หลังจากที่อุลตร้าแมนในยุคเริ่มแรกได้ปิดฉากอวสานลง Tsuburaya production ก็คิดหาทางสร้างอุลตร้าฮีโร่คนใหม่ขึ้นมาสืบทอดภารกิจปกป้องโลกคนต่อไป จึงเกิดเป็นอุลตร้าเซเว่น(Ultra Seven) ขึ้น ในยุคแรกๆนั้น คำว่าอุลตร้าแมนยังไม่ฮิตแพร่หลาย ตอนที่เป็นหนังทีวีมาฉาย ก็ถูกตั้งชื่อว่า “ยอดมนุษย์” โดยคงจะถอดแปลมาตรงๆจากคำว่า Ultraman นั่นเอง พอมีอุลตร้าแมนเซเว่น หรืออุลตร้าเซเว่น ก็เลยตั้งชื่อเป็นไทยว่า ยอดมนุษย์หมายเลข 7 เท่ไปอีกแบบ ยุคนั้นคนไทยเรากำลังนิยมเลข 7 ว่าเป็นเลขของบรรดาฮีโร่ ก็เลยเข้าล๊อค ส่งผลให้อุลตร้าเซเว่นฮิตติดตลาดไม่น้อยในเมืองไทย กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของเด็กๆ ประกอบกับการดีไซน์รูปแบบที่ดูเป็นจักรกล (Mechanic) เข้ากับยุคสมัยที่เทคโนโลยีเริ่มมีความสำคัญ อะไรที่ใช้เครื่องจักรกลทุ่นแรงได้จะถือว่าทันสมัยมากและเป็นที่นิยม พอมียอดมนุษย์ตัวใหม่ที่ออกแนว mechanic จึงฮือฮาไม่เลิก ในขณะที่ฝ่ายวิจัยตลาดทางญี่ปุ่นพบว่า Rating ของอุลตร้าเซเว่นยังไม่ดีเท่าที่ควร น้อยกว่าอุลตร้าแมนตัวแรกมากโขอยู่ จึงต้องมีการวางกลยุทธทางการตลาดใหม่ จะเห็นได้จากอุลตร้าแมนตัวถัดไปที่ Tsuburaya ส่งมาพิทักษ์โลกคือ อุลตร้าแมนแจ๊ค (Ultraman Jack) จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอุลตร้าแมนตัวแรก ด้วยคงคาดหวังว่าจะสามารถใช้ความคล้ายคลึงนี้ดึง rating กลับคืนมา และคงจะใช้กลยุทธ์อื่นๆทางการตลาดช่วยเหลือด้วย ซึ่งก็คงได้ผลบ้าง เพราะหลังจากนั้นบรรดาฮีโร่จากดาว M-78 ก็ทยอยสับเปลี่ยนกันมาพิทักษ์โลกอีกนับสิบตัว
ช่วงวัยสิบกว่าขวบของผม มีหลายครั้งที่บรรดาพี่น้องอุลตร้าจากดาว M-78 ได้เข้ามาเกี่ยวข้องชิดใกล้มากขึ้น เมื่อ Tsuburaya Production ร่วมกับบริษัท ไชโยภาพยนต์ ของไทย สร้างภาพยนต์ที่ถือได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ของอุลตร้าแมนเลยทีเดียว เพราะไม่เคยพบว่ามีปรากฏแบบนี้ที่ไหนมาก่อน นั่นก็คือภาพยนต์เรื่อง “หนุมาน พบ เจ็ดยอดมนุษย์” (รายละเอียดจะกล่าวถึงในภายหลังต่อไป) เป็นการนำเอาซเูปอร์ฮีโร่ของวรรณกรรมอินเดียที่ไทยรับมาประยุกต์เข้ากับวิถีไทย คือ “รามเกียรติ์” มาร่วมมือกับซูเปอร์ฮีโร่จากดาว M-78 ปราบเหล่าสัตว์ประหลาดที่ออกอาละวาดสร้างความเดือดร้อนบนโลก รู้สึกว่าภาพยนต์เรื่องนี้จะทำรายได้ถล่มทลาย เพราะเด็กๆล้วนอยากดูหนุมาน ออกมาฟาดฟันกับเหล่าสัตว์ประหลาด พร้อมๆกับพี่น้องอุลตร้าทั้งสิ้น (คงต้องยอมรับว่า ผู้ชมในวัยนั้นคงอยากดูพี่น้องอุลตร้ามากกว่าเพราะคุ้นเคยกับเหล่าอุลตร้าแมนอยู่แล้ว ในขณะที่ไชโยภาพยนต์ อาศัยเหตุนี้เป็นกุศโลบายในการนำเสนอพระเอกของฝ่ายไทยให้ซึมซับเข้าสู่จิตใจของเด็กไทยด้วย เพราะคงเข้าใจดีว่า หากทำภาพยนต์ที่มีแต่หนุมานตัวเดียวออกมาปราบเหล่าร้าย อาจไม่ดึงดูดใจเด็กไทยได้เท่ากับมีพี่น้องอุลตร้าเหาะลงมาร่วมวงด้วย ซึ่งในความเห็นของผมเอง ไชโยภาพยนต์ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับประเด็นนี้ในระดับหนึ่งที่ค่อนข้างมากทีเดียว ยุคนั้นเด็กรุ่นผม ใครไม่รู้จักหนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์เป็นเชยแหลก ผมเองยังร้องจะไปดูภาพยนต์เรื่องนี้เลย จำได้ว่าตอนพี่น้องอุลตร้าเหาะมาปรากฎตัวครั้งแรกในเรื่อง เด็กๆเฮกันจนโรงภาพยนต์แทบถล่มทลาย ดังกว่าตอนหนุมานแปลงกายออกมาหลายเท่าทีเดียว แต่อย่างว่าล่ะครับ จะเอาสาระอะไรกันมากกับเด็กอายุสิบขวบแบบนั้น ขอเพียงดูสนุกก็พอใจแล้ว
กลับมาเรื่องปฐมเหตุอุลตร้าของเราต่อ หลังจากที่ผมเข้าสู่วัยทำงาน ก็ดูเหมือนจะห่างๆจากบรรดายักษ์ที่เงินพวกนี้ไปพักใหญ่ๆ เพราะทุกท่านคงเข้าใจว่า ในวัยทำงานเป็นวัยที่ตั้งเนื้อตั้งตัว แค่เอาเวลาไปคิดเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวจิปาถะ ก็แทบจะไม่มีเวลาไปนึกถึงเรื่องอื่นใดแล้ว อุลตร้าแมนจึงค่อนข้างห่างหายไปจากชีวิตผม อีกเหตุผลหนึ่งคือ รัฐบาลในยุคนั้นมีนโยบายในการต่อต้านสินค้าญี่ปุ่น อุลตร้าแมนก็เลยถูกแบนไปด้วย ดังนั้นหลังจากอุลตร้าเซเว่น จึงไม่มีอุลตร้าแมนคนใดได้มาเยี่ยมเยือนจอโทรทัศน์เมืองไทยอีกเลยด้วยเหตุผลทางการเมือง ผ่านมาอีกนานหลายปีสถานการณ์จึงคลี่คลาย มีการเปิดประเทศเพื่อรับกระแสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอีกครั้ง บรรดาพี่น้องอุลตร้าจึงได้มีโอกาสกลับมาทักทายเด็กไทย โดยกลับมาทักทายแบบย้อนหลัง คือนำมาฉายหลังจากที่สร้างและฉายในญี่ปุ่นแล้วหลายปี
อุลตร้าแมนที่ถูกนำเข้ามาฉายอีกครั้งหลังสถานการณ์ทางการเมืองดังกล่าว ได้แก่ อุลตร้าแมน(คนแรก – รายนี้นำมาฉายใหม่เพื่อเรียกน้ำย่อยและรื้อฝืนความหลัง) , อุลตร้าเซเว่น , อุลตร้าแมนแจ๊ค – บ้านเราเรียกอุลตร้าแมน 2 หรือ นิวอุลตร้าแมน เพราะรูปร่างหน้าตาคล้ายกับอุลตร้าแมนตัวแรก ชื่อ “แจ๊ค” เพิ่งมาปรากฏในช่วงหลังๆ , อุลตร้าแมน เอซ (ACE) หรือบ้านเราเรียก อุลตร้าแมน เอ ผมเข้าใจว่าคงเป็นนโยบายรัฐบาลเช่นกันในการปรับเปลี่ยนชื่อดังกล่าว เพราะช่วงหลังมีทั้ง อุลตร้าแมนคิง อุลตร้าแมนแจ๊ค และอุลตร้าแมน เอซ แล้วก็บังเอิญคำว่า King , Jack และ Ace เป็นคำในภาษาของวงการเล่นไพ่ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคงคิดมาก กลัวว่าจะเกิดเป็นการมอมเมาเด็กขึ้นมาอีก เลยให้เปลี่ยนชื่อ เป็น อุลตร้าแมน 2 และ อุลตร้าแมน เอ แล้วเด็กไทยก็รู้จักอุลตร้าแมนทั้ง 2 ตัวในชื่อ อุลตร้าแมน 2 และ อุลตร้าแมน เอ มาโดยตลอด ผมเองก็เพิ่งจะมารู้ตอนโตแล้วว่าที่แท้ อุลตร้าแมน 2 มีชื่อจริงว่า อุลตร้าแมน แจ๊ค และอุลตร้าแมนเอ มีชื่อจริงว่าอุลตร้าแมนเอซ (ไม่รู้ทางญี่ปุ่นคิดอย่างไรจึงตั้งชื่อแบบนี้ ใครรู้บอกผมที)
อุลตร้าแมนยุคแรก ตัวสุดท้ายที่ได้เข้ามาฉายในเมืองไทย ดูเหมือนจะเป็นอุลตร้าแมนทาโร่ ซึ่งเป็นน้องคนสุดท้องของเหล่าพี่น้องอุลตร้า เป็นตัวที่เด็กๆชอบมากตัวหนึ่ง เพราะมีเขา ดูสวยสง่ากว่าตัวอื่น (แต่ถ้าเป็นคนถูกสวมเขา กลับบอกว่าไม่ดี..) หลังจากนั้นอุลตร้าแมนก็ห่างหายไปจากจอโทรทัศน์เมืองไทยไปอีกพักใหญ่ๆ เพราะหลังจากอุลตร้าแมนทาโร่ ก็มีอุลตร้าแมนเลโอ , อุลตร้าแมน 80 ฯลฯ แต่ก็ไม่ปรากฏว่าได้มาฉายในโทรทัศน์ของไทย เด็กไทยอย่างผมจึงได้รู้จักอุลตร้าแมนดังกล่าวจากในหนังสือการ์ตูนหรือหนังสือแมกกาซีนเท่านั้น
ทางญี่ปุ่นเองก็เว้นช่วงการสร้างอุลตร้าแมนยาวพอสมควร โดยหันไปสร้างภาพยนต์แนวเดียวกันนี้โดยฮีโร่คนอื่นแทน คงกลัวว่าลูกค้าจะเบื่อฮีโรที่มาจากดาว M-78 ช่วงนั้นจึงไม่ปรากฏยักษ์สีเงิน เหาะลงมาจากฟากฟ้าเพื่อปกป้องโลกอีกนานหลายปี
มีคำกล่าวที่ว่า “ชีวิตมีทางออกของมันเสมอ” อุลตร้าแมนก็เช่นกัน หลังจากที่ไม่มีการสร้างบรรดาอุลตร้าฮีโร่จากเกาะญี่ปุ่นมานานหลายปี อุลตร้าแมนก็มีทางออกของตัวเอง แนวคิดแบบปรัชญาตะวันออกเริ่มเป็นที่นิยมของชาวตะวันตก รวมไปถึงแนวคิดและความนิยมในอุลตร้าแมนก็เช่นกัน ส่งให้เกิดอุลตร้าแมนสายพันธุ์ใหม่ที่ผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก เช่น อุลตร้าแมน เกรท (Ultraman Great) ซึ่ง Tsuburaya ร่วมทุนกับออสเตรเลียสร้างขึ้นมา เป็นอุลตร้าแมนที่มีกลิ่นนมเนยเจือปนอยู่ไม่น้อย จนดูแล้วแปลกๆ ดีไซน์มีการปรับแต่งให้ออกแนว realistic มากขึ้น การผลิตหุ่นและ effect ต่างๆ รวมไปถึงฉากดูสมจริง ตระการตา ่พระเอกก็ยังเป็นคนญี่ปุ่น แต่พูดภาษาอังกฤษกันทั้งเรื่อง ตามมาด้วยอุลตร้าแมนเพาเวอร์ด (Ultraman Powered) สร้างโดย Tsuburaya ร่วมทุนกับอเมริกัน ตัวนี้ออกฝรั่งเต็มตัว ทั้งหุ่นและรูปร่างหน้าตา เครื่องแต่งกาย โครงเรื่อง และแนวคิด แทบจะออกแนวตะวันตกทั้งหมด มากกว่าอุลตร้าแมนเกรทหลายเท่า แถมมีกัปตันของหน่วยพิทักษ์โลกเป็นอเมริกันนิโกรอีกต่างหาก
อุลตร้าแมนเกรท ดูเหมือนจะได้ฉายในเมืองไทยทางช่อง 9 อสมท. ส่วนอุลตร้าแมนเพาเวอร์ด เพิ่งเห็นเป็น VCD เมื่อไม่นานมานี้ ผมเคยซื้อมาดูแล้ว ไม่ค่อยประทับใจเท่าใดนัก รู้สึกบรรยากาศความเป็นอุลตร้าแมนแบบตะวันออกที่คลาสสิคได้สูญหายไปมากทีเดียว แต่บางคนอาจจะชอบ เช่น คุณเวนย์ โคอิสุมิ เจ้าของเว็บไซต์ Absolute Ultraman ที่บอกว่าอุลตร้าแมนเพาเวิร์ดมีดีไซน์เจ๋งมาก ...แหม..อันนี้ก็แล้วแต่ทัศนะของแต่ละท่านนะครับ คนเราอาจรักชอบแตกต่างกันได้ ไม่มีใครผิดใครถูก
อุลตร้าแมนได้กลับมาหาผมอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งมีผลทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับยักษ์สีเงินผู้ปกป้องโลกในอดีตได้กลับคืนมา ซึ่งการกลับมาของอุลตร้าแมนในครั้งนี้ ดูแตกต่างออกไปจากยุคก่อน ได้แก่
อุลตร้าแมน ติก้า (Ultraman TIGA) ได้ออกอากาศทางช่องสาม อสมท.ทุกเช้าวันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 6.30-7.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ผมเพิ่งตื่นนอนและเตรียมตัวไปทำงาน จึงมีโอกาสได้ดูทุกวัน อุลตร้าแมนติก้า เป็นอุลตร้าแมนที่ฉีกแนวออกไปจากอุลตร้าแมนคลาสสิคตัวอื่นเป็นอย่างมาก ในอดีตแม้ว่าจะมีอุลตร้าแมนบางตัวไม่ได้มาจากดาว M-78 เช่นอุลตร้าแมนเลโอ แต่ก็อยู่ในจักรวาลหรือ Time-line เดียวกัน มีความเกี่ยวพันกัน หรือรู้จักกัน มีการมาปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือกันบ้างตามสมควร แต่อุลตร้าแมนติก้า เป็นอุลตร้าแมนจากคนละ Universe หรือ Time-line กล่าวคือ ไม่มีความเกี่ยวพันกับบรรดาอุลตร้าแมนรุ่นคลาสสิคหรือดาว M-78 เลย แต่เป็นอุลตร้าแมนที่มาจากเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่มีพื้นฐานเป็นแสง(Light)ทำหน้าที่ปกป้องอารยธรรมของโลกมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ (30 ล้านปีที่แล้ว)ที่คืนชีพขึ้นมาเพื่อปกป้องโลกจากการรุกรานของสัตว์ประหลาดจากอวกาศอีกครั้งในยุคสมัยของศตวรรษที่ 21 ในเรื่องนี้ไม่มีใครเคยรู้จักอุลตร้าแมนรุ่นคลาสสิคอื่นๆเลย ไม่มีใครรู้จักหน่วยวิทยะ หรือหน่วย TDF ซึ่งเป็นเรื่องของอีกจักรวาล หรือ อีก Time-line ที่แตกต่างจากอุลตร้าแมนคลาสสิคโดยสิ้นเชิง (มีเพียงครั้งเดียวที่มีการข้ามเส้นเวลาและมิติ ทำให้อุลตร้าแมนทิก้ามีโอกาสได้พบกับอุลตร้าแมนคนแรก แต่ก็ไม่ได้มีการอธิบาย หรือทำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันมากกว่านี้)
อุลตร้าแมนติก้ามีโครงเรื่องที่ซับซ้อนกว่าอุลตร้าแมนดั้งเดิม มีลักษณะเป็น Drama มากขึ้น ตัวเอกมีความเป็นมนุษย์ มีพ่ายแพ้ มีผิดหวัง และมีปัญหาชีวิตเหมือนคนอื่นๆ มีการใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟฟิกมาช่วยในการสร้างภาพและเทคนิคพิเศษหรือ Special effect อย่างมากมายอย่างชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในอุลตร้าแมนยุคคลาสสิค
อุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยม (Ultraman Millennium) จะว่าเป็นอุลตร้าแมนสายพันธุ์ใหม่ก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจากผู้สร้างขึ้นมาคือ ไชโยโปรดักชั่น (คือไชโยภาพยนต์ในอดีต) จึงเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยม ได้รับการขนานนามดังกล่าวเนื่องจากถูกสร้างสรรค์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ.2000 ซึ่งเป็นไปตามกระแส “Millennium” ที่กำลังมาแรงมาก แต่ก็เป็นต้นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และสิทธิประโยชน์ในการสร้างสรรค์อุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยมขึ้น ระหว่างไชโยโปรดักชั่นและ Tsuburaya ขณะนี้คดียังอยู่ในชั้นศาล
อุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยม หรืออีกชื่อคือ อุลตร้าแมน โชว เป็นผลงานสร้างสรรค์ของไชโยโปรดักชั่น กำหนดให้ผู้แสดงเป็นชาวไทย สร้างในไทย และมีการแสดงโชว์พิเศษของอุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยมเพื่อเป็นการเปิดตัว และน่าจะเป็นการสร้างผลทางการตลาด และสร้างกระแสกดดันทางคดีความที่ฟ้องร้องกันอยู่ด้วยเช่นกัน การแสดงดังกล่าวมีชื่อเป็นทางการว่า “Ultraman Live in Bangkok” จัดแสดงที่ Impact Arena เมืองทองธานี ซึ่งนอกจากจะมีบรรดาเหล่าพี่น้องอุลตร้าในยุคคลาสสิคมาร่วมแสดงครบถ้วนพร้อมทั้งบรรดาสัตว์ประหลาดแล้ว ก็จะมีการเปิดตัวอุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยม หรืออุลตร้าแมนโชวตัวนี้ด้วย ทราบมาว่ากวาดเงินจากผู้ปกครองเด็กๆกันถล่มทลาย ทั้งค่าเข้าชม ค่าของที่ระลึก ค่าลิขสิทธิ์ในการผลิตของเล่น และอื่นๆจิปาถะ ผมเองได้ไปที่งานเพื่อหาซื้อของที่ระลึกด้วย แต่ไม่ได้เข้าชมเพราะดูการแสดงจะเหมาะแก่เด็กๆมากกว่า
ทั้งอุลตร้าแมนติก้าและอุลตร้าแมนมิลเลนเนี่ยม ทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับอุลตร้าแมนของผมกลับมาอีกครั้ง หลังจากสูญหายไปในการเวลานานนับสิบปี ซึ่งแฟนของอุลตร้าแมนที่อยู่ในวัย 35 ขึ้นไปคงจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับผม เหมือนกับว่าเพื่อนสนิทที่หายไปนานแสนนาน แล้วจู่ๆก็กลับมาเยี่ยมเยียนกันอีกครั้ง แม้ว่าครั้งนี้จะดูหน้าตาท่าทางแปลกๆไปบ้าง แต่ก็ถือว่าไม่ใช่สาระสำคัญ เป็นเพียงประเด็นปลีกย่อย ขอเพียงทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับยักษ์สีเงินของผมกลับคืนมา มันก็เป็นความสุขแล้ว
หลังจากนี้มีเหล่าบรรดาอุลตร้าแมนสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมาอีกหลายตัว ทั้งสายพันธุ์การ์ตูนจากอเมริกา และสายพันธุ์จักรวาลใหม่จากญี่ปุ่น เช่น อุลตร้าแมนไดน่า (Ultraman Dyna) อุลตร้าแมนไกญ่า (Ultraman Gaia) อุลตร้าแมนอากุล (Ultraman Agul) อุลตร้าแมนคอสมอส (Ultraman Cosmos) ฯลฯ นี่ยังไม่รวมถึงภาพยนต์การกลับมาของอุลตร้าแมนยุคคลาสสิคในยุคใหม่ เช่น อุลตร้าแมนเซเว่น ที่กลับมาปกป้องโลกอีกครั้งโดยใช้ร่างมนุษย์คนใหม่ (เพราะร่างเดิมที่เป็นโมโรโบชิ แดน เริ่มอายุมากเต็มที ชักต่อสู้ไม่ไหว แหม…ก็มันตั้ง 20 กว่าปีแล้วนี่ครับ คนแสดงกับคนดูต่างก็แก่ไปตามๆกัน เลยต้องปรับเปลี่ยนร่างมนุษย์ใหม่เสียที)
ที่ผมสาธยายมาทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นการปูพื้นให้ท่านได้ทราบถึงภูมิหลังอันแสนสุขระหว่างผมกับบรรดาพี่น้องอุลตร้าทุกสายพันธ์ ที่แต่เดิมเป็นเพียงภาพยนต์โทรทัศน์ แต่บัดนี้มันกลายเป็นเหมือนความทรงจำในตัวของเพื่อนสนิท ผู้ที่ในอดีตเคยสอนให้เด็กคนหนึ่งได้ซึมซับความยุติธรรม การต่อสู้ ความหวัง และการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาให้กับเด็กชายคนหนึ่ง โดยใช้สัญลักษณ์ของการเป็นซูเปอร์ฮีโร่เป็นสื่อให้เกิดการเรียนรู้โดยไม่รู้ตัว และเพื่อนคนนั้นหลังจากได้ห่างหายไปนานแสนนาน บัดนี้ได้กลับมาเยี่ยมเยือน ทำให้ความทรงจำเก่าๆ กลับมาพองฟูในหัวใจขึ้นมาอีกครั้ง
ณ บัดนี้ อุลตร้าแมนจึงไม่ใช่เป็นเพียงฮีโร่ส่วนตัวของใครแต่เพียงผู้เดียว แต่เขาได้พัฒนาตามแนวทางของตนเองไปสู่การเป็นที่รัก , เป็นแบบอย่าง และเป็นความหวังของคนกว่าครึ่งค่อนโลก เกินกว่าซูเปอร์ฮีโร่คนใดจะสามารถทำได้ในประวัติศาสตร์ภาพยนต์ของโลกเลยทีเดียว
โดยส่วนตัว ผมมีความตั้งใจที่จะศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุลตร้าแมนมานานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่ค่อยว่างและยังขาดแรงบันดาลใจ จนกระทั่งได้เห็นพัฒนาการของอุลตร้าแมนในยุคหลังๆที่แสดงให้เห็นถึงบุคลิกในมุมลึกของเหล่าบรรดาอุลตร้าแมนทั้งจากยุคคลาสสิค และยุคใหม่ที่อยู่คนละ Time-lime กันกับยุคคลาสสิค ทำให้เริ่มเกิดความสนใจขึ้นอีกครั้ง ประกอบกับเริ่มสะสมโมเดลของบรรดาอุลตร้าแมน โดยตั้งต้นที่อุลตร้าแมนตัวที่ชื่นชอบก่อน คืออุลตร้าเซเว่น เรื่อยไปถึงอุลตร้าแมน ติก้า(Ultraman Tiga) , อุลตร้าแมนเอกุล (Ultraman Agul) ,อุลตร้าแมนไกอา (Ultraman Gaia), อุลตร้าแมนไดน่า (Ultraman Dyna)ฯลฯ ซึ่งตอนมีสะสมอยู่แล้วรวมทั้งสิ้นร่วมๆ เกือบครึ่งร้อยชิ้น ประกอบกับผมชอบ search เรื่องราวเกี่ยวกับอุลตร้าแมนในอินเตอร์เน็ต ทำให้พบเว็บไซต์ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับอุลตร้าแมนที่น่าสนใจมากมาย จึงเกิดไอเดียว่า ถ้านำข้อมูลเหล่านั้นมารวบรวม แปลเป็นภาษาไทย มีบทวิเคราะห์และความคิดเห็นตลอดจนประสบการณ์ส่วนตัว จัดให้เป็นหมวดหมู่ ก็จะเป็นสิ่งที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจและผู้ศึกษามิใช่น้อย ประกอบกับเห็นว่าในปัจจุบันยังไม่มีเว็บไซต์ใดที่นำเสนอเกี่ยวกับอุลตร้าแมนเป็นภาษาไทยได้อย่างเป็นระบบ เลยลองสร้างเป็นเว็บไซต์นำร่องขึ้นมา ซึ่งผมหวังว่าจะสามารถเป็นจุดตั้งต้นแห่งการพัฒนาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูลอุลตร้าแมนสำหรับผู้สนใจทุกท่านได้ต่อไป
ในการศึกษาและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอุลตร้าแมนบนเว็บไซต์ครั้งนี้ คงไม่อาจสำเร็จลุล่วงไปได้ หากขาดแหล่งข้อมูลที่ดี โดยผมได้ศึกษาจากเว็บไวต์ วีซีดี ตลอดจนหนังสือเกี่ยวกับอุลตร้าแมน ทั้งภาคภาษาไทยและต่างประเทศ ซึ่งผมขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ และจะได้กล่าวอ้างถึงเมื่อเนื้อหาตอนใดกล่าวอ้างอิงไปถึงต่อไป
อย่างไรก็ดี เนื่องจากในปัจจุบันมีหลายบุคคล หลายกลุ่มผลประโยชน์ที่อ้างสิทธิประโยชน์ในอุลตร้าแมน ซึ่งผมถือเป็นเรื่องนอกขอบเขตการจัดทำเว็บไซต์นี้ของผม เนื่องจากผมทำด้วยความรักความชอบส่วนตัว ไม่มีเรื่องผลประโยชน์หรือธุรกิจมาเกี่ยวข้อง ภาพต่างๆที่ปรากฏในเว็บไซต์นี้ส่วนใหญ่มาจากการ download จากเว็บไซต์อื่น หรือ scan จากหนังสือต่างๆมาตกแต่งด้วย Photoshop เอาเอง ผมจึงไม่ประสงค์จะอ้างสิทธิในรูปภาพทั้งหมด เนื่องจากสิทธิต้องเป็นของผู้สร้างสรรค์อุลตร้าแมนหรือผู้ได้รับโอนสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น จุดประสงค์ของการนำภาพลงเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้ที่รักชอบอุลตร้าแมนเหมือนกันเพียงอย่างเดียว ไม่มีวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ ดังนั้นจึงของเชิญ download ได้ตามใจชอบ ยกเว้นในส่วนของบทความหรืองานเขียน ซึ่งเป็นการสร้างสรรค์ของผมโดยแท้ และเป็นสิ่งเดียวที่ผมขอสงวนสิทธินี้ไว้ตามกฎหมาย
ขอบคุณมากครับ
อุลตร้าหม่อง
1 มิถุนายน 2546