Montfort27
บอกเล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพ => ภาพเก่าเล่าเรื่องราว => ข้อความที่เริ่มโดย: เก๋ ยอดดอย ที่ กันยายน 12, 2007, 08:44:30 PM
-
;D การกางเต็นท์ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครบางคนในรูปนี้
เรื่องราวจะเป็นยังไง โปรดคอยติดตามด้วยความระทึก ;)
-
8) กาลครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว เหล่าสหายสามสี่คน
ชวนกันหลบลี้หนีความวุ่นวาย ขึ้นไปบนดอยสูงห่างไกลความศิวิไลซ์
นัยว่าจะไปสงบจิตใจสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกบนยอดดอยสูงเสียดฟ้า
บิ้ก บุรินทร์ 603 อาสากางเต็นทเป็นคนแรก
ด้วยความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมือใหม่ ร้อนวิชามากๆ
"กางเต็นท์ เป็นเรื่องหมูๆ" บิ้ก กล่าวพร้อมกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างกวนโอ๊ย
-
;) กาลครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว เหล่าสหายสามสี่คน
ชวนกันหลบลี้หนีความวุ่นวาย ขึ้นไปบนดอยสูงห่างไกลความศิวิไลซ์
นัยว่าจะไปสงบจิตใจสัมผัสอากาศหนาว ชมทะเลหมอกบนยอดดอยสูงเสียดฟ้า
บิ้ก บุรินทร์ 603 อาสากางเต็นทเป็นคนแรก
ด้วยความเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างมือใหม่ ร้อนวิชามากๆ
"กางเต็นท์ เป็นเรื่องหมูๆ" บิ้ก กล่าวพร้อมกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างกวนโอ๊ย
เอารูปนี้ดีกว่า แจ่มกว่า
-
:o " เฮ้ย บิ้ก มึงต้องให้กูช่วย ผู้รับเหมาใหม่อย่างมึง ต้องอาศัยวิศวกร โยธาอย่างกูคอยแนะนำ"
เสี่ยหมอ ริมดอย วิศวกรโยธาดีกรี ป.โท จาก USA เสนอตัวเข้ามาแทรกอย่างไม่เกรงใจเสี่ยบิ้ก
-
" เออ จะอั้นก็ดีละ หมู่คิงกางเต็นท์ไปเน้อ ฮาจะไปเข้าห้องน้ำก่อนเน้อ ใค่ขี้บะ"
ผมกล่าวด้วยความสบายใจ ด้วยหวังว่าทั้งวิศวกรเอก และ ผู้รับเหมามือใหม่ กับงานกางเต็นท์คงจะผ่านฉลุย ไม่ต้องเหนื่อย
กลับมาเดี๋ยวก็จิบเบียร์ ได้ที่แล้ว ก็จะเข้าเต็นท์นอนพักผ่อนเพื่อพร้อมเดินทางในวันต่อไป
สังเกตสีหน้าของ หมอ ริมดอย วิศวกร ป.โท( ขอย้ำ ) กับ บิ้ก ผู้รับเหมารายใหญ่ ทั้งคู่ดูจะมั่นใจกับการกางเต็นท์มากๆๆๆๆ
-
>:( ???
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที หลังจากที่เสร็จธุระส่วนตัวแล้ว
ผมก็เดินลงจากดอยมาถึงสถานที่กางเต็นท์
ก็พบกับสภาพนี้ ......
......
ิไอ่บิ้ก กะ ไอ่หมอ ริมดอย ยังกางเต็นท์ไม่เสร็จครับ
นั่งหัวเราะ ซึ่งกันและกัน
แถมยังเล่นหมากฮอส ฆ่าเวลาหน้าตาเฉย
ทั้งคู่กล่าวขึ้นมาอย่างน่าถีบว่า
" เฮ้ยเก๋ เต็นท์นี่มันก๋างจะใดวะ "
....
อ้าว เวรแล้วไหมละ อุตสาห์ไว้ใจปล่อยให้กางเต็นท์
กรูไม่น่าไว้ใจมันกางเต็นท์เลยยยยยยย
ไอ่วิศวกร กะไอ่ผู้รับเหมา เอ้ยยยย
"คิงสองคน ยังก๋างเต็นท์กั๋นบ่ได้เตื่อกา เมายะอะหยังกั๋นวะ มันยากตรงไหนเนี่ย"
-
:laugh: เสี่ยหมออ้างหน้าตาเฉยว่า
"โครงสร้างเต็นท์มันดูเหมือนจะง่าย แต่เวลากางมันออกมามันเข้าใจยากจัง ไม่มีคานมีเสา เหมือนโครงสร้างอาคารที่ฮาออกแบบ" ว่าเข้าไปนั่น
ในขณะที่เสี่ยบิ้ก เอาแต่นั่งหัวเราะน้ำหูน้ำตาไหล เนื่องด้วยตัวเองก็เป็นศิษย์เอกของเสี่ยหมอ ในเรื่องงานก่อสร้างอยู่เหมือนกันในสมัยนั้น
...
สุดท้ายผมจำต้องสาธิตให้สองเกลอหัวแข็งดูเป็นขวัญตา ก่อนที่ทั้งสองจะร้องออกมาเกือบจะพร้อมๆกันว่า
"อ๋อ มันเป๋นจะอี้ลอ ฮาหยังมาง่าวแต้ง่าวว่า" 555 :laugh: :D
-
;) ก่อนที่จะอำลาทริปนั้นไป ผมจึงต้องปลุกทั้งสองคนตื่นแต่เช้าเป็นการทำโทษ เพื่อไปดูทะเลหมอกตั้งแต่ตีห้า
เสี่ยหมอกล่าวชื่นชมบรรยากาศยามเช้าในวันนั้นว่า "โอ้ ไม่ได้ตื่นเช้าเช่นนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ช่างสดชื่นอะไรเช่นนี้"
-
กำแต่ไม่แบแต้ๆ เพื่อนเอ๋ย ;D
-
;D ในขณะที่กบน้อยยัง งงๆ อยู่ว่า "เมื่อคืนกูกินอะไรไปวะทามมัยมันมาวววอย่างงี้"
-
;D เฮียตี้ "เฮ้ย ไอ่บิ้ก คิงดูไว้ เปิ้นก๋างกั๋นจะอี้"
??? บิ้ก "เอ้อ ตูยังงงๆอยู่ว่ะ ทำไมตูกางไม่ได้วะ เหมือนจะง่ายแต่ตูทำไม่ได้ ฮือ ฮือ"
-
;) บทสรุป ด้วยรูปภาพ
-
นับเป็นตราบาปของวิศวกรหนุ่มคนหนึ่งทีเดียว
กับเหตุการณ์กางเต๊นท์คืนนั้น
การสร้างตึกสูง 100 เมตรขึ้นไปบนฟ้า
ยุ่งยากน้อยกว่าการตั้งเต๊นท์สูงไม่ถึง 2 เมตร
เรื่องของเรื่องคือ
เฮียตี้ซื้อเต๊นท์รุ่นใหม่มาจาก USA
พอนัดกันจะไปนอนบนดอยกันครั้งนั้น
เฮียเสือกไม่ว่าง
เลยมอบเต๊นท์รุ่นใหม่ให้ไปลองใช้กัน
เมื่อถึงที่หมายเวลาย่ำค่ำ เหลืออยู่กับเสี่ยบิ๊ก 2 คน
กับภารกิจกางเต๊นท์ และตั้งโต๊ะสุรา
จึงบรรจงแกะถุงเต๊นท์ สำรวจอุปกรณ์ภายใน
พบว่ามีผ้าใบรูปข้าวหลามตัดขนาดประมาณ 5x5 เมตร
และเสาเพียง 2 อัน ขอย้ำว่า 2 อัน
ตามทฤษฎีที่ร่ำเรียนมา
อาคาร 1 หลัง ต้องมีเสาอย่างน้อย 4 ต้น
สมองวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว
ได้ข้อสรุปว่า
"ไอ้บิ๊ก มึงทำเสาหายไปไหนอีก 2 อัน"
คุณบิ๊กซึ่งกำลังงงไม่แพ้กัน รีบแก้ตัว
"กูปล่าวนา หล่นอยู่หลังรถม้างงง"
ที่น่าเจ็บใจคือ ผมเชื่อมัน
จึงเดินกลับไปค้นหาทั่วรถ ไม่มี
เอาหละสิ สงสัยเฮียโดนฝรั่งหลอกซะแล้ว
เอาวะ ในเมื่อมีทั้งผู้รับเหมาและวิศวกรช่วยกัน
เราต้องหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้น่า
ก็เลยพยายามกันอยู่หลายรูปแบบ
ที่คิดกันว่าชาญฉลาด
กางผ้า 1 ผืน ด้วยเสา 2 ต้น
ลองคิดกันเล่นๆดูซิ...ติ๊ก...ต๊อก...ติ๊ก...ต็อก...
เวลาผ่านไป 15 นาที ด้วยดีกรีปริญญาโท
ผมจึงหาวิธีที่ดีที่สุดออกมาได้
คือตั้งเสา 2 ต้นที่มี ที่มุมผ้าตรงข้ามกัน 2 มุม
ส่วนอีก 2 มุมที่เหลือ
ก็ให้อีก 2 คนยืนถือไว้
คนที่ว่างก็ให้รีบกินเบียร์
แล้วมายืนถือมุมผ้าแทน 2 คนเดิม
เพราะไอ้ 2 คนนั้นจะเมื่อยพอดี
สลับกันไปอย่างนี้ เด๋วก็สว่างแล้ว
ปรากฏว่าไม่มีใครเห็นด้วยเลย
ไม่รู้ทำไม
-
:laugh: laugh laugh laugh laugh
หัวเราะ หัวเราะ หัวเราะ จนเมียที่นอนอยู่บนเตียง มองด้วยสายตางงๆ
"อ้าย.. เป๋นผีบ้ากา ใค่หัวคนเดียว...บ่มายะก๋านบ้านซักเตื้อ"
เสี่ยหมอ เล่าเรื่องได้เห็นภาพจริงเสียงจริง ยิ่งกว่าที่ผมเล่าอีกครับพี่น้อง
เรื่องมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ...555 555 หัวเราะ หัวเราะ
-
:-\
-
;D ;D ;D ;D ;D ;D
-
เราแนะนำว่าถ้ามันลำบ้าก ลำบากจริงๆ ก็กลับลงมากินเบียร์ที่ห้องนอนตัวเองแล้วเปิดแอร์ ก็ได้บรรยากาศเย็นๆ เอ๊าะ 555
-
;) น้องยอมไม่เข้าใจ
บรรยากาศมันต่างกัน
กินในห้องนอนตัวเอง บรรยากาศเก่าๆเดิมๆมันไม่ได้ฟิลลิ่ง ดับไฟกินยิ่งแล้วไปใหญ่
ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปข้างนอกบ้างสิจ๊ะ ลองกลางแจ้งดูสักวัน
แล้วจะรู้ว่า ความรู้สึกมันต่างกันมากกกกก อิอิอิ ;D >:D
-
:D
หรือต้องการภาพประกอบ
จัดให้เลยครับ
อันนี้กลางสายฝนอีกต่างหาก
แต่ระวังหน่อย ฟ้าอาจจะผ่าได้ ;D
-
เราแนะนำว่าถ้ามันลำบ้าก ลำบากจริงๆ ก็กลับลงมากินเบียร์ที่ห้องนอนตัวเองแล้วเปิดแอร์ ก็ได้บรรยากาศเย็นๆ เอ๊าะ 555
ขนาดน้องยอมชอบกินในห้องนอนลูกยังสามแล้ว ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศแบบเก๋ว่า ไม่มีเป็นสิบหร๋อฟ่ะ 555
-
>:D :laugh: :angel: >:D :laugh: :angel:
คริ คริ... หุ หุ...
-
;) อ.โกย ช่างมีมุมมองที่แหลมคมยิ่งนัก นับถือๆๆๆ :o ;D
-
เราแนะนำว่าถ้ามันลำบ้าก ลำบากจริงๆ ก็กลับลงมากินเบียร์ที่ห้องนอนตัวเองแล้วเปิดแอร์ ก็ได้บรรยากาศเย็นๆ เอ๊าะ 555
ขนาดน้องยอมชอบกินในห้องนอนลูกยังสามแล้ว ถ้าเปลี่ยนบรรยากาศแบบเก๋ว่า ไม่มีเป็นสิบหร๋อฟ่ะ 555
นั่นน่ะสิ อ.โก้ หรือไม่งั้นก็เป็นหมัน ไม่มีลูกไปเลยล่ะ