ผมอาศัยอยู่กับพี่สาวสองคนในบ้านสองชั้นหลังเล็กๆ
ที่ทำงานของผมอยู่ห่างจากบ้านไม่มากนัก
ทุกวันหลังเลิกงานผมจะเดินกลับบ้านด้วยความหวังว่า
เมื่อไหร่จะมีแฟนเสีย ที
ขณะที่ผมกำลังดูหนังอยู่ในห้องก็ได้ยินเสียงพี่สาว
เรียกยกให้ลงมาข้าง ล่าง
พี่สาวผมบอกว่าเพื่อนของพี่สาวย้ายเข้ามาเช่าบ้านติด
กับบ้านผม
พี่สาวแนะนำให้ผมรู้จัก
"พี่มด"
และขอแรงผมช่วยขนย้ายสัมภาระเข้าบ้าน
แต่สายตาและรอยยิ้มของพี่มดที่มองมายังผมซิครับ
ทำเอาหัวใจของผมเหมือนจะหยุดเต้น
ผิวของพี่มดขาวละเอียดมาก
เข้าใจว่าคงผ่านการดูแลมาอย่างดีพี่มดสูงประมาณ 170 ซม.
เอวเล็กรับกับก้นที่ได้รูปอย่างแปลกประหลาด
ในระหว่างที่ช่วยกันขนย้ายสิ่งของ
ผมมองผ่านหน้าอกของพี่มดอย่างไม่ตั้งใจ
แต่ก้ออดจะนึกถึงแตงโมลูกย่อมๆ
ที่แม่ค้าวางขายอยู่ในตลาดไม่ได้
เธอเอามันมาจากไหนนะ
เห็นแล้วน่าหนักอกหนักใจแทนจริงๆ
ยามที่เราขนย้ายสิ่งของผ่านช่องทางเล็กๆ
ที่ต้องค่อยๆ
เบียดผ่านกัน
ผมรู้สึกได้ถึงความนิ่มจากร่างกายพี่มดที่บดเบียดลงมาบนร่างกายผมที่เต็ม
ไปด้วย เม็ดเหงื่อของผม
มันเป็นความรู้สึกที่คนอย่างผมยากจะบรรยายจริงๆ
พี่มดคงมองผมเป็นน้องเลยไม่ได้ระวังตัว
ผมได้แต่ข่มความรู้สึกแปลกๆ ที่
กำลังปะทุขึ้นมาในใจอย่างสุดความสามารถ
อย่างน้อยก้อเพื่อเห็นแก่พี่สาวผม
วันเวลาผ่านไปพี่มดมาเป็นแขกประจำของพี่สาวผมแทบทุกว ัน
บางวันก้อชวนกันออกไปดูหนังพักผ่อน
บางวันก้อชวนกันไปหาหมอความงาม
(ไม่รู้พี่สาวผมจะบ้าความงามตามพี่มดไปถึงไหนไม่เข้าใจจริงๆ)
แต่สายตาที่พี่มดมองมายังผมมันแฝงแววตาแปลกๆ
มากขึ้นทุกวัน
บางคืนผมหลับตานอนยังมองเห็นรอยยิ้ม
และแววตาคู่นั้นจนนอนไม่หลับต้อง ลุก
ขึ้นมาออกกำลังกายหนักๆ เพื่อข่มความรู้สึกตัวเองให้บรรเทาลง
คืนนี้ตีสองกว่าแล้ว ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเรียกของพี่สาว
ผมเดินลงบันไดมาเจอพี่สาวกำลังประคองพี่มด
ที่อยู่ในอาการเมาไม่ได้สติ
พี่สาวบอกว่าคืนนี้เพื่อนร่วมรุ่นเลี้ยงฉลองกัน แต่พี่มดเมามาก
กุญแจบ้าน พี่มดก้อหาย จึงต้องพามานอนบ้านเรา
แล้วพี่สาวก้อบอกให้ผมประคองพี่มดขึ้นไปนอนบนห้องของ พี่สาว
ส่วนตัวพี่สาว ขับรถออกจากบ้านไปส่งเพื่อนๆ อีกสองสามคน
ผมประคองพี่มดขึ้นบันไดไปห้องพี่สาว
ด้วยแขนขาที่สั่นจนแทบควบคุมไม่ได้
กลิ่นไวน์อ่อนๆผสมกับกลิ่นน้ำหอมราคาแพง
ที่อาบอยู่บนตัวพี่มดลอยมาแตะจมูก
ลูกแตงโมย่อมๆ มันเบียดกับร่างกายผม
จนหลุดออกจากเกาะอกมาโชว์แก่สายตา
ผมได้แต่ข่มความรู้สึกตัวเอง
ประคองพี่มดขึ้นมาจนสุดขั้นบันไดอย่างยากเย็น
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดก้อเกิดขึ้น
คงด้วยความเมา พี่มดผลักผมเข้าไปติดผนัง
หน้าอกทั้งสองบดเบียดกับหน้าอกเปลือยเปล่า
ของผมอย่างแนบแน่น ก่อนที่ผมจะทันได้ตั้งตัว
ริมฝีปากของพี่มดก้อกดลงมาบดเบียดกับริมฝีปากผม
จากนั้นสติของผมก้อขาดลงลืมผิดชอบชั่วดี
ลืมทุกสิ่งรอบกาย ผมทำสิ่งเลวร้ายที่สุดในชีวิตกับพี่มด
อย่างไม่น่าให้อภัย สติผมกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
ภายใต้เสียงร้องครวญครางเจียนจะขาดใจของพี่มด
แต่ทุกอย่างมันก้อสายเกินที่จะแก้ไขซะแล้ว
อารมณ์ที่อัดอั้นมันไหลออกจากตัวผมอย่างสุดจะควบคุม
ผมไม่น่าทำมันลงไปเลย.....
ผมขอโทษ....
เสียงขอโทษของผมหลุดออกมาจากปากอย่างแผ่วเบา
ภายใต้เสียงสะอื้นและน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย
ผมกอดกระชับพี่มดอย่างสำนึกผิดในการกระทำของตัวเอง
แต่เลือดที่ไหลออกมาเต็มขาของพี่มดทำให้ผมตกใจแทบสิ้นสติ
หลังจากคุณหมอรับตัวพี่มดเข้าห้องฉุกเฉินแล้ว
ผมทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ อย่างหมดแรง
คงเป็นครั้งแรกของพี่มดที่เจอเรื่องเลวร้ายเช่นนี้
พี่มดจะให้อภัยผมหรือเปล่านะ
หากพี่มดแจ้งความกับตำรวจผมจะทำอย่างไรดี
ผมไม่น่าทำกับพี่มดอย่างนี้เลย
แต่ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
ร่างกายมันทำไปตามความต้องการของมันเอง
แล้วผมจะบอกเรื่องนี้กับพี่สาวอย่างไร?
พี่สาวยืนจ้องหน้าผมด้วยแววตาที่ยากเกินจะบรรยาย
ผมนั่งก้มหน้าปล่อยเสียเบาๆ
เล็ดลอดออกจากปากอย่างยากเย็น
..........."ผมขอโทษครับพี่" ..................
พี่ก้อรู้ว่าผมเกลียดกะเทยมาก
"ผมลืมตัวถีบพี่มดตกบันได"
ผมทำไปอย่างไม่
รู้ตัวจริงๆ ครับ