บอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพ > ภาพเก่าเล่าเรื่องราว

ภาพเก่าเล่าเรื่อง วงโยธวาทิต มงฟอร์ตวิทยาลัย

<< < (2/34) > >>

อุเทน47:
 :) ภาพความหลังครั้งเก่าก่อนกลับมาให้หวนรำลึกอีกครั้ง สุขใจช่ายม้าย...แจ็ค  :laugh:

tanakorn tananuwat:
ในฮูป ฮู้สึกว่าจะมีอ้าย (ลา) มก อยู่ตวยแม่นก่อหา
ล้อเล่นเน้ออ้าย มก ครับ

นิชคุณ ป๋ายดอย:
ฮาบ่อยากจะคุยเร้ยว่า...ดรัมเมเยอร์สาวสวย (ชื่อ น้อย) ในโฆษณาแผ่นนี้ ต่อมากลายเป็น..........................









เพื่อนร่วมชั้นเรียนกับฮา ที่ LCC ในเวลาต่อมา...








ไอ่เลขาเอกหัวล้าน พยายามจีบอยู่นาน แต่เค้าไม่เล่นด้วย...ฮา...โสนะหน้ามัน... ;D

อุเทน47:
ภาพโดย อ้ายหมอแว่น มว.23

MC Band in Holland






อุเทน47:
 ;) ภาพ เรื่องและบทภาพยนตร์ โดย อ้ายเด็จ มว.24




--flashback---


ย้อนกลับมา มกราคม ปี 2530
...เมื่อโฆษกสนามประกาศชื่อวงมงฟอร์ต เป็นวงชนะเลิศอันดับหนึ่ง (รูปบน) นั้น บนอัฒจันทร์สนามศุภฯ ด้านมีหลังคา ศิษย์เก่าแดงขาวหลายรุ่นตลอดจนพรรคพวกจากโต๊ะราม-เชียงใหม่(นำโดยอ้ายฮิกกินส์ MC22) ดีใจไห้หุยกันใหญ่ พลพรรคจำนวนหนึ่งแอบลงจากอัฒจันทร์หนีเล็ดรอดการจับตาดูของ รปภ.ไหลเนียนลงไปถือป้ายชื่อวงและถือธงโบกเดินตามวงมงฟอร์ต ที่เดินวงโชว์ไปรอบๆสนาม
...เวลานั้น สายข่าวรายงานว่า รุ่นพี่รุ่นใหญ่ของเราได้สั่ง reserve สถานที่ของโรงแรมสยามอินเตอร์ฯ ไว้เพื่อฉลองชัยให้วงโยธวาทิตของเราแล้วในขณะนี้ฯลฯ ใครสนใจเชิญตามไปสมทบได้ฯลฯ
...ผมจำได้เลาๆว่า กองเชียร์ของเราส่วนที่หลุดรอดลงไปในสนามนั้น ยังถือป้ายชื่อและโบกธงออกจากสนามศุภฯ เดินเท้าไปยังโรงแรมด้วย -> ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นไอ่ปั๋น-นที MC24-602 นี่แหละที่กุมธงไว้ไม่ปล่อยมือ (มันอ้างว่า ถ้าเดินมือเปล่าเข้าโรงแรม กลัวว่ารุ่นพี่ๆจะหาว่ามั่วนิ่ม 555)
... ส่วนทีมเสื้อร่มแดงจากบ้านรองเมืองซอย 1 (นักขนเครื่องดนตรี)นั้น อ้ายอนรรฆ (MC10) และอ้ายอนันต์(MC14) ชวนติดรถเก๋งไปโรงแรมด้วย

...ในรถเก๋งของอ้ายอนรรฆ พวกเราก็ผลัดกันเล่าเรื่องสนุกสนานความประทับใจให้เป็นที่ขบขัน อ้ายอนรรฆฟังเราได้พักใหญ่ ก็เอ่ยวรรคทองออกมา ทำนองนี้ :-

“………อ้ายเห็นหมู่เฮาอู้จ๋ากั๋นม่วน สนิทสนมกั๋นขนาด ตะก่อนหมู่อ้ายก่อเป๋นจะอี้แหละ จบ ม.8 (หรือ มศ.5 หว่า?)ใหม่ๆ ตวยกั๋นขึ้นกองล่องกองวันค่ำ
... แล้วเจื้อก่อ ซักพักเดียวเต้าอั้น มันจะผึหายกั๋นไปคนละตาง ไปสร้างฐานะ ติดต่อกั๋นก่บ่อค่อยได้ หายแส่บหายสอยไปเป็นสิ๋บปี๋ซาวปี๋
....แล้วพอมันเฒ่าแหมซักหน้อย หยะก๋านจนลืมตาอ้าปากได้ มันก่อจะกิ๊ดเติงหาเจ้าหมู่มันสมัยเฮียนมงฟอร์ตนี่แหละ
....แล้วเจื้อก่อ มันตึงจะปิ๊กมาสนิทสนมหวันกั๋นแน่นอย่างเก่านี่แหละ.........เดวหมู่สูตึงเป๋นจะอี้หรอบนี้แหล่ะ เจื้ออ้ายเต๊อะ..........”


--- fade ---


...ในรถเงียบไปสักพัก เหมือนกำลังเดาทางว่าเฮียแกมามุขไหน แล้วเพื่อนผมก็ไหลเนียนเสียบต่อมุขเรียกเสียงหัวเราะอีกหลายครืน กว่าจะถึงโรงแรมที่หมาย
...
..
.
หลายต่อหลายครั้งหลังจากนั้น เราได้หยิบเรื่องสะกิดใจนี้มาถกกันว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร กับหมู่เพื่อนอ้ายอนรรฆอาจเป็นไปได้ แต่สำหรับเราคงจะยากส์ส์ส์ส์ส์ส์

เมื่อเวลาผ่านไป ตัว “ส์ส์ส์ส์ส์ส์” ท้ายคำว่ายากในประโยคข้างบนค่อยๆลดลง
และเมื่อเวลาผ่านไปๆ คำว่า “เป็นไปได้ยาก” ก็กลายเป็น “เป็นไปได้ ...และเป็นไปแล้ว”

เพื่อนๆที่สนิทสนมกันในช่วงนั้น ค่อยห่างหายไป ไปสู่โลกกว้าง เป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีโอกาสค้นคว้าหาตัวตนที่แท้จริงมากขึ้น ทำหน้าที่สร้างฐานะและที่ทางของตนตามความชอบความถนัด
ห่างหายไปหลายปี หลายๆปี หลายๆๆปี

นานเข้า นานนานเข้า…… แล้วก็เป็นจริงอย่างเฮียว่า ......ไม่นานเกินรอเดี๋ยวมันก็กลับมาเจอกัน

...ในเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผมพบปะและได้ติดตามข่าวสารบนบอร์ดแห่งนี้ ได้เห็นหลายรุ่นต่อกันติดแล้ว หลายรุ่นพยายามต่อกันให้ติด ประสบความสำเร็จมากบ้าง น้อยบ้างเป็นหย่อมๆ สุดแล้วแต่สภาพความกดบรรยากาศ เสมือนเป็นตะแกรงร่อนพิสูจน์ความจริงจากวรรคทองของเฮียอนรรฆ ,คนที่เป็นนายทะเบียนสมาคม MC Alumni นี่แหละ

[...อันนี้ก็ต้องขอบคุณเทคโนโลยีโลกบนเน็ท และผู้สร้างสรรค์เวบบอร์ดแห่งนี้ที่ทำให้เราเจอและรับทราบข่าวของ “พี่น้อง-ผองเพื่อนชาวป้อมบนภูเขา” กันเร็วขึ้นและกระจายวงกว้างขึ้น สะดวกสบายขึ้นมาก ไม่ต้องโทรหาหรือร่อนจดหมายเป็นกระบุงข้ามโลกเหมือนสมัยรุ่นพี่จบม.8 (หรือ มศ.5 หว่า?) เขาทำกันตะก่อนนู้น...555]

สำหรับผม --->>/ใช้เวลายี่สิบปี จึงสามารถพิสูจน์และเชื่อเรื่องสะกิดใจนี้ได้สนิทใจ /

สำหรับเพื่อนพ้องน้องพี่ที่อ่านกระทู้นี้อยู่ -->/อย่าปล่อยไหลผ่านเลย เข้ามาเขียน มาตั้งกระทู้แลโพสภาพกันให้เป็นสำราญบานใจเถิดเอิงเอย......บัดนั้นเชิด /

--- dissolve ---

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version