือบถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ปรัชญาการจัดการของบริษัทคือ ซื่อสัตย์ และเท่าเทียม ผลประโยชน์ร่วมกัน ลูกค้าต้องมาก่อน ความน่าเชื่อถือต้องสำคัญ และบริการต้องเป็นหนึ่ง เป้าหมายหลักของบริษัทคือกระตุ้นการทำธุรกิจรวมถึงการนำเข้าและส่งออกสินค้าที่เป็นที่ยอมรับของรัฐบาล และถูกต้องตามขั้นตอนของการนำเข้าและส่งออก ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ส่งออกมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก

การก่อตั้งบริษัท Moutai Corporation เป็นการริเริ่มจากองค์กร 8 องค์กร คือ Moutai Distillery Company Ltd., Moutai Technology Development Company and the Research Development of Quinghua University in Shenzhen และรับรองโดยผู้ว่าการมณฑลกุ้ยโจว บริษัทฯ ถูกนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ของเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2544 และมีทรัพย์สินรวม 35,000 ล้านหยวน เมื่อปลายปี พ.ศ. 2544

ปัจจุบันสุราเหมาไถมีตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย คือบริษัทหย่งชิง อินเตอร์เทรด จำกัด
 

ที่มา http://www.surathai.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=5350343&Ntype=3
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #177 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 04:56:41 PM »
ขาดรูปคงไม่ได้เนอะ




ขอบคุณที่มาครับ http://www.suramoutai.com/index.htm  -01
 
งานนี้ถ้าจะได้ไปเสาะหามาลองอีกแล้ว  -30
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #178 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 05:24:27 PM »
รีเจนซี่... บรั่นดีไทย
 



ณรงค์ โชคชัยณรงค์ พ่อค้าเพชรผู้เกือบตายกับ "รีเจนซี่"

ความเป็นมาและที่กำลังจะเป็นไปของ "รีเจนซี่" บรั่นดีไทย เป็นเรื่องราวของลูกวัวที่ไม่เคยรู้ว่าแม่เสือนั้นรูปร่างเป็นอย่างไร ดุร้ายน่าหวาดกลัวเพียงไหน จึงหาญกล้าเข้าไปคลุกเคล้าหยอกล้อราวกับว่าเป็นแม่ของตนต่อเมื่อผ่านพ้นและได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองได้เคลียคลอนั้นคือแม่เสือร้าย ก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า "แล้วมันรอดตายมาได้อย่างไรกัน"

ชื่อของณรงค์ โชคชัยณรงค์ ไม่เคยแผ้วพานปรากฏในสารบบของคนค้าเหล้ามาก่อนเขาไม่อาจจัดอยู่ในทำเนียบมือเซียนได้แม้แต่น้อย แต่ถ้าเอ่ยชื่อนี้ในวงการค้าเพชรพลอยแล้วละก็เป็นต้องร้องอ๋อ เขานี่แหละมือเซียนชั้นปรมาจารย์คนหนึ่งทีเดียว

เมื่อณรงค์เจียระไนความคิดที่อยากจะผลิตสุราชนิดหนึ่งโดยที่ไม่ขอเลียนแบบแม่โขงประมาณปี 2518 โดยจะผลิตเป็นสุราชั้นสูงให้กับเพื่อนฝูงและคนสนิทชิดเชื้อฟัง สิ่งที่เขาได้รับตอบกลับมาคือคำพูดว่า "อยู่ดี ๆ ไม่ชอบคิดจะฆ่าตัวตายอย่างนั้นหรือ"

เพราะนอกจากจะต้องออกแรงราวีอย่างหนักกับบรั่นดีนอกที่คุณภาพย่อมเหนือกว่าช่วงตัวแล้วก็เป็นที่รู้กันว่า การลงทุนผลิตบรั่นดีต้องใช้งบค่อนข้างสูง กอปรกับบ้านเราในขณะนั้นยังขาดแคลนองุ่นพันธุ์ดีที่จะนำมาทำบรั่นดีโดยตรง และนี่คือบทสรุปที่ทุกคนบอกว่าณรงค์กำลังจะเสียบดาบปักท้องตัวเอง

อย่าว่าแต่คนรู้จักเขาเลย แม้แต่เมื่อเขาเสนอแบบขวดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไปยังกรมสรรพสามิต ก็ไม่วายที่จะถูกกระแซะแกมปลงอนิจจังว่า "สงสัยอยากจะเร่งวันตายเร็วขึ้น" ทั้งนี้เนื่องจากมาจากแบบขวดไม่เหมาะกับบรั่นดีนัก คือคนกินจะเกิดอาการหลอนตลอดเวลากินเท่าไร ๆ ก็ไม่หมด สงสัยจะเป็นบรั่นดีชั้นปลายแถว

แต่ณรงค์ไม่ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น เขากล้าที่จะเป็นคนทำเหล้าคนแรกที่เข้าไปขอรับการส่งเสริมจาก บีโอไอ. ตอนนั้นแสงโสม หรือแม่โขงที่พร้อมจะผลิตได้ และเป็นคนรู้เรื่องเหล้าชนิดถึงกึ๋นยังไม่คิดที่จะแหยมเข้าไปท้าทายบรั่นดี

"เขาเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเอง คิดว่าสามารถผลิตบรั่นดีคุณภาพไม่แพ้ของนอกได้ เมื่อใจสู้แล้วต่อให้คมหอกคมดาบจ่ออยู่ตรงหน้าก็ไม่กลัว เขาเลยตัดสินใจตั้งโรงงานเมื่อปี 18 และก็เป็นจุดเริ่มแรกที่คนไม่เคยกินเหล้าอย่างเขาต้องหันมากินเหล้า" ผู้ใกล้ชิดของเขากล่าวกับ "ผู้จัดการ" และบอกด้วยว่ารสนิยมละเลียดบรั่นดีของเขาชอบผสมโค้ก แต่เดี๋ยวนี้เล่นแบบเพียวๆ

เมื่อนำออกตลาดซึ่งขณะนั้นมีบรั่นดีจากนอกเข้ามาขายนับสิบยี่ห้อ ปรากฏว่า "รีเจนซี่" บรั่นดีไทยตัวนี้แทบจะไร้คนมอง ณรงค์เองเจอะเจอใคร ๆ ก็ได้แต่บ่นว่า "จะตายแล้ว ไม่ไหวแล้ว" ทว่าคนอย่างเขาเข้าประเภทยอมหักไม่ยอมงอเลยยิ้มสู้มาโดยตลอด

รีเจนซี่เริ่มมาเป็นที่รู้จักและมีคนดื่มพอเป็นกระสายบ้างก็ในราวปี 2525 ซึ่งเป็นปีที่ณรงค์ยอมตัดสินใจทุ่มสินค้าของตนโปรโมทตามงานต่างๆ แบบชนิดให้เปล่า โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใด เขาหวังแต่ว่า อยากให้คนได้รู้จักว่ายังมีบรั่นดีไทยอีกตัวหนึ่งนะที่คุณน่าลอง

แหล่งข่าวในวงการสุราเผยกับ "ผู้จัดการ" ว่า ในสมัยที่ พล.อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความพิสมัยในบรั่นดีและเป็นนักดื่มตัวยง ทำให้ณรงค์สามารถเข้าถึงตัวอดีตนายกฯคนนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น และนั่นเขาก็เริ่มวางพื้นฐานให้แข็งแกร่ง เรียกว่าขอส่งเสริมอะไรจากภาครัฐบาลเป็นไม่เคยได้รับคำปฏิเสธ

ยอดขายของ "รีเจนซี่" ตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมาอยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 4 ของบรั่นดีในตลาด ซึ่งเรียกว่าน้อยสิ้นดีจนถึงปี 2528 เริ่มพุ่งสูงขึ้น และมาในปี 2529 ที่วงการสุรากำลังประสบความระส่ำระสายอย่างหนัก รีเจนซี่ที่ราคาไม่สูงกว่าแม่โขงเริ่มเป็นที่ได้รับการยอมรับ จากการวางขายที่เคยเน้นหนักเฉพาะสโตร์ เริ่มกระจายเข้าไปตามร้านค้าต่าง ๆ มากขึ้น

ตัวเลขล่าสุดจากกรมสรรพสามิตบอกว่า รีเจนซี่ก้าวขึ้นมาผงาดอย่างวีระอาจหาญไม่น้อยหน้าใครอีกแล้ว ยอดขายสูงถึงร้อยละ 70 ของสุราในตลาด ณรงค์ที่เคยส่ายหน้าว่า "ไม่ไหว" วันนี้ถ้าใครได้พบจะเห็นก็แต่รอยยิ้มอันเปี่ยมสุข และดวงตาที่เปล่งประกายเจิดจรัสถึงความหวังอันเรืองรองต่อไปในอนาคต

และเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จโอฬาร ปีนี้จึงเป็นปีแรกที่ "รีเจนซี่" โหมทุ่มงบโฆษณาผ่านมีเดีย ที.วี. อย่างหนักซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะก่อนนั้นจะเน้นหนักเฉพาะตามหน้านิตยสารไม่กี่ฉบับเท่านั้น

"ณรงค์ต้องการฉวยจังหวะนี้อัดชื่อรีเจนซี่ให้เป็นที่แพร่หลายทั่วทั้งประเทศ และเพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ตลาดแผนใหม่ของเขาที่เริ่มลุยอย่างหนักโดยขณะนี้นำเอารีเจนซี่ไปลงตามร้านอาหารตามปั๊มน้ำมันต่างๆ ทั่วภาคเหนือ และจะขยายออกไปในภาคอีสานเร็ว ๆ นี้ เส้นกราฟการขายคาดว่าจะต้องสูงกว่าปีก่อนอีกเท่าตัว" แหล่งข่าวผู้หนึ่งเผยกับ "ผู้จัดการ"

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวออกมาอีกว่า ณรงค์เตรียมโครงการที่จะขยายกำลังการผลิตครั้งใหญ่ โดยได้สั่งองุ่นพันธุ์ดีจากฝรั่งเศสมาส่งเสริมให้ชาวสวนปลูก พร้อมกับตั้งราคาประกันรับซื้อทั้งหมด ซึ่งองุ่นที่ส่งเสริมนี้ณรงค์ต้องการที่จะนำเอามาทำไวน์ชนิดพิเศษแบบฝรั่งเศส ซึ่งเป็นไวน์มาตรฐานที่ผลิตกันมาตั้งแต่สมัยพระเยซู (ว่าเข้านั่น) โดยใช้องุ่นล้วน ๆ ไม่ต้องมีสารผสมแต่อย่างใด

"ไวน์ตัวนี้แหละที่เป็นความหวังสุดยอดของเขา" คนในกรมสรรพสามิตกล่าวกับ "ผู้จัดการ"

หยดต่อหยดที่ผ่านการเรียนรู้ ผ่านประสบการณ์อันเจ็บปวดลึก ๆ ปีแล้วปีเล่าเพื่อผลิตเหล้าอย่างดีออกมาให้คนดื่มคนค้าเพชรอย่างณรงค์ก็ได้แต่หวังไว้ว่า สักวันหนึ่งที่คุณได้ลองจิบสุราของเขาคุณอาจทนไม่ไหวที่จะขอจิบหยดต่อไป...และต่อไป.

 

ที่มา : นิตยสารผู้จัดการ  มีนาคม  2530 //  www.gotomanager.com
         http://www.surathai.net/index.php?lay=boardshow&ac=webboard_show&WBntype=1&Category=surathainet&thispage=2&No=178574

-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย

ออฟไลน์ เก่ง หล่ายดอย

  • The Watcher Team
  • Master Degree of MC27/30
  • ***
  • กระทู้: 11,956
  • ถูกใจ: +22/-0
  • ให้เหล้า เท่ากับแบ่ง
Re: เหล้าชาวบ้าน ในรั้วบ้านผม
« ตอบกลับ #179 เมื่อ: มิถุนายน 23, 2009, 05:44:18 PM »
รอบนี้เกินห้าบรรทัดอีกแล้ว หวังว่าอ้ายเนินคงอ่านนะครับ  -08
-10 มิตรภาพจากคนแปลกหน้า มีค่ามากกว่าลมปากจากคนคุ้นเคย