Montfort27
มุมพักผ่อนหย่อนใจ ไปไหนไปกัน => ไปแอ่วกั๋นดีกว่า => ข้อความที่เริ่มโดย: เก่ง หล่ายดอย ที่ เมษายน 27, 2013, 02:49:06 PM
-
เขียนบันทึกผ่านเวปบอร์ดนี้มาหลายรอบจบบ้างไม่จบบ้าง รอบนี้หวังว่าคงจะจบนะครับ :smile6:
บันทึกการเที่ยวของผมปีนี้ไปกันไกลหน่อยครับ หลังจากขึ้นเชียงราย ล่องกรุงเทพ วนๆ อยู่แบบนี้มาหลายปี
ปีนี้ขอสร้างความแตกต่างด้วยการพาไปเที่ยวต่างประเทศกันอย่างจริงจัง หลังจากเมื่อไหร่ก็วนๆ อยู่ตามจุดผ่านแดนท่าขี้เหล็กมาหลายรอบ
เริ่มจากการหาข้อมูลผ่านเวปไซค์ต่างๆ และคำแนะนำจากเพื่อนรักอย่าง อ.บาย จึงลงตัวไปที่ HKG หรือ ฮ่องกง ดินแดนสวรรค์ของนักช็อป
เกริ่นมาซ่ะยาวว่าแล้วเรามาเริ่มต้นการเดินทางกันดีกว่าครับ
12 เมษายน 2556
แพ็คกระเป๋าเริ่มเดินทางกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่กันเลยครับ
ด้วยโปรข้ามปีกับ Air Asia FD3432 เชียงใหม่-ดอนเมือง ออกเดินทางกันได้เลยครับ
-
หาวตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง พอเครื่องเริ่มบินสักพักคุณเธอก็หลับซ่ะงั้น
-
Take off ออกจากเชียงใหม่ลาหมอกควันไฟป่าไปสักพักแล้วเราจะกลับมาใหม่ :bye:
-
ตั๋วโปรนั่งปีก ถ่ายไปเรื่อยๆ ก็ติดแต่ปีกตลอดทางครับ บินไปได้สักพักฟ้าก็เริ่มใสขึ้นเรื่อยๆ ครับ
ห่างบ้านออกไปเรื่อยๆ แล้วเรา ไม่ได้ออกเดินทางไกลๆ อย่างนี้มาหลายปีแล้วครับ นั่งเครื่องบินครั้งสุดท้ายนี่ร่วมสิบกว่าปีได้เลยครับ -06
-
กลับมาเหยียบดอนเมืองอีกครั้งหลังจากไม่ได้มาเกือบยี่สิบปี หนสุดท้ายที่ได้นั่งเครื่องบินก็ตั้งแต่สุวรรณภูมิยังไม่เปิดใช้งาน -14
-
คืนแรกเข้าพักที่โรงแรมเอเชีย ราชเทวีครับ โรงแรมเก่าห้องกว้างขวางใช้ได้ครับ
ขนกระเป๋าเข้าไปพักไว้แล้วก็รีบออกไปเสียตังค์ตั้งแต่ยังไม่ออกจากเมืองไทยกันที่ King Power กันดีกว่าครับ
-
วัตถุประสงค์หลักในการไป King Power จริงๆ คือเพื่อไปรับน้อง NEX-6 กลับบ้านด้วยโปรวันเกิดของ KP ครับ
โดยยอมยกส่วนต่างคืนเงินเข้าบัญชีบัตร KP ให้ ผบ. ไปเพื่อความลงตัวในการต่อรองขออนุมัติซื้อครับ -0064
งานนี้เท่ากับว่าผมต้องแบกกล้องสองตัวลุยกันแล้วละครับ
ตอนแรกก็คิดว่าดีแล้วเพราะเล็กและเบาทั้งคู่ ตัวหนึ่งใส่ wide อีกตัวใส่ tele zoom ลงตัวฟินสุดๆ แต่....
ห้องพักและคู่ใจใหม่+เก่า
-
13 เมษายน 2556
เริ่มต้นออกเดินทางกันแต่เช้าครับ โดย Airport Link สถานีพญาไท ไปกันแบบสบายๆ เช้าๆ รถโล่งๆ
รอบนี้ขอใช้ภาพจากมือถือแทนครับสะดวกดีครับ -0027
-
โหลดกระเป๋า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองอย่างรวดเร็วกว่าที่คิดครับ
เดินเข้าไปมุมมาตราฐานก่อนออกเดินทางต่างประเทศกันดีกว่าครับ
-
เดินชม duty free ระหว่างทางไปเกท วันนี้เกทที่ออก C3 ครับ
ระหว่างทางมีที่แวะให้เสียเงินเยอะไปหมดครับ ผบ. กับลูกสาวก็แวะรับสินค้าที่ซื้อจาก KP ในเมืองครับ
ผมก็ส่องกล้องไปเรื่อยเปื่อยตามประสาครับ
-
แวะ Duty Free ข้างทางดูราคาเหล้าไว้ก่อนค่อยกลับมาสอย ไม่อยากหิ้วไป-กลับให้หนักเปล่าๆ
เข้าเล้าน์ของ KING POWER ใช้สิทธิ์สักหน่อยครับ ลูกสาวตัวดีก็ทำหน้าที่ นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น line ทันทีครับ
เช็คความพร้อมกล้อง เอกสารเดินทางกันหน่อยครับ
-
ห่างไปพักหนึ่งกลับมาต่อเลยนะครับ งานวุ่นๆ สักนิดครับ
ใกล้ได้เวลาก็เตรียมเดินไปรอขึ้นเครื่องกันดีกว่าครับไฟท์เดินทาง TG628 เวลา 10.45 ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 30 นาทีครับ
Gate C3 เดินไม่ใกล้ไม่ไกลมากครับจากห้องรับรอง King Power
มุมยอดนิยมที่ชอบถ่ายมาประกอบกันครับ -0019
-
วันนี้ได้คุณชัยภูมิ เป็นพาหนะเดินทางไปส่งครับได้เวลาออกเดินทางกันสักทีครับ
-
Take Off กันสักทีครับกับการเดินทางออกต่างประเทศครั้งแรก -0005
บ๊าย บาย เมืองฟ้าอมรอีกสี่วันจะกลับมาใหม่ :bye:
-
ขาจาก CNX ได้ตั๋วโปรติดปีก ขาไป HKG ตั๋วไม่โปรติดเครื่องยนต์ซ่ะงั้น :cry2:
-
นั่งสักพักเจ้าหน้าที่ก็มาบริการอาหารกลางวันครับ
จองล่วงหน้าเลยได้เสริฟก่อนใครครับ ไม่เนื้อ ไม่ไก่ เลยได้มาแบบนี้แหละครับ
หน้าจอมีบอกเวลาเดินทาง พร้อมหนังให้เลือกดูเต็มที่ครับ หนังใหม่ๆ ก็มีครับ
มัวแต่ถ่ายรูปเพลินเลยได้ดูบ้างไม่ได้ดูบ้าง คนดอยขึ้นเครื่องบินก็แบบนี้แหละครับ
-
นั่งเพลินๆ แป๊บเดียวกัปตันก็แจ้งว่าขณะนี้เรามาถึง HKG แล้วครับ
-
ลงเครื่องด้วยความตื่นเต้นจนลืมถ่ายรูป เขาว่า ตม. HKG เข้มมากลุ้นเลยครับ จะได้เข้าบ้านเขาหรือปล่าว
ปรากฎว่าง่ายกว่าที่จินตนาการไว้เยอะครับ ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาที ก็เดินไปรับกระเป๋าได้เลยครับ
พร้อมไปรับตัว AE Travel Pass ที่จองล่วงหน้าทาง Internet มาครับ ขอบอกว่าคุ้มมากครับ
ราคาเต็ม 220 HKD จองล่วงหน้าผ่าน Internet ได้ส่วนลด 5% เหลือแค่ 209 HKD ได้เงินคืนอีก 50 HKD
คิดแล้วเหลือแค่ 159 HKD ได้ขึ้นรถ Airport Express 1 เที่ยว ขึ้นรถ MRT ได้ไม่จำกัด 72 ชั่วโมงนับจากครั้งแรกที่ใช้งานครับ
ปกติค่าตั๋ว AE ต่อคนถ้าลงที่ Kowloon ก็ 90 HKD ลงที่ Hong Kong ก็ 100 HKD ต่อคนต่อเที่ยว
คิดแล้วยังไงก็เกินคุ้มครับ แถมยังเติมเงินใช้ซื้อของจาก 7-11 หรือร้านค้าที่รับบัตร Octopus ได้อีกครับ -11
ปล.ช่วงนี้รีบๆ ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปประกอบตอนรับบัตรนะครับ ตัดมาที่ขึ้นรถ AE เลยก็แล้วกันครับ
-
ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็มาถึงสถานี Kowloon ครับลงรถเดินไปทางซ้ายมือก็เรียก TAXI ไปโรงแรมกันได้เลยครับ
มาที่นี่ต้องใช้ให้ครบๆ ครับทั้งรถเมล์ TAXI รถไฟฟ้า ครับ งั้นจะบอกใครไม่ได้ว่ามาถึงฮ่องกงครับ
TAXI ที่นี่ซิ่งมากครับ มากกว่าบ้านเราอีกครับ ยิ่งรถเมล์นี่สุดๆ ไปเลยครับเดี๋ยวมีคลิปประกอบครับ
ตัดภาพมาที่โรงแรมเลยนะครับ ผมพักที่ Langham Place Mongkok ครับ
ห้องพักกว้าง วิวมุมสูงสวยมากครับ
-
มุมสูงจากห้องพักครับ
-
พักผ่อนหย่อนขากันสักนิด แล้วก็ออกไปลุยกันครับ วันแรกแรงยังดีไม่มีตกแบกกล้องสองตัวสบายมากครับ
ซื้อ Sim Card ใหม่ครับ เปิดใช้ Internet แบบเหมา 7 วัน 78 HKD แล้วก็ไปลุยกันครับ
ช่วงนี้เพื่อความสะดวกใช้มือถือถ่ายไปก่อนละครับ เนียนดีครับ
-
โปรแกรมวันแรก ไปดู SOL เดินเที่ยว Harbour City ครับ
รูปนี้จาก Toy R Us ครับ
-
สวรรค์ของคนเล่น Lego และ Gunpla เลยล่ะครับ ราคาดีเชียวครับขนาดในห้างนะครับ
ว่าแต่ว่าเราจะขนกลับไงหว่า -08
*** รูปยังไม่ค่อยชัดเช่นเคยครับใช้กล้องมือถือถ่ายนะครับ
-
Shop NB กำลังจะมาเปิดที่นี่เร็วๆ นี้ มาเร็วไปหน่อยครับ -06
ส่วนรูปรองเท้าที่เห็นจาก Giga Sport ใกล้ๆ กับที่ Shop NB จะมาเปิดครับ
-
ได้เวลา SOL ไปรอดูกันดีกว่าครับ เริ่มหิวขึ้นมานิดๆ เลยจัดไอติมสักหน่อย
แถมด้วยทาร์ตไข่จากร้านชื่อดัง Tai Chong Bakery ที่มาเปิดอยู่ตรงทางไปท่าเรือ Harbour City ครับ
-
ต่อกันด้วยภาพระหว่างรอดู SOL กันเลยนะครับ
-
งานนี้ต้องขอบใจเพื่อนเนินไม่เกินห้าบรรทัด ที่เคยให้คำแนะนำว่าหัดพกขาตั้งกล้องไปด้วยเวลาถ่ายภาพกลางคืน
ได้ใช้ขาตั้งกล้องเล็กๆ จาก Dai-So กับกล้อง Nex พกสบายเต็มที่ก็คราวนี้แหละครับ -0029
-
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มองไปเห็นคนกลุ่มนี้เข้าพอดีเลยตีเนียนเข้าไปถ่ายรูปกับเขาบ้างดีกว่าครับ
-
แล้วก็กลับมารอกันต่อไปครับ
-
รอไปเรื่อยๆ ชักเมื่อย ก็เลยออกเดินเปลี่ยนที่กันดีกว่าครับ
-
รอนานมากๆ ครับ เลยเวลาที่ว่าปกติจะแสดงกันตอนสองทุ่ม คิดว่าไม่ไหวล่ะ เริ่มหิวเลยตัดใจเดินกลับไปหาอะไรกินดีกว่า
-
ปรากฎว่าไม่ใช่แค่เราครับที่เดินกลับคนอื่นก็เริ่มกลับเหมือนกันครับ
-
มื้อเย็น ผบ. เลือกครับ ร้าน Jade Garden อาคาร Star House เข้าไปสั่งแบบมึนๆ ครับ
ดูจากเวปไปว่าเป็นร้านขายติ่มซำ ไปถึงกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้แถมเจอค่าเสียหายแบบโหดมากครับ 240 HKD -0051
-
ปิดเกมส์วันแรกด้วยการไปเดินเล่นซื้อของที่ย่าน Mongkok ต่อครับ
-
ส่งท้ายเข้านอนวันแรกบนแผ่นดินฮ่องกงด้วยวิวกลางคืนจากหน้าต่างห้องพักครับ -0025
-
หลับสนิทยันเช้าเลยครับ -0025
-
14 เมษายน 2556
Good Morning Hong Kong ตื่นค่อนข้างสายกันเลยครับสำหรับเช้าแรกบนฮ่องกง
-
สายแล้วก็จริง แต่หมอกยังคลุมอยู่เลยครับ ชีวิตคนที่นี่เริ่มกันค่อนข้างสายอยู่ครับ
-
มื้อเช้ากันที่ Sea View Congee ร้านโจ๊กย่าน Mongkok ขวัญใจชาวไทยครับ
-
กินกันไปเริ่มมีภาษาคุ้นหูเข้ามาเรื่อยๆ ครับ เจอเพื่อนคนไทยแวะมาชิมกันเยอะพอควรเลยครับ
อาหารอร่อย ดนตรีไม่มีให้ฟัง รสชาติถูกปาก ค่าเสียหายไม่แรงหมดไป 138 HKD ครับ
-
วันที่สองนี้ตั้งใจเป็นทัวร์ไหว้พระครับ งานนี้เริ่มจากวัดกังหันกันก่อนเลยครับ
อิ่มแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลยครับ
ลงรถกันที่สถานีแชกุง เดินออกมาข้างนอกกำลังงงๆ กับทิศทางอยู่ก็ได้อาซิ่มใจดีช่วยชี้ทางให้ครับ
คงเพราะแกได้ยินพวกผมคุยกันว่าแชกุงๆ แกเลยช่วยบอกทางว่าต้องไปตามทางในรูปนี้ครับ
ลืมขอถ่ายรูปแกมาด้วยซ่ะงั้น :smile6:
-
เดินเล่นเรื่อยเปื่อยมาเรื่อยๆ ถ่ายรูปสองข้างทางไป ถือเป็นการลองกล้องใหม่ไปด้วยในตัวครับ
เดินพอเหงื่อซึมๆ อยู่เหมือนกันครับ โชคดีที่ตลอดเวลาที่ไปอากาศดีครับ ไม่ร้อน ไม่มีฝนด้วย
-
-0027 เห็นกำแพงสีแดงๆ ถึงแล้วครับ
-
วัดแชกุง หรือวัดกังหัน ..... จะมีพร 4 ประการ เหมือนกับใบพัดของกังหัน ที่มี 4 ใบ คือ
1. สุขภาพ ร่างกาย แข็งแรง
2. เดินทาง ไปไหน มาไหน ปลอดภัย
3. หน้าที่ การงาน กิจการ การค้า ให้เฮงๆ รวยๆ เงินทอง ไหลมา เทมา
4. คิดสิ่งใด ก็ให้สมความปรารถนา
-
รูปชุดแรกเข้าใจว่าเป็นด้านหน้า แต่จริงๆ ด้านหน้าต้องเป็นทางนี้ครับ
-
วัดกังหัน หรือวัดแชกงหมิว ฮ่องกง : Che Kung Temple Hongkong พัดแต่สิ่งดีๆเข้ามาพาสิ่งไม่ดีออกไป
"วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม ถูกกล่าวขานให้เป็นปลายทางของ การแก้ชงตามความเชื่อที่ว่า การหมุนกังหันกลับทิศ จะช่วยหมุนชีวิตพลิกผันจากร้ายกลายเป็นดีได้และการเริ่มต้นปีใหม่ หลังวันตรุษจีน จะต้องมีการแก้เคล็ดที่นี่ โดยกังหันลมจะพาชีวิตราบรื่นล้อลมและธุรกิจเงินทองวิ่งฉิว เหมือนกังหันลู่ลม"
ตำนานของ แชกงหมิว (หมิวคือกังหัน) ศาลสถิตของเทพเจ้าแชกง ที่มีประวัติเล่าต่อกันมาว่า อดีตท่านเป็นนายพลแชกง ในสมัยราชวงศ์ซ่งของจีน และเป็นนายพลที่คุ้มครองให้ฮ่องเต้ราชวงศ์นี้อยู่รอดปลอดภัย
และมีเรื่องเล่าว่า เคยมีโจรสลัดจะยกทัพมาปล้น "หมู่บ้านซ่าถิ่น" ลูกบ้านแตกตื่นอพยพขนข้าวของหนีหมด แต่มีหญิงคนหนึ่งกำลังจะพาลูกหนีเช่นกัน ระหว่างทางเธอพบกับชายชราเคราขาวยาวเฟื้อย ลักษณะน่าเกรงขาม ถามไถ่เรื่องราวกับเธอ และชายชราคนนั้นบอกให้หญิงคนนั้นกลับไปยังหมู่บ้านและพับกังหันลมกระดาษ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และเสียบไว้หน้าหมู่บ้าน ต่อมา โจรสลัดก็ยกพลผ่านหมู่บ้านนั้นไป ไม่มีการปล้นสะดม ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่า ชายชราคนนั้นคือ นายพลแชกง และหมู่บ้านนั้นต่อมา ก็ตั้งวัดกังหันลมนี้เอง
-
ตำนานการเป็นนายพลของท่านแชกง เกี่ยวเนื่องมาถึงความเชื่อเมื่อ 300 กว่าปีที่แล้วเดิมทีวัดนี้เป็นวัดเล็ก ๆ เป็นวัดที่เก่าแก่และอนุรักษ์โบราณสถานซึ่งอยู่ทางด้านหลังของเรือนใหม่ วัดเรือนใหม่สร้างเสร็จในปี 1993 บนเนื้อที่ 50,000 ตารางฟุต ในธรรมเนียมการไหว้เทพเจ้าองค์นี้ นั่นคือ เมื่อเข้าไปในศาล (ห้ามถ่ายรูปทุกแบบ) และยืนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นขนาดมหึมาของท่านแชกงแล้ว ต้องอธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน อย่างมุ่งมั่น จากนั้น จึงไปทำพิธี "หมุนกังหันแห่งโชคชะตา" หรือที่เรียกว่า "กังหันนำโชค" โดยหลักการที่ถูกบอกต่อ คือ "มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ส่วนถ้าดีอยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย เมื่อหมุนกังหันเสร็จแล้ว ต้องไปลั่นกลองที่อยู่ด้านหลัง 8-9 ครั้ง เพื่อเป็นการบอกกล่าวกับเทพเจ้าว่ามีคนมาเคารพบูชา การลั่นกลอง เป็นธรรมเนียมรับต่อมาจากนักรบ ที่จะลั่นกลองรบเมื่อประสบชัยชนะหลังออกศึกนั่นเอง
การเดินทางไปสักการะวัดกังหัน
เริ่มจาก Tsim Sha Tsui ไปขึ้นรถไฟฟ้า KCR สายสีฟ้าอ่อน (East Tsim Sha Tsui) ต้นสายเลย เมื่อถึงสถานี Tai Wai ลงรถได้ค่ะ แต่หากเริ่มจากที่อื่น แนะนำให้นั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียว ไปต่อรถที่ Kowloon Tong เพื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้า KCR เพียงป้ายเดียวก็ถึงสถานี Tai Wai หาทางออก B เพื่อไป Che Kung Temple (แชกงหมิว) จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ
เปิด 7.00 เช้าถึง 6.00 เย็น ครับ
ขอบคุณที่มา http://www.tinyzone.tv/TravelDetail.aspx?ctpostid=902 ครับ
-
วัดนี้เป็นที่นิยมของคนไทยมากครับ ระหว่างที่ไหว้และเดินชมวัดอยู่ก็มีคนไทยมากันไม่ขาดสายครับ
เจ้าหน้าที่ดูแลของวัดเองก็พูดไทยกันได้หลายคนเลยครับ
-
ออกจากวัดกังหันมุ่งหน้าไปวัดซิกซิกหยวนหว่องไทซินกันต่อครับ
เดินออกมาเห็นสถานี Tai Wai อยู่ใกล้กว่าเดินย้อนกลับไปทางเดิมเลยไปขึ้น MRT ที่นี่แทนดีกว่าครับ
สายแล้วคนเริ่มเยอะพอประมาณเลยครับ
-
ลงรถกันที่สถานี Wong Tai Sin ครับเดินขึ้นมาก็เจอเข้ากับประตูทางเข้าวัดเลยครับ
-
วัดซิกซิกหยวนหว่องไท่ซิน
คำกล่าวที่ว่าวัดหยวนไทซินสามารถทำให้ความปรารถนาของทุกคนเป็นจริงตามที่ขอ อาจมีที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาของผู้ที่เข้ามาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้เป็นจำนวนมหาศาลก็เป็นได้ วัดนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก 3 ศาสนา (ลัทธิเต๋า ศาสนาพุทธ และลัทธิขงจื้อ) โดยมีตัวอาคารต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างปราณีตสวยงามจนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญ
วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระสงฆ์ที่มีชื่อเสียงในอดีตกาล หลวงพ่อหว่องไทซิน (หรือที่
เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าฮวงชูปิง) ซึ่งเกิดในศตวรรษที่ 4 และกลายเป็นเทพที่เขาเหิงซาน (เขา
สนแดง) ในปี 1915 นักพรตลัทธิเต๋าเหลียงเหรินอันได้นำภาพอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ
หว่องไทซิน เดินทางจากกว่างตงทางตอนใต้ของประเทศจีนมายังฮ่องกง ปัจจุบัน
วัดหว่องไทซินเก็บรักษาภาพวาดอันลำค่านี้ไว้ ทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับให้ผู้เลื่อมใสศรัทธา
ได้สวดมนต์เพื่อขอโชคลาภและคำทำนายจากเหล่าทวยเทพ
ผู้ที่ศึกษาเรื่องฮวงจุ้ยอาจสังเกตเห็นโครงสร้างต่างๆ ที่เป็นตัวแทนของธาตุแห่งการพยากรณ์ทั้งห้า ได้แก่ ศาลาสำริด (โลหะ), หอเก็บคัมภีร์ (ไม้) น้ำพุ Yuk Yik (น้ำ), ศาลเจ้า Yue Heung (ไฟ) ซึ่งเป็นที่บูุชาพระพุทธรูปที่ถือตะเกียงแห่งแสงสว่าง และกำแพงดิน (ดิน) ส่วนจุดสนใจอื่นๆภายในบริเวณวัดแห่งนี้ ก็ได้แก่ ศาลา 3 เทพ, ศาลาขงจื้อ และสวนพรอันประเสริฐที่โอ่อ่าและสีสันสดใส โดยตกแต่งอย่างหรูหราด้วยศิลปะลวดลายจีน
Source: http://www.discoverhongkong.com/th/see-do/culture-heritage/chinese-temples/sik-sik-yuen-wong-tai-sin-temple.jsp#ixzz2SP6ztc38
-
รอบนี้เจอกรุ๊ปทัวร์จากแผ่นดินใหญ่ครับ เยอะมว๊าก ต้องคอยหลบๆ หามุมถ่ายไปเรื่อยๆ ครับ
-
พอจะชิงจังหวะถ่ายแบบไม่ติดคนมาด้วยได้ประมาณนี้แหละครับ -32
-
บางจุดเขาก็ห้ามคนเข้าไปอยู่ด้วยนะครับ -0019
-
ออกจาก wong tai sin คราวนี้มุ่งหน้าข้ามไปยังเกาะ Hong Kong เพื่อไปไหว้เจ้าแม่กวนอิม และ เจ้าแม่ทับทิม แห่ง Repulse Bay กันครับ
-
เริ่มต้นกันที่สถานี wong tai sin เปลี่ยนขบวนรถอีกครั้งไปจบที่สถานี Central
เดินไปขึ้นรถบัสสายตระกูล 6 กันต่อที่อาคาร Exchange Square เพื่อจะไป Repulse Bay
ผมเลือกสาย 260 ซึ่งจะลอดอุโมงค์ทะลุภูเขาไปย่นเวลาเดินทางเหลือเพียงประมาณ 15 นาทีครับ
-
http://www.youtube.com/v/AXaeueCP0iw
ลองถ่าย Vdo มากับเขาสักหน่อยครับ
-
นั่งถ่ายรูปไปเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงครับ รถเมล์ที่นี่สะดวกดีครับ มีป้ายไฟ LED วิ่งบอกว่าป้ายต่อไปที่ไหนเรียบร้อยครับ
-
ลงกันที่ป้ายหน้าตึกนี้เลยนะครับ ตึกที่มีช่องลอดของมังกรนี่เลยครับ
เดินข้ามถนนลงบันไดไปก็จะเจอหาดทรายขาวๆ ที่ชื่อ Repulse Bay เลยครับ
-
วันที่ไปนี่โชคดีมากเลยครับเขากำลังแข่งเรือมังกรกันอยู่พอดีเลยครับ
-
ถือโอกาสเก็บภาพบรรยากาศการแข่งมาฝากเพื่อนๆ ไปด้วยเลยก็แล้วกันครับ
http://www.youtube.com/v/dKZmMVP7dPc?hl=th_TH&version=3&rel=0
คุณพี่ในรูปสุดท้ายนี่แกได้เหรียญมาเพียบจนอยากเดินเข้าไปขอถ่ายรูปกับแกซ่ะจริงๆ เลยครับ
-
เดินเรื่อยๆ สบายๆ มาตามทางครับสักพักก็จะมาถึงเจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม แห่งหาด Repulse Bay ครับ
ที่นี่เป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นที่นิยมของชาวไทยครับ สังเกตุได้จากจะมีภาษาไทยประกอบการไหว้เป็นระยะๆ ครับ -0019
-
สัญญาว่าจะมาต่อให้จบครับ ช่วงที่ผ่านมางานเข้าเล็กน้อยวุ่นๆ ตลอดเลยครับ -0023
เอารูปบรรยากาศรอบๆ มาให้ชมไปก่อนนะครับ 023
-
ขอบพระคุณครับ คุณเก่ง ที่เป็นไกด์พาผมเที่ยวฮ่องกงทางหน้าเว็บนี้ -0023
ชาตินี้ถ้ามีโอกาสกับเขาสักครั้งผมจะเดินตามทางสายสำราญที่ชี้แนะไว้ครับ -0079
อ้อ ผมขอรบกวนอีกหน่อยครับ ไม่ทราบว่าคุณเก่งมีภาพชั้นวางเหล้ามุมอื่นๆในคิงส์เพาเวอร์ดิวตี้ฟรีอีกบ้างมั๊ยครับนอกเหนือจากสองภาพแรกที่โพสต์ไว้
ผมอยากเห็นสินค้าที่เขามีนะครับ จะได้ส่องเป้าเมื่อมีโอกาสเหมาะๆครับ -0052
จากสองภาพแรกที่คุณเก่งโพสต์ไว้ ปลายเดือนพค.ที่ผ่านมาผมฝากหลานสอยมาแล้ว 3 ขวดฮ้าบ อิอิ -0071
-
ขอบพระคุณครับ คุณเก่ง ที่เป็นไกด์พาผมเที่ยวฮ่องกงทางหน้าเว็บนี้ -0023
ชาตินี้ถ้ามีโอกาสกับเขาสักครั้งผมจะเดินตามทางสายสำราญที่ชี้แนะไว้ครับ -0079
อ้อ ผมขอรบกวนอีกหน่อยครับ ไม่ทราบว่าคุณเก่งมีภาพชั้นวางเหล้ามุมอื่นๆในคิงส์เพาเวอร์ดิวตี้ฟรีอีกบ้างมั๊ยครับนอกเหนือจากสองภาพแรกที่โพสต์ไว้
ผมอยากเห็นสินค้าที่เขามีนะครับ จะได้ส่องเป้าเมื่อมีโอกาสเหมาะๆครับ -0052
จากสองภาพแรกที่คุณเก่งโพสต์ไว้ ปลายเดือนพค.ที่ผ่านมาผมฝากหลานสอยมาแล้ว 3 ขวดฮ้าบ อิอิ -0071
ขอบคุณครับคุณ wuth ที่ติดตามอ่าน ส่วนภาพเหล้าจาก Duty Free นี่ผมมีแค่นั้นเองครับ
ไม่กล้าถ่ายมาเยอะครับ กลัวว่าเขาไม่ให้ถ่ายครับ แอบๆ ถ่ายเอาครับ
เกรงว่าถ้าเขาเห็นจังๆ แล้วบังคับให้ลบนี่จะไม่เหลือติดกล้องมาเลยเอาได้ครับ
จะพยายามเขียนต่อให้จบนะครับ เรื่อยเปื่อยไปตามประสานะครับ :smile6:
-
ต่อเลยนะครับ ผมใช้เวลาอยู่ที่นี่ค่อนข้างจะนานทีเดียวครับ ลมเย็นๆ และมีการแข่งเรือด้วยเพลินเลยครับ
โปรดสังเกตรอยปื้นดำๆ ตามรูปปั้นต่างๆ นะครับ เกิดจากฝีมือการลูบของนักท่องเที่ยวชาวไทย และพี่จีนครับ
เดินผ่านรูปปั้นไหนเป็นลูบตลอดทางครับ รูปปั้นแทบทุกองค์นี่มันแผล่บด้วยฝีมือการลูบของเราท่านทั้งหลายนี่แหละครับ -0003
-
ไปที่นี่นอกจากไปสักการะองค์เจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิมแล้วต้องไม่ลืมไปลูบขอทุนจากองค์ไฉ้ซิ่งเอี้ยด้วยนะครับ
สำหรับองค์ไฉ้ซิ่งเอี้ยนี่จะตั้งอยู่ด้านหน้าขององค์เจ้าแม่กวนอิมครับ
วิธีลูบให้เตรียมธนบัตรไปให้เรียบร้อย ไหว้ขอทุนจากท่าน แล้วเอาธนบัตรลูบองค์ท่านจากศรีษะถึงปลายเท้าแล้วเก็บเข้ากระเป๋าครับ
จากนั้นให้ไปลูบก้อนทองที่อยู่ด้านข้างของท่านเข้าใส่กระเป๋า จะใบเล็กหรือใหญ่ก็ตามสะดวกครับ
ธนบัตรก็แล้วแต่ครับจะใบเล็กใบใหญ่ไม่ว่ากัน
ส่วนของผมที่เตรียมไปนี่เป็นสีแดง(จะถูกจะแพงเอาแดงไว้ก่อนครับ)พับเตรียมจากบ้านไปเรียบร้อยครับ
วิธีพับตามไปดูตามนี้ได้เลยครับ http://www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=10444.0
-
ที่นี่มีมุมถ่ายภาพสวยๆ ค่อนข้างเยอะเลยครับ ก็เลยใช้เวลาค่อนข้างจะนานหน่อยครับ
บริเวณไม่กว้างมากนะครับ แต่มุมถ่ายรูปเพียบเลยครับ
-
ก็ถือโอกาสลองกล้องลองเลนส์ไปด้วยในตัวครับ ฝีมือไม่ค่อยให้แต่ใจรักครับ คงไม่ว่ากันนะครับ -0027
ภาพสวยก็ว่ากล้องดีก็แล้วกันครับ ภาพไหนไม่สวยคงต้องโทษคนถ่ายว่ามือไม่ถึงครับ -0023
-
ประวัติและความเป็นมาของที่นี่ครับ ไม่รู้ว่าจะชัดพออ่านได้หรือปล่าวนะครับ -0019
อ่านจบนี่ผมว่าฮ่องกงเขาเข้าใจสร้างจุดขายครับ เข้าสามารถพัฒนาจากไม่มีอะไรมากมายจนกลายเป็นจุดขายได้
ต้องยอมรับเรื่องการตลาดเขาจริงๆ ครับ -11
-
ว่าแล้วเราก็ไปเดินข้ามสะพานต่ออายุกันดีกว่าครับ ว่ากันว่าข้ามหนึ่งครั้งทำให้อายุยืนไปอีกหนึ่งปี
มีข้อแม้ว่าห้ามข้ามกลับมานะครับ จะมีทางเดินวนให้กลับมาอยู่ด้านข้างๆ ครับ
ชายหาดบ้านเขาน้ำใส และสะอาดดีจริงๆ ครับ -23
-
ใครที่ยังไม่มีคู่ หรือแอบรักใครอยู่ก็มานั่งอธิฐานขอพรได้จากเทพแห่งความรักท่านได้เลยนะครับ
หรือว่าถ้ามาเป็นคู่ก็มานั่งคู่กันอธิฐานให้สมหวังในความรักกันได้เลยครับ
-
ส่วนเรื่องเงินทองก็มาขอจากแพะ(หรือว่าแกะนะ)ทั้งสามนี้ได้เลยครับ
-
ส่วนใครที่อยากเสี่ยงทายเรื่องประสบความสำเร็จในเรื่องที่ปรารถนา ก็มาโยนเหรียญเข้าปากปลามังกรตัวนี้ได้เลยครับ
ผมลองอยู่หลายครั้งกว่าจะลงครับ ลูกสาวผมก็เสี่ยงทายโยนกับเขาด้วยเหมือนกันครับ ลงอยู่ครับหลังจากโยนไปหลายรอบ
วันที่ไปก็มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย-จีน-ญี่ปุ่น ผลัดกันโยนอย่างสนุกสนานครับ บางคนโยนจนท้อเลิกโยนไปเลยก็มีครับ 555
-
คืนนี้ลากันด้วยภาพบรรยากาศแข่งเรือก็แล้วกันครับ จะพยายามเข้ามาเล่าต่อให้จบนะครับ -08
-
http://www.youtube.com/v/Z5kF2YkqRJQ?rel=0
แถมด้วย VDO ขากลับครับทางก็แคบ รถเมล์ก็ขับได้มันส์จริงไรจริงครับ -0041
-
พักผ่อนหย่อนใจได้พอควรก็ได้เวลากลับนั่งรถเมล์สายเก่าย้อนกลับมาที่ตึก Exchange Square ครับ
มุ่งหน้าไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันดีกว่าครับ เป้าหมายวันนี้อยู่ที่ Tim Ho Wan ร้านติ่มซำเจ้าอร่อยที่ IFC Mall ครับ
ขอแนบเป็นแผนที่ฉบับ PDF ที่หาข้อมูลมาให้กับเพื่อนๆ ไปด้วยนะครับ
สำหรับที่นี่บอกได้เลยครับว่า อาหารอร่อย รสชาติดี ราคาไม่แพงครับ เดินตามแผนที่ได้เลยครับ
ของอร่อยขึ้นชื่อของที่นี่ก็ต้อง ซาลาเปาหมูแดงครับ อันนี้อร่อยจริงๆ ครับ
ต่อด้วยซี่โครงหมูอบเต้าซี่ อันนี้ก็อร่อยครับ
-
ต่อด้วยฮะเก๋า เซี่ยวหลงเปา ขนมจีบกุ้ง ตีนไก่ตุ๋น และก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง สั่งเลยอร่อยทุกอย่าง -0005
-
ค่าเสียหายรวมสำหรับมื้อนี้หมดไป 190 HKD ครับ อร่อยสุดคุ้มจริงๆ ครับ
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ Garrett Popcorn ตามความต้องการของ ผบ. ครับ
-
จากนั้นก็เข้าไปเดินเล่นกันใน City Super ที่อยู่ติดๆ กันครับ
ราคาน้ำเมา กับของที่มีขายใน Super ใหญ่ๆ ที่นี่น่าจะถูกใจเพื่อนๆ จากห้องมักเหล้าคลับมิใช่น้อยครับ
ปล. น้ำที่เขาว่าแพงๆ เพราะซื้อจาก 7-11 ครับ ถ้าซื้อจาก Super ราคาก็พอๆ กับบ้านเราเลยครับ -0019
แนะนำว่ามาเที่ยวที่นี่ควรมีเป้สะพายหลัง และติดน้ำไว้อย่างน้อย 1 ขวดครับ เพราะการเดินทางส่วนใหญ่ต้องเดินๆๆ แล้วก็เดินครับ
-
จาก IFC Mall ดูเวลายังพอเหลือๆ เลยไปต่อกันที่ย่าน Causeway Bay ครับ หาข้อมูลมาว่ามี Bandai Theme Park อยู่
ก็เลยว่าจะพาลูกสาวไปดูของเล่นอะไรสักหน่อย มุ่งหน้าลงรถไฟฟ้า จาก Central ไป Causeway Bay
งานนี้มี Accident เล็กน้อยครับ ด้วยความที่ชานชาลามีหลายชั้นทำให้งงๆ ครับผมพานำเดินขึ้นรถไฟผิดขบวนซ่ะงั้น -22
โชคดีที่ตั๋วที่ใช้เป็นแบบไม่จำกัด และบังเอิญว่ามีธุระต้องไปซื้อของที่สถานีถัดไปพอดีก็เลย ลงไปซื้อของกันก่อนครับ :smile6:
งานนี้ทั้ง ผบ. กับลูกสาว แซวไม่เลิกเลยครับ -0013
ไปถึงค่อนข้างผิดหวังครับเพราะมีแต่ตู้หยอดไข่ กับตู้เกมส์จับตุ๊กตาครับ ไม่มีของเล่นขาย -07
ปล่อยให้ลูกสาวเล่นเต็มที่ สุดท้ายได้ภาพประกอบกับมาแค่นี้เองครับ เดินขาลาก -0036
ปิดเกมส์วันที่สองเพียงแค่นี้ครับ ถึงโรงแรมอาบน้ำเสร็จสลบเหมือด -0025
-
วันที่สาม 15 เมษายน 2556
วันนี้ตามโปรแกรมตั้งใจว่าจะไป Shopping กันที่ Citygate Outlet และไปต่อกันที่ Disney's Land ครับ
แต่สุดท้ายด้วยความที่ตื่นสาย และเห็นว่ายังเดินเล่นฝั่ง Hong Kong ยังหมด
ก็เลยสรุปกันว่า ไป Citygate Outlet แล้วกลับไปเก็บตกฝั่ง Hong Kong กันอีกรอบดีกว่าครับ
ว่าแล้วก็เริ่มเดินทางกันดีกว่าครับ มือเช้าแบบง่ายๆ ที่ห้าง Langham Place ติดโรงแรม
วันนี้จากประสบการณ์สองวันแรกเลิกพกกล้องสองตัว หนีบ Nex-6 กับ Lens แถมพ่วงด้วยกล้องมือถือก็น่าจะพอครับ
ด้วยความล้าจากเมื่อวานมื้อเช้าไม่ได้ถ่ายซ่ะงั้นครับ
ประเดิมด้วยความอยากไปซื้อ Lens Nex อีกสักตัวแต่เป็น Lens นอกค่ายจาก Sigma 30mm. F2.8 ครับ
เขาว่าเลนส์ตัวนี้คมทุกช่วง แต่โฟกัสช้า ผมว่าไม่ช้านะครับ แต่ยอมรับในความคมจริงๆ ครับ
-
ไปถึง Citygate Outlet ค่อนข้างสายครับ แต่ก็ยังจัดว่าเช้าเพราะห้างเพิ่งเปิดครับ คนเลยดูโล่งๆ พอควรครับ
-
เก็บภาพเรื่อยเปื่อยไปตามประสาถือโอกาสลองกล้อง ลองเลนส์ไปด้วยในตัวครับ
-
สำหรับ Citygate outlet ถือเป็นห้างนอกเมืองนะครับ อยู่ใกล้ทางขึ้นกระเช้านองปิง พอมองเห็นได้จากห้างครับ
และไม่ไกลจากสนามบินฮ่องกงครับ วิธีเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถไฟฟ้าครับถ้านั่งมาจากจิมซาโจ่ยก็ประมาณร่วมๆ ชั่วโมงได้ครับ
เรียกว่านั่งซ่ะคุ้มเลยครับเพราะรถไฟฟ้าจะมาสุดสายที่ห้างพอดีครับ
-
ชาวฮ่องกงจริงเขาค่อนข้างจะชิวครับนั่งเล่นฟังเพลงกันไปตามมุมต่างๆ ของห้างครับ
คนท้องถิ่นที่นี่เขาเดินกันค่อนข้างจะเร็ว มือกดมือถือฟังเพลง ดูหนัง ส่ง line กันอย่างหนุกหนานครับ
-
พอเริ่มสายหน่อยคนเริ่มเยอะครับ มาจากไหนกันก็ไม่รู้เต็มไปหมดครับ
สำเนียงภาษาคุ้นเคยเริ่มมาให้ได้ยินจนบางทีอดคิดไม่ได้ว่านี่เราอยู่ห้าง Outlet ในเมืองไทยหรือปล่าวหว่า ????
-
ทิ้งท้ายคืนนี้ด้วยภาพบรรยากาศจาก Citygate Outlet ครับ
จริงๆ ที่นี่มี Super ที่ค่อนข้างใหญ่ด้วยเหมือนกันครับ เสียดายที่ไม่ได้ลงไปสำรวจครับ เพราะจำกัดเรื่องเวลา
สำหรับราคาของบางอย่างถูกครับ บางอย่างก็ยังแพงกว่า Kowloon และฝั่ง Hong Kong ครับ
-
ออกจาก Citygate Outlet มุ่งหน้ากลับไปเกาะ Hong Kong นั่งรถไฟใต้ดินต่อเดียวรวดครับ
ไปลงที่สถานี Hong Kong ตึก IFC Mall ครับ ช่วงนี้ภาพประกอบขาดหายเนื่องจากนั่งรถไฟค่อนข้างนานมากครับ
จากต้นสายไปลงสุดสาย นั่งไปหลับไปตื่นมาก็เบลอๆ ครับ สุดท้ายนั่งรถต่อเนื่องไปจนถึงย่าน Causeway Bay
แล้วก็ไปเดินเล่นกันที่ UML Hobby ที่นี่ของเล่นเยอะทีเดียวครับ ราคาน่าต้อนกลับเมืองไทยมากเลยครับ
สุดท้ายไปแต่เดินดูเพราะลานตาไปหมดเลยครับ อีกอย่างเขาไม่ให้ถ่ายรูปด้วยครับ
สำหรับ UML Hobby นี่ยังมีอีกสาขาอยู่ที่ย่าน Mongkok ด้วยนะครับ ราคาค่อนข้างดีถ้าเทียบกับที่ Toy R us ครับ
รูปประกอบขอใช้รูปจาก Toy R us แทนนะครับ ที่นี่ให้ถ่ายรูปตามสะดวกได้เลยครับ
-
ปล่อย ผบ. Shopping อยู่ที่ Time Square ส่วนกับลูกสาวเดินไปดูของที่ UML Hobby
ขากลับเดินผ่าน The Lee Garden Plaza เจอกับงานโปรโมท Iron Man 3 เข้าพอดี
เลยถือโอกาสเข้าไปพักขานั่งเล่นถ่ายรูปด้านในเลยดีกว่าครับ
รูปสุดท้ายแถมสาวฮ่องกงครับพอดีเขายืนโพสท่าอยู่นาน เลยเนียนเก็บภาพเขามาฝากเพื่อนๆ ด้วยซ่ะเลย อิๆ
-
ตัวงานจัดได้ค่อนข้างดีครับ ด้านบนจะเป็น Fan Fig ครับ มีการแสดงหุ่น Iron Man ที่แฟนๆ สร้างขึ้นมาเอง
ส่วนด้านล่างจัดไปห้องแสดงหุ่นที่ใช้ในหนังครับ ไปนั่งพักขาด้านบนก่อนเพราะด้านล่างคนเยอะมว๊าก ยังไม่อยากเบียดเข้าไปเก็บภาพครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ถ่ายละ ปล่อยลูกสาวถ่ายให้เต็มที่ เก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ ดีกว่า 555
-
สุดท้ายหลังจากนั่งพักขาไปสักพักเริ่มมีเรี่ยวแรงลุกไปดู อู้วววว ไม่ถ่ายเสียดายแย่
เลยเก็บภาพกับมาได้ประมาณนี้เองครับ ไม่สวยไม่ชัดขออภัยกันไว้ก่อนนะครับ -0023
-
คนทำเขาตั้งใจทำมากเลยครับ รายละเอียดต่างๆ เก็บงานได้เนียนจริงๆ เลยครับ -11
-
ถือโอกาสทดสอบเลนส์ sigma 30mm. F2.8 EX DN E เมื่อเช้าไปด้วยในตัวครับ
รวมๆ สำหรับผมถือว่าพอใจครับ เพราะผมตั้งโฟกัสไว้ที่จุดเดียว ทำให้โฟกัสได้ค่อนข้างไว ไม่ช้าเหมือนกับที่อ่านรีวิวจากเวปครับ
ตอบสนองความต้องการได้ดีเชียวครับ
-
พักพอหายเหนื่อย และถ่ายรูปจนพอใจก็ได้เวลาวนกลับมาด้านล่างกันบ้างดีกว่าครับ
ส่วนนี้เป็นหุ่นที่ใช้งานในหนังมากันครบทุกตัวเลยครับ คนก็เริ่มซาๆ ลงไปบ้างแล้วครับ
-
ยอมรับว่าพลาดครับที่วันนี้ไม่ได้พกเลนส์ 16 มม. + wide converter มาด้วยใช้โหมด parnonama ของกล้องก็ไม่รอดครับ
ไม่กล้าเอามาโชว์เลย -09 พอจะดูได้ก็รูปนี้รูปเดียวเลยครับ :cry2:
-
มีโชว์เกมส์จากหนังด้วยครับ จีนมุงตรึมเลยครับ สุดท้ายโดนหนุ่มจีนเหล่ด้วยเข้าใจว่าไปแอบถ่ายแฟนเขามั้ง ดีที่มีลูกสาวไปด้วยเลยรอดตัวครับ :smile6:
-
เดินวนๆ เข้าไปเก็บภาพงานกันดีกว่าครับ ตอนลงบันไดเลื่อนมาคนยังไม่เยอะ
พอลงมาข้างล่างไหงคนมาจากไหนก็ไม่รู้เต็มไปหมดครับ ????
-
แนว SD ก็มีครับ สำหรับหุ่นพวกนี้มีขายหลังจากหนังออกฉายนะครับ
ราคานี่แรงใช้ได้เลยครับ ของมีหลายเกรดครับ ที่ UML Hobby ที่ไปเดินดูของก็มีเปิดให้จองแล้ว
ยังมีพวก Avenger กับจากหนังดังเรื่องอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะเชียวครับ ราคาพอประมาณครับ
แต่ถ้าเข้ามาบ้านเราแล้วละก็ราคานี่ -0059 -0059 -0059
-
พออกพอใจกันทั้งพ่อลูกแล้วก็ออกเดินกลับไป Time Square กันดีกว่าครับ
ระหว่างทางก็ Street Snap เรื่อยเปื่อยกันไปครับ เรี่ยวแรงเริ่มจะกลับมาแล้วนิ
-
คนที่นี่ค่อนข้างชิว เดินเร็ว เสียบหูฟัง ถ้านั่งข้างทางก็ดู VDO จากมือถือ
เดินแป๊บเดียวครับจาก Lee Garden มา Time Square
-
วันนี้ไม่ค่อยเน้นเรื่องอาหารนะครับ จริงๆ อยากไปหาอะไรอร่อยๆ กินอยู่เหมือนกันครับ
แต่เน้นเดินทางกับต้องการเดินเล่น เลยกินกันแบบง่ายๆ ก็เลยไม่ได้ถ่ายภาพอาหารมาเลยครับ -08
มองๆ เวลาแล้วตัดสินใจกลับที่พักดีกว่าครับ เพราะต้องเริ่มเก็บข้าวเก็บของพรุ่งนี้ต้องกลับกันแล้วครับ
แต่.... โอ้ว....
-
ขอต้อนรับสู่ชั่วโมงเร่งด่วนยามเย็นของชาวฮ่องกงครับ
หุๆ คนยังกับมดแถมรถไฟแต่ละขบวนแน่นเชียวครับ
สุดท้ายเลยต้องตัดสินใจไปขึ้นกันที่ต้นสายเลยดีกว่า
-
ปิดท้ายรูปวันที่สามนี้ด้วยรูปแอบถ่ายสาวๆ ฮ่องกงบนรถไฟฟ้าครับ
-
ปีที่แล้วไปเที่ยวมาเอามาเล่าไม่หมดปีนี้ไปกลับมาอีกรอบ ไปเติมในส่วนที่ขาดที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่แล้ว
ขุดขึ้นมาไว้ก่อนเดี๋ยวมาเล่าให้ฟังกันใหม่ครับ ปีนี้เลือกบินตรงด้วย Air Asia เชียงใหม่-ฮ่องกงครับ
เครื่องออกจากบ้านเรา 6.00 ถึงฮ่องกง 9.15 โดยประมาณครับ
-
นั่ง Low-cost ต้องทำใจครับ ความบันเทิงไม่มี ก็ดูวิวถ่ายรูปไป 2 ชั่วโมงกว่าๆ
ตื่นขึ้นเครื่องแต่เช้า ดูวิวได้สักพักไม่ไหว งีบดีกว่าครับ -0025
-
เนื่องจากเป็นไฟท์บินเช้า มาถึงแต่เช้าต้องมานั่งลุ้นนิดหน่อยว่าจะเข้า Check-in ที่โรงแรมได้หรือปล่าว
ปกติโรงแรมที่ฮ่องกงจะเปิดให้ Check-in 14.00 ครับ แต่ก็นับว่าโชคดีมีห้องว่างให้ Check-in ได้สบายไป
วิวจากห้องพักครับปีนี้ไม่ได้ถ่ายห้องพักนะครับ อ้อลืมไปปีนี้ผมพักกันที่ The City View อยู่ย่าน Yau ma tei ครับ
เลือกที่นี่เนื่องจากสะดวกใกล้สถานีรถไฟฟ้า และย่าน Shopping ตามใจ ผบ.ด้วยครับ
-
จากห้องพักมองเห็นโรงแรมที่เคยมาพักเมื่อปีที่แล้วสบายๆ เลยครับ
-
ฮ่องกงเป็นเมืองที่เดินสนุก และสนุกกับการเดินมากครับ ไม่ว่าจะไปทางไหนมีแต่คนเดิน แล้วก็เดินๆๆๆ
เรื่องความปลอดภัยสบายมากมีตำรวจเดินลาดตระเวนเป็นเพื่อนเต็มไปหมดครับ มีอะไรขึ้นมาเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วครับ
-
ปีนี้ตั้งใจจะไปเก็บตกของสถานที่ที่พลาดไปเมื่อปีที่แล้วครับ ดังนั้นวันแรกที่ไปถึงมุ่งหน้าสู่ Avenue of Star ก่อนเลยครับ
ตึกรามบ้านช่องมองไปแล้วเจริญหูเจริญตาสำหรับเด็กดอยอย่างผมได้เป็นอย่างดีครับ
-
สำหรับ Avenue of Star จะตั้งอยู่ริมอ่าว ด้านหลังของหอศิลปฮ่องกงครับ
-
จะว่าไปแล้วฮ่องกงก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปอีกหลายแห่ง ทั้งหอศิลป์ ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ต่างๆ อีกหลายแห่ง
สรุปว่าไปแค่ 1-2 ครั้งก็คงยังไม่ทั่วแน่ๆ สำหรับที่นี่หอศิลป์นั้นมีทั้งส่วนแสดงกลางแจ้ง และในอาคาร
วันที่ไปผมมุ่งไปที่ Avenue of Star มากกว่าจึงเพียงเก็บบรรยากาศภายนอกเท่านั้นครับ
-
เสียดายอีกอย่างที่ตลอดการเดินทางรอบนี้ฟ้าค่อนข้างจะเน่า ครึ้มตลอดทริปเลยครับ แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ไม่มีฝนครับ
วันที่ไปมีการจัดมินิคอนเสริตโดยเจ้ๆ ทั้งหลายมาร้องเพลง พร้อมหางเครื่อง เป็นเพลงประกอบละครทีวีเก่าๆ และเพลงของเติ้งลี่จวิน
ผมถ่ายมาแต่นักร้อง หางเครื่องเข้าไม่ถึงครับ :smile6: จีนมุงเต็มไปหมดครับ
-
ลมทะเลเย็น แต่แดดร้อนชะมัดครับเดินไปเหงื่อซึมเลยครับ
ในที่สุดก็มาถึง และมาเยือนจนได้ครับ
-
ใครเป็นใครบ้างก็ดูจากภาพได้เลยครับ
-
มาเดินดูรอยประทับเลียบชายทะเลที่นี่ นอกจากวิวสวยๆ รอยประทับ และสาวๆ น่ารักๆ แล้ว
สิ่งที่ห้ามพลาดเด็ดขาด คือ ร้านขายปลาหมึกย่างรถเข็น ในภาพที่ 3 ครับ
กลิ่นปลาหมึกย่างโชยมาแต่ไกล รสชาติเผ็ดนิดๆ เนื้อปลาหมึกนุ่มๆ เหนียวๆ เคี้ยวอร่อย รับประกันว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
-
ต้องค่อยๆ เดินไปอ่านไปว่าใครเป็นใคร เฮียเฉินหลง โจวหยุนฟะ และเฮียหลิว อยู่ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่ครับ
เสียดายที่ไม่มีรอยประทับมือของ เฮียโจว ครับ
-
idol เด็กดอยอย่างผมครับ โทนี่เหลียง เจอแล้วก็ต้องชักภาพด้วยสักติ๊ด...
-
ชื่อดาราต้องค่อยๆ อ่านๆ กันไปนะครับ เพราะการสะกด และการเรียกชื่อดาราบ้านเขาค่อนข้างจะต่างกันเล็กน้อยครับ
อย่างเช่นดาราหญิงที่ผมพอจะจำได้ก็เจ้ มิเชล โหยว นี่แหละครับ นอกนั้นมึนตึบเลย 555
อีกจุดที่ใครมาที่นี่ต้องมาชักภาพกับเขาให้ได้ก็คือเฮียคนนี้ในภาพที่ 2-3 ครับ
ผมไม่อยากรอครับ เนื่องจากจีนมุงเข้าคิวรอชักภาพกับเฮียแกเยอะมาก ค่อยๆ จรลีหนีออกมาดีกว่าครับ
เดี๋ยวพาไปดู City Harbor กันดีกว่าว่าปีนี้เขาจะตกแต่งกันแบบไหนครับ
-
ปีที่แล้วมาเจอ Star Wars แต่ปีนี้มาเจอไอ้แมงมุมแทน คงเป็นเพราะว่า Amazing Spider man 2 กำลังจะมาครับ
-
จบทริบวันแรกด้วยความเมื่อยขา และง่วงนอน เพราะต้องตื่นแต่เช้ามาขึ้นเครื่อง อารมณ์เก็บภาพหมดแล้วครับ -25
-
เริ่มต้นทริปวันที่ 2 ด้วยการไปไหว้พระใหญ่แห่งนองปิงกันครับ
การไปไหว้พระใหญ่นั้นทำได้ 2 ทางครับ
1. ขึ้นรถบัสที่ท่ารถแถวๆ ห้าง City Gate Outlet
2. ขึ้นกระเช้าลอยฟ้า หรือที่เรียกกันว่ากระเช้านองปิง ซึ่งก็อยู่ใกล้ๆ กับ City Gate Outlet เช่นเดียวกัน
ผมเลือกขึ้นกระเช้าครับ โดยทำการจองจากบ้านเราไปเลย เลือกเป็นกระเช้าใสเอาไว้ครับ
-
นั่งชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อยๆ สบายๆ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงได้ครับ
ภาพมุมสูงของฮ่องกง มองแล้วสบายตาดี ไม่แปลกใจที่หลายคนเลือกที่จะมาฮ่องกงแล้วก็กลับไปอีกครับ -0027
-
มองเห็นสนามบินด้วยครับ สำหรับพระใหญ่นองปิงนี่อยู่ค่อนข้างห่างออกมาจากตัวฮ่องกง และเกาลูนนะครับ
อยากแนะนำว่าให้จองตั๋วล่วงหน้าไว้ก่อน จากบ้านเราไปเลยจะดีที่สุดครับ
และถ้าไม่อยากรอเข้าคิวขึ้นกระเช้านาน จองเป็นแบบธรรมดาก็ได้ครับ
เพราะเช้าจะมาแบบธรรมดา 2 ใส 1 สลับกันไป และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบแบบใสมากกว่าแบบธรรมดา
วันที่ไปทั้งที่ผมจองตั๋วล่วงหน้าไปแล้ว แต่กลับต้องรอคิวนานมากเกือบชั่วโมงได้ครับ
มองเห็นเพื่อนร่วมทางที่ในรถไฟฟ้าที่นั่งมาด้วยกัน แต่เขาไม่ได้จองตัวล่วงหน้ามาต้องเข้าคิวซื้อตั๋วเอา
ซึ่งแถวยาวมาก แต่เขากลับได้ขึ้นกระเช้าธรรมดาไปก่อนผมซ่ะอีก -0009
-
บ้านเมืองเขาพัฒนาขึ้นแต่สภาพป่ายังคงอุดมสมบูรณ์ดีครับ มองเห็นแต่สีเขียวๆ เต็มไปหมด
ผิดกับบ้านเราที่นับวันพื้นที่ป่าก็น้อยลงไปอย่างน่าใจหายครับ -25
-
มองเห็นองค์พระใหญ่อยู่ไกลๆ ตาแล้วครับ ดูไปแล้วก็ให้ความรู้สึกร่มรื่น และสงบใจดีเชียวครับ
-
กระเช้าจะมาลงที่หมู่บ้านที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ตั้งชื่อว่า หมู่บ้านนองปิง ครับ
พื้นที่อาคารออกแบบตามสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ด้วยความขี้เกียจอย่างกระทันหันของผม
และมัวแต่มองหาของที่ระลึกของตัวเอง ผบ. และลูกสาวทำให้ลืมถ่ายภาพหมู่บ้านมาซ่ะงั้น -0023
-
สองข้างทางเต็มไปด้วยเทพอารักษ์ที่ปกป้องรักษาองค์พระใหญ่เอาไว้
-
เริ่มได้ยินภาษาพูดที่คุ้นหูมากขึ้น วันนี้เจอคนไทยแล้วครับ หลังจากวันแรกนอกจากบนเครื่องแล้ว
หลังลงจากเครื่องก็แทบไม่เจอเอาซ่ะเลย 555
-
ข้างบนนี้หากสังเกตุดีๆ จะพบว่ามีร้านของคนไทยอยู่ด้วยนะครับ หากมีโอกาสได้ไปขอให้ลองมองหาดู
ผมไม่ได้ถ่ายภาพมาด้วยครับ
-
การเดินข้างบนนี้ ขอแนะนำให้เดินช้าๆ สบายๆ อย่าเดินเร็วหรือวิ่ง เนื่องจากเป็นที่สูงอากาศค่อนข้างเบา อาจเป็นลมได้ครับ
วันที่ไปก็เจอคนนอนหมดสติ และกำลังปฐมพยาบาลกันอยู่ครับ แต่ไม่ต้องห่วงครับ ฮ่องกงซ่ะอย่างรถพยาบาลมารับถึงที่อย่างรวดเร็วทีเดียวครับ
แต่สำหรับเราแล้ว ขออย่าให้ได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ขณะมาเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองจะดีที่สุดครับ :smile6:
-
จุดนี้ถือเป็นจุดที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในการไหว้สักการะขอพรกับองค์พระใหญ่ครับ
สังเกตุเห็นว่าคนรอเข้าแถวกันเยอะเชียวครับ คนไทยทั้งน้าน...
-
เนื่องจากออกกันสาย และต้องไป Disneyland กันต่ออีกผมจึงเลือกที่จะไหว้ขอพรองค์พระใหญ่อยู่ด้านล่างกันแทนครับ
ขอพรให้ได้กลับมากราบสักการะอีกครั้ง และคราวนี้ลูกจะขอเดินขึ้นบันไดไปกราบท่านถึงข้างบนเลยเชียว สาธุ -0021
-
ขากลับก็ลงกระเช้าเหมือนเดิมครับ มองห่างออกไปทุกที
หากมีโอกาสจะกลับมานมัสการองค์พระใหญ่อีกครั้ง และจะขึ้นไปกราบท่านถึงด้านบนแน่นอนครับ -0021
-
ขากลับลงมาก็ใช้เวลาพอๆ กันครับ นั่งชมวิวถ่ายรูปไปสบายๆ อีกร่วมครึ่งชั่วโมงได้ครับ
-
สถานที่ถัดไป ความทรงจำวัยเยาว์ของใครหลายคน และยืนยงถ่ายทอดมายังรุ่นลูกรุ่นหลานของพวกเรา
Hongkong Disney's Land ครับ อยู่ไม่ห่างจากหมู่บ้านนองปิงมากเท่าไหร่ สามารถไปนองปิงเช้า และมาที่นี่บ่ายได้สบายๆ ครับ
แต่หากว่ามีเด็กๆ ไปด้วยแนะนำว่าควรใช้เวลาอยู่ที่ Disney's Land เต็มวันน่าจะดีกว่าครับ
-
รถไฟเข้า Disney's Land ออกแบบมาเฉพาะ เป็นเอกลักษณ์ของ Disney เลยครับ
-
มาถึงสถานี ก็คงเอกลักษณ์ของความเป็น Disney ได้อย่างชัดเจน
ออกจากสถานีก็จะเจอการต้อนรับของ Mickey Mouse บนป้ายทางเข้าใหญ่เห็นเด่นชัด
-
ทางเข้ากว้างขวาง เดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงน้ำพุด้านใน สังเกตุแม้แต่ที่พื้นก็มีสัญลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ
การมาเที่ยวที่นี่แนะนำว่า ควรซื้อบัตรล่วงหน้าจากบ้านเราไปเลยจะดีกว่า เพราะราคาจะถูกกว่าที่โน้นอยู่พอควรครับ
-
เจออีตาโดนัลดั๊ก นั่งซึมอยู่บนเสากระโดงเรือ มองไปก็จะเห็นทางเข้าจริงๆ แล้วครับ
ตลอดทริปนี้ท้องฟ้าค่อนข้างทึม ทำให้ภาพออกมาไม่สวยเอาซ่ะเลยครับ -25
แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่ไม่เจอฝนครับ
-
โชคดีอีกครั้งเพราะ ผบ. ตั้งใจว่าจะมาดูขบวนพาเลซของ Disney มาถึงก็ได้ดูเลยครับ กำลังจัดขบวนตั้งแถวกันพอดี
-
วันที่ไปขบวนเริ่มตอนเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นครับ
อย่างไรก็ตามหากไปถึงเพื่อความแน่นอนจะมีใบปลิวแจ้งเวลาการเดินขบวนในแต่ละวันที่ทางเข้าอีกครั้งครับ
-
สีสรรสดใสตามสไตล์ของ Disney ต้องขอบคุณเลนส์ G ตัวใหม่ที่ลงทุนมาซื้อที่นี่
ให้สีของภาพได้ตรงสุดๆ เลยครับ
-
อะไรๆ ก็ดีไปหมดเสียอย่างเดียวท้องฟ้าเบื้องหลังเน่ามากครับ
ดีที่อย่างน้อยถ้าถ่ายไม่ติดท้องฟ้า ก็พอกล้อมแกล้มได้อยู่ครับ
-
โฟกัสเข้าบ้างไม่เข้าบ้างตามประสานะครับ ถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวต้องทำใจ -08
-
ลูกเล็กเด็กแดงมารอชมขบวนกันตามสองข้างทางกันอย่างหนาตา
จับสังเกตุได้ว่าวันนี้ไม่มีภาษาคุ้นหูครับ ได้ยินแต่ภาษาจีนล้งเล้งกันสนั่น 555
-
เจอเจ้าหญิงสวยๆ มือสั่นหรือว่าไงก็ไม่ทราบได้โฟกัสเจ้าหญิงไม่เข้าสักใจซ่ะงั้น 555
-
ขบวนจากเรื่องทาร์ซาน แต่ไหงผมมองหาทาร์ซานไม่เจอหว่า
-
เอ... หรือว่าผมจะจำผิดเรื่องหว่า ????
-
ขบวนเคลื่อนตัวมาเรื่อยๆ เรียงๆ สบายๆ ดูแล้วก็เพลินตาดีครับ
กดถ่ายภาพเพลินเลยครับ
-
เข้าใจว่าเลนส์ผมต้องโดนของแน่ๆ เลยครับ ถ่ายภาพสาวน่ารักทีไร ภาพเบลอตลอด
เอ... หรือว่าจะเป็น เบลอว่ารักแถบ อิๆ :smile8:
-
อุ่ย... นอกเรื่องไปละ กลับมาชมขบวนกันต่อดีกว่าครัช :smile6:
-
ขบวนสุดท้ายจากเรื่อง Toy Story ครับ ใช้เวลาเดินน่าจะประมาณ 15-20 นาทีได้ครับ
-
ปิดท้ายด้วยเด็กๆ ที่มาเที่ยวและซื้อสุดเจ้าหญิงแต่งตัวเดินกันน่ารักมากครับ
และที่น่าแปลกใจคือ พอขบวนหมดทุกคนสลายตัวกันอย่างรวดเร็วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน 555
-
การตกแต่งสถานที่นั้นเป็นรูปแบบของทางฝั่งอเมริกันย้อนยุค ดูแล้วก็เพลิดเพลินเจริญหูเจริญตาสำหรับคนหล่ายดอยอย่างผมครับ
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเด็กเล็กที่นี่มีบริการให้ยืมรถเข็นเด็กด้วยนะครับ อยู่บริเวณทางเข้านี้เช่นกัน ที่ตึกที่เขียนว่า Disneyland Fire Depart. ในภาพสุดท้ายนั่นเลยครับ
-
โทนสีภาพดูทึมๆ หน่อยนะครับฟ้าค่อนข้างเน่าไม่เป็นใจสำหรับถ่ายภาพสักเท่าไหร่ครับ
ทางเดินเข้าสู่สวนสนุกมีร้านรวงตลอดสองข้างทางคอยดักดูดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวลานตาไปหมดครับ
-
การวางของโชว์หน้าร้านหายห่วงครับ ดูล่อลวงให้เดินเข้าไปในร้านได้ง่ายๆ เลยทีเดียวครับ หุๆ
-
เมื่อคุณหลุดเข้าไปในร้านแล้วละก็อย่าหวังว่าจะได้ออกมาง่ายๆ ข้าวของมีให้เลือกตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบครับ
-
ผบ. กับลูกสาวผม หลุดเข้าไปเดินอยู่ร่วมชั่วโมงหนึ่งได้ครับ
-
เดินจนเมื่อยไม่ไหวออกมานั่งถ่ายรูปรอด้านนอกดีกว่า นี่ยังไม่ได้เล่นเครื่องเล่นสักอย่างเวลาล่วงมาจะ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นแล้ว
แถมมื้อกลางวันก็ยังไม่ตกถึงท้องอีกต่างหาก -0082 เก็บภาพรอไปเรื่อยๆ ก่อนละกันนานๆ มากันทีปล่อยให้เต็มที่เลยครับ
-
Shopping กันจนหนำใจทั้งแม่และลูกแล้ว ก็พากันไปหาของกินกันดีกว่าครับ
โซนที่ใกล้ที่สุดก็ Tomorrow Land ครับ ร้านอาหารเก๋ๆ ใช้ชื่อว่า Starliner Diner
อาหารสำหรับจุดนี้จะเป็นพวก Burger ส่วนใหญ่ครับ ด้วยความหิวตาลาย ไม่ถ่ายแล้วอาหารกินก่อนละครับ
-
อีก 2 ปี เตรียมพบกับ Iron Man Experience ที่โซนนี้ได้เลยครับ
เก็บเงินกันอีกรอบ 555
-
โซนนี้มีเครื่องเล่นอยู่พอประมาณ แต่เนื่องจากว่าไม่ใช่แนวสำหรับ ผบ. และลูกสาว จึงขยับไปที่โซนถัดไปแทนกัน
จริงๆ เวลาจำกัดด้วยครับ เลยมองหาเครื่องเล่นที่ตั้งใจมาเล่นดีกว่า มุ่งหน้าไปที่ It's Small World กันครับ
-
สำหรับที่นี่เหมือนย่อโลกจำลองทั้งใบมาไว้ในนี้ แบ่งกันตามทวีปต่างๆ ครับ
ภาพถ่ายมาค่อนข้างเยอะแต่ขอเลือกมาเป็นน้ำจิ้มก็แล้วกันนะครับ
-
จุดนี้เหมาะสำหรับพักขา นั่งเรือล่องไปสบายๆ ฟังเพลงสะกดจิตไป ด้วยเครื่องดนตรีของประเทศต่างๆ
แต่เล่นเพลงเดียวกันทั้งหมดคือเพลง It's Small World
ปล. 1. กรุณาเปิด link ข้างล่างเพื่อบรรยากาศในการรับชมช่วงนี้ครับ 555
ปล. 2. ยืมคลิปคนอื่นเขามานะครับ
http://youtu.be/mh9pj60VOFI
-
ฟังเพลงประกอบชมภาพไปเรื่อยๆ ก่อนนะครับ 555
-
บรรยากาศด้านในก็ประมาณคลิปที่เอามาลงให้ชมกันครับ
ฟังแล้วเหมือนกำลังโดนสะกดจิตชะมัด :งง:
-
โซนก็จะแบ่งไปตามทวีปต่างๆ
-
มีตัวละครของ Disney สอดแทรกอยู่เป็นระยะๆ
-
ที่สุดก็มาถึงย่านเอเชียบ้านเรา มีตัวแทนจากประเทศไทยด้วยนะครัช
ณ จุดๆ นี้ ขอบอกว่าแว่วเสียงระนาดเคล้าเพลง It's Small World ด้วยครัช
จริงเท็จอย่างไร เชิญเพื่อนๆ ไปพิสูจน์กันได้ครับ
-
เข้าสู่เทรนฮิต เกาหลี และ พี่ใหญ่จีนมีพร้อมครับ
-
แทรกด้วยตัวละครจาก Disney อีกละ
-
เข้าสู่โซนรวมมิตรสุดท้ายปลายทางออก มีภาษาไทยกำกับไว้ว่า "ลาก่อน"
แต่ไม่ใช่ "ลาจาก" วันหนึ่งคงได้กลับมาอีกครั้ง รอบหน้าจะถ่ายเป็น VDO ซ่ะเลย :angry2:
-
ที่ด้านหน้าของเครื่องเล่น It's Small World จะมีนาฬิกาขนาดใหญ่อยู่ ซึ่งจะตีบอกเวลาทุกๆ ชั่วโมง
โดยจะมีตุ๊กตาทหารออกมาบรรเลงดนตรีให้ชมกัน ตอนที่ผมออกมาก็ประมาณ 17.00 น. พอดีครับ
แต่เสียดายที่ถ่ายทันแต่ด้านข้างเท่านั้น เดินออกมาถึงด้านหน้าก็ปิดกลับเข้าไปซ่ะละ
-
เดินเที่ยวกันต่อไปครับ เป้าหมายต่อไปคือ ไปดูหนัง 4 มิติที่ Mickey's Philhar Magic กันครับ
ระหว่างทางก็เก็บบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ ยังคงมีร้านขายของที่ระลึกไว้คอยดักดูดเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวเป็นระยะๆ ครับ
-
ถึงแล้วครับ อยู่ไม่ห่างจากร้านขายของที่ระลึก Pooh Corner Toy & Gifts สักเท่าไหร่ เรียกว่าอยู่ระแวกเดียวกันก็ว่าได้ครับ
ด้านในจะเป็นการฉายหนัง 3 มิติ แต่ก็จะมีเอฟเฟคประกอบเช่น น้ำกระเด็น ลมพัด ฯลฯ เพิ่มเข้ามาด้วยครับ
-
ดูหนังจบก็มุ่งหน้าไปพื้นที่ถัดไปครับ Toy Story's Land
มีร้านขายของที่ระลึกทำเป็นรูปกล่องของเล่นของ Andy ด้านในก็มีของเล่น ของที่ระลึกไว้คอยดูดเงินจากกระเป๋าพ่อแม่เช่นเคย
โชคดีที่ลูกสาวผมโตละ ไม่ได้แอ้มเงินพ่อ แต่ ผบ. กับ ลูกสาวไม่รอด 555
-
ด้านหน้าร้านก็จะมีตู้แสดงของเล่นของ Andy เอาไว้ว่ามีตัวอะไรบ้าง
ส่วนใหญ่ก็เป็นตัวละครหลักจาก Toy's Story ทั้งสามภาคละครับ
-
ด้านการตกแต่งก็จะเป็นแนวทางของเด็กผู้ชาย และเครื่องเล่นก็เหมาะกับเด็กผู้ชายซ่ะเป็นส่วนใหญ่
ลูกสาว กับ ผบ. เน้น Shopping ประกอบกับเริ่มมืดละ เลยพากันขอผ่านจุดนี้กันไปครับ
ไม่เป็นรอบหน้าถ้ามีจะไปให้เร็วขึ้นจะได้ไปลองนั่งเครื่องเล่นลืมแก่กับเขาบ้างครับ :angry2:
-
มุ่งหน้ากันไปต่อที่ Mystic Manor ดีกว่าครับ
รำลา Rex กันก่อน ตัวนี้ทำสีได้สดจริงๆ ต้องขอบคุณกล้อง และเลนส์ที่ตอบสนองเก็บภาพได้ครบจริงๆ ครับ
พักเบรครอโหลด VDO จาก Mystic Manor ก่อนนะครับเสร็จแล้วจะมาต่อให้ครับ
-
ที่หมายต่อไปของเราคือ Mystic Manor ครับ
ที่นี่ถูกสมมติให้เป็นบ้าน Lord Henry Mystic นักสำรวจ และล่าสมบัติคนหนึ่งครับ
ภายนอก และภายในบ้านจะสะสม สมบัติโบราณ ที่นักสำรวจและล่าสมบัติคนนี้รวบรวมมาจากทุกมุมโลกครับ
-
บริเวณนี้ทั้งหมดจะถูกเรียกว่า Mystic Point ครับ มีทั้งสวนที่เรียกว่า Garden of Wonder แสดงวัตถุแปลกๆ ชิ้นใหญ่
พอดีตอนที่เดินไปถึงมันมืดแล้วครับ ก็เลยมุ่งหน้าเข้าไปชมภายในบ้านกันครับ
-
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะจัดแสดงข้าวของต่างๆ ที่ถูกรวบรวมมาเก็บไว้ใน Manor แห่งนี้ครับ
ตอนแรกผมก็นึกว่าจะมีแต่ของตั้งแสดงเฉยๆ พอเดินมาถึงห้องเล็กๆ ที่มีจอ
ก็จะมีการจัดฉายหนังแนะนำตัว Lord Henry Mystic เจ้าของ Manor แห่งนี้ครับ
http://youtu.be/mJVIS8ZkDlE
-
พอหนังฉายจบประตูก็จะเปิดเข้าไปยังห้องถัดไป คราวนี้ความสนุกก็จะเริ่มต้นขึ้นกันละครับ
ผมถ่ายมาเพียงบางส่วนเพื่อเป็นน้ำจิ้ม ส่วนความสนุกจริงๆ อยากให้เพื่อนๆ ออกเดินทางไปสัมผัสด้วยตัวเองน่าจะสนุกกว่าครับ
http://youtu.be/bnCWkv26NUo
-
ขออนุญาติไม่สปอยเนื้อเรื่องทั้งหมดนะครับ แต่หากรับชมคลิปก็น่าจะพอเดาๆ ได้ครับ
ขอบอกว่าถ้าคิดว่าโรงหนัง 4 มิติ ที่ Mickey's Philhar Magic สนุกแล้ว ความสนุกของที่นี่คูณ 2-3 เข้าไปได้เลยครับ
http://youtu.be/wObJy_iRc_8
-
จาก Mystic Manor เรามุ่งหน้าต่อไปยังบ้านของ Tarzan กันครับ ต้องเดินผ่าน Grizzly Gulch ซึ่งเป็นโซนที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน
ที่นี่มีเครื่องเล่นที่น่าสนใจเยอะพอควรเลยครับ แต่ด้วยความที่เริ่มมืดแล้วก็เลยต้องผ่านไปก่อนรอบหน้าว่ากันใหม่ครับ
-
บริเวณนี้จะตกแต่งแนวตะวันตกยุคบุกเบิก หรือยุคคาวบอยนั่นแหละครับ
เครื่องเล่นหลักที่นี่เรียกว่า Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars ครับ
จะเป็นรถรางในเหมืองทอง แล่นเข้าไปในภูเขาวกไปวนมาดูน่าสนุกเชียวครับ
อีกจุดที่น่าสนใจก็จะเป็นน้ำพุร้อนจำลองที่เรียกว่า Geyser Gulch ครับ
-
เดินชมเมืองจำลองไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็จะเข้าสู่โซนที่เรียกว่า Adventure Land ครับ
-
ในโซน Adventure Land นี้มี 2 จุดหลักที่น่าสนใจคือ บ้านของ Tarzan กับ การแสดงโชว์ของ Lion King ครับ
ตอนที่ไปถึงประมาณ 2 ทุ่มนิดๆ ละ โชว์ Lion King ปิดแล้วก็เหลือแต่ชมบ้าน Tarzan กับล่องเรือวนรอบบ้าน Tarzan ครับ
ก็เลยเลือกที่จะลงเรือวนรอบบ้าน Tarzan กันดีกว่าครับ ยามค่ำคืนดูสนุกกว่าครับ ได้บรรยายกาศไปอีกแบบ
แต่เก็บภาพแทบไม่ได้เลย เพราะมืดพอควรครับ
-
ดูเวลาจวน 3 ทุ่มแล้วใกล้เวลาจุดพุลประจำวันแล้วก็เลยมุ่งหน้ากลับมายัง USA Main Street กันดีกว่าครับ
กลับมารอดูพุลที่จะจัดแสดงทุกวันก่อนปิดสวนสนุกครับ
-
ผู้คนเริ่มทะยอยมารวมตัวกันเพื่อรอชมกันหนาตาทีเดียวครับ
สำหรับการแสดงพลุถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยทีเดียวครับ
-
ถ่ายตามความสามารถที่พอถ่ายได้ครับ ไม่ถนัดแนวพลุเท่าไหร่ครับ และที่สำคัญคือไม่มีขาตั้งกล้องครับ -0023
-
VDO เล็กน้อยที่เก็บภาพมาครับ อยากให้เพื่อนๆ ไปรับชมด้วยตัวเองจะได้บรรยากาศกว่าเยอะเลยครับ
http://youtu.be/jx7MhptOOe8
-
http://youtu.be/IsZD0tRrPeA
หากมีโอกาสพาเด็กๆ ของพวกเราไปชมกันเถอะครับ รับรองความสนุกครับ
-
http://youtu.be/FqYDfnX80FU
เป็นอะไรที่สร้างความทรงจำดีๆ ให้กับเด็กๆ ได้แน่นอนเลยครับ
-
การจัดไฟยามค่ำคืน ทำได้ดีครับดูสวยงามไปอีกแบบครับ
-
เก็บตกร้านรวงสองข้างทาง ระหว่างเดินออกจาก Disneyland
-
ตอนเดินเข้ามามองข้ามร้านเป่าแก้ว Crystal ไปได้ไงไม่ทราบ ขากลับเลยแวะเข้าไปชมกันดีกว่าครับ
-
ชิ้นงานมีความสวยงาม และละเอียดมากครับ แต่ถ้าซื้อก็ไม่รู้ว่าจะขนกลับยังไง
กว่าจะกลับถึงบ้านก็คงแหลกแตกซ่ะก่อนแน่ๆ ครับ -25
-
กุหลาบจากเรื่อง Beauty and The Beast มีเยอะมาก และหลายรูปแบบครับ
-
แมง และแมลงต่างๆ ทำได้ละเอียดสมจริงมากครับ
-
เดินกลับออกมาด้วยความอิ่มเอมใจพร้อมกับข้อคิดดีๆ ที่แฝงเอาไว้จาก Disneyland ครับ
ตรีมหลักๆ ของ Disneyland ที่ผมพอจะจับได้คือ It's Small World โลกเราทุกวันนี้เหมือนกับแคบลงไปทุกที
การสื่อสาร วิวัฒนาการทำให้คนเราไม่ควรที่จะแบ่งแยกเชื้อชาติ สีผิว กันอีกต่อไป It's just a One World. ครับ
อีกเรื่องหนึ่งที่ Disneyland เหมือนจะเน้นย้ำมากคือ Dream Come True ครับ
การสร้าง Tomorrow Land เหมือนจะตอกย้ำแนวคิดนี้ให้ชัดเจนขึ้นไปอีกครับ
คนเราทุกคนล้วนมีฝัน การทำฝันให้เป็นจริงนั้น อยู่ที่ตัวเราต้องคิด และลงมือทำ
จะช้าจะเร็วขึ้นอยู่กับตัวเราที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ฝันของเรานั้นเป็นจริงมากน้อยขนาดไหน
Let's Dream Come True ครับเพื่อนๆ :cheer:
-
15 เมษายน 2557
พาลูกสาวไปไหว้พระแก้ชงที่วัดกังหันครับ รอบนี้สบายๆ ออกกันค่อนข้างสายพอสมควรครับ
ฟ้ายังคงบดนิดๆ แต่ก็ยังดีที่ไม่มีฝนเช่นเคยครับ
การมาไหว้ท่านแชกงนี้เป็นที่นิยมของชาวไทยจริงๆ ครับ เจ้าหน้าที่ของทางวัด 80% เจรจาภาษาไทยได้คล่องแคล่วชัดเจน
วันที่ไปผมได้กรุ๊ปทัวร์ไทยชุดใหญ่ แนะนำวิธีไหว้ เราก็เลยตีเนียนเข้าไปไหว้ตามเขาไปสบายๆ เลยครับ
-
เนื่องจากผมเคยเล่าประวัติของวัดแชกุงไว้แล้วดังนั้นขอเว้นไม่เอากลับมาเล่าซ้ำนะครับ
รับชมบรรยากาศรอบๆ วัดกันไปก่อนละกันครับ -0023
-
-0027
-
ออกจากที่นี่เรามุ่งไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ Repulse Bay กันอีกครั้งครับ
เป็นความตั้งใจของผมที่อธิฐานเอาไว้ว่าหากมีโอกาสได้กลับมาฮ่องกงอีกครั้งจะกลับมากราบท่านทุกครั้งที่ได้กลับมาครับ
เนื่องจากว่าออกสาย ประกอบกับ วัดแชกุงอยู่ทางทิศเหนือ ส่วน Repulse Bay อยู่ทางทิศใต้จึงใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนานพอควรครับ
ถ้าจะให้ดีควรจัดโปรแกรมไว้คนละวันกันครับ
-
Repulse Bay ถือเป็นหาดที่นิยมมาพักผ่อนหย่อนใจของชาวฮ่องกงครับ
ปีที่แล้วที่มาตรงกับวันแข่งเรือมังกรพอดี แต่ปีนี้มาในวันธรรมดา ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่
ที่เห็นส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่ มากันเป็นหมู่คณะ (ไม่ได้เก็บภาพมาครับ) :smile6:
อีกส่วนที่เห็นก็เป็นกลุ่มแม่บ้านที่พาลูกๆ ของเจ้านายมาเล่นน้ำ และสนามเด็กเล่นริมหาด (น่าเก็บภาพมากกว่ากันเยอะ) -23
เดินกันไปเรื่อยๆ สบายๆ ครับ มีกลุ่มสำเนียงคุ้นหูเดินตามๆ กันมาด้วยครับ เพราะที่นี่ก็เป็นนิยมของคนไทยด้วยเช่นกันครับ
-
ที่ Repulse Bay นี้จะมีองค์เจ้าแม่อยู่สององค์นะครับ คือเจ้าแม่กวนอิม และเจ้าแม่ทับทิม
ไปถึงก็ควรสักการะทั้งสององค์ครับ ขอพรที่ปรารถนากับเจ้าแม่กวนอิม ขอให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัยกับเจ้าแม่ทับทิม -0021
-
อาคารด้านหลังองค์เจ้าแม่ช่วงนี้ปรับปรุงอยู่นะครับ ปีที่แล้วที่ไปก็ไม่ได้เข้าไป ปีนี้ตั้งใจว่าจะเข้าแต่เห็นกำลังปรับปรุงอยู่ก็เลยไม่ได้เข้าไปอีก
-
ประวัติความเป็นมาของ Repulse Bay แห่งนี้ครับ
-
จากนั้นก็อย่าลืมเดินข้ามสะพานเสริมอายุกันด้วยนะครับ
-
จุดสุดท้ายอย่าลืมไปยืนรับพลังจากศาลาเก๋งจีนที่สร้างโดยสมาคมไลอ้อนฮ่องกง บนจุดที่มีทำเลฮวงจุ้ยดีที่สุดอีกแห่งของฮ่องกงกันด้วยนะครับ
เสริมพลังเสริมมงคลกันครบถ้วนกระบวนความตามที่ตั้งใจไว้แล้วครับ -0027
-
กลับเป็นเดินเล่น Shopping กันในเมืองดีกว่าครับ
-
กลับไปที่เดิมอีกครั้งที่ Lee Gardens Plaza ในส่วนของอาคาร Hysan Place ปีที่แล้วผมกับลูกสาวเราเดินหลงๆ มาเจอกับ Iron Man
http://www.montfort27.com/forum/index.php?topic=2165.msg62409#msg62409
ปีนี้เรามาเจอกับ Captain America กันแทนครับ ก่อนไปก็พูดกับลูกสาวอยู่เหมือนกันว่าปีนี้สงสัยว่าเราจะเจอกับ Captain แน่ๆ
แล้วก็เจอจริงๆ ครับ -0005
-
เช่นเคยครับ ถือโอกาสพักขาเดินตากแอร์ถ่ายภาพแบบสบายๆ ดีกว่า เดินกันมาสองวันแบบไม่หยุดขาเริ่มล้าออกอาการแล้วครับ -08
-
มาเจอของชอบกันแบบนี้สบายๆ ใช้เวลากันแบบชิวๆ ปล่อย ผบ.เดินชอปปิ้งตามสะดวก
-
เนื่องจากว่าน่าจะเป็นช่วงท้ายๆ ของงานโชว์แล้วคนจึงไม่ค่อยเยอะเหมือนคราวก่อนที่มาเจอ Iron Man
ถ่ายภาพกันได้เต็มที่สบายๆ พื้นที่จัดแสดงเทียบกับ Iron Man แล้วน้อยกว่าเยอะครับ
-
ตรงนี้เป็นจุดสุดท้ายที่แวะเก็บภาพของทริปนี้แล้วครับ ที่เหลือเดินเที่ยวเพลิน และล้ากันเกินกว่าจะยกกล้องมาเก็บภาพ
ขอเก็บภาพความทรงจำที่เหลือไว้ในสมองแทนดีกว่าครับ
-
สรุปฮ่องกง 2 ครั้งในเวลาห่างกัน 1 ปีพอดีๆ
ไปเองได้สบายครับ ไม่ยากอย่างที่คิดกัน หลงทางเป็นสีสรรของการเดินทางครับ
เตรียมตัวให้พร้อมศึกษาข้อมูลให้แม่นก่อนเดินทาง วางแผนการเดินทางล่วงหน้า
หาหนังสือแนะนำการเดินทางด้วยตัวเองหลายๆ เล่มมาอ่านประกอบ
หมั่นดูเส้นทางต่างๆ ล่วงหน้าใน Google Street View มีดีกว่าที่คิดจำสถานที่สำคัญๆ ไว้ก่อนได้เลย
ที่สำคัญคือมือถือเดี๋ยวนี้มี GPS ในตัวไม่ต้องกลัวหลงแล้วครับ
รับรองว่าเพื่อนๆ จะเที่ยวกันได้เองอย่างสนุก และประทับใจกันทุกคนครับ
สวัสดี จนกว่าจะมีการเดินทางอีกครั้ง เพราะชีวิตไม่เคยสิ้นสุดการเดินทางครับ
ปล. ในที่สุดก็เขียนจบจนได้ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ตามอ่านกันครับ ถึงแม้ว่าจะไม่แสดงตัวก็ตาม -0023