ตัวที่2..... ที่น่าสนใจ ของผม ตือ เหล้าเหมาไถ ( MOUTAI) จากจีน ....
พอดี อาฉ่าง หิ้วจากเมืองจีนมาให้ ตัวในภาพนี้ เป็นรุ่นที่ขายเฉพาะ DutyFree เท่านั้น บริหารจัดการขายโดย CAMUS
ประวัติของเหล้าเหมาไถ ....
เหล้าเหมาไถผลิตจากอำเภอเหมาไถแห่ง มณฑลกุ้ยโจวของจีน และได้ตั้งชื่อตามแหล่งผลิตหรือชื่อสถานที่ผลิตเหล้า
ความมีชื่อเสียงของเหล้าเหมาไถ เกิดจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน โดยเหมาไถเป็นเหล้าที่ผลิตจากข้าวฟ่าง และข้าวสาลี นำมาหมักเชื้อยีสต์เป็นเวลา 8 เดือน และมีการกลั่นถึง 7 ครั้ง หลังจากนั้นจะทำการบ่มไว้ในโกดังอีก 3 ปี แล้วจึงค่อยมีการนำมาบรรจุขาย การผลิตที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการผลิตเหล้าแต่ละครั้ง ทำให้ได้เหล้าในปริมาณจำกัด และเหตุนี้เองทำให้เหล้าเหมาไถมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเหล้าที่มีการปลอมแปลงมากที่สุดในประเทศจีน
การที่สุราเหมาไถได้ชื่อว่าเป็นสุราประจำชาติจีนนั้น มีเหตุผลอยู่หลายประการ ซึ่งได้แก่ กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมที่มีประวัติอันยาวนาน เทคนิคและขบวนการหมักบ่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัตถุดิบที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยม และวัฒนธรรมการผลิตที่ลึกซึ้ง รวมถึงในทางประวัติศาสตร์แล้ว สุราเหมาไถได้แสดงบทบาทอันทรงคุณค่าในด้านการเมือง การต่างประเทศ เศรษฐกิจ และชีวิตประจำวันของชนชาติจีน นอกจากนี้ ยังตัดสินจากที่เหล้าเหมาไถได้รับความนิยมชมชอบจากผู้นำจีนมาแล้ว 3 ยุค 3 สมัย จึงถือเป็นสุราที่ได้ผ่านการทดสอบอันยาวนานในตลาดสุราจีน และความชื่นชอบในสุราเหมาไถของชาวจีนนั้น เกิดจากการที่พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติของสุราเหมาไถในชีวิตประจำวันของพวกเขาเอง ด้วยประการเหล่านี้ เหล้าเหมาไถจึงเป็นเหล้าที่คู่ควรแก่คุณค่าที่สุด มีเอกสารทางประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า เหล้าจวี๋เจี้ยง เป็นบ่อเกิดแห่งเหล้า และ เหล้าจวี๋เจี้ยง ที่ผลิตในอำเภอเหมาไถในปัจจุบัน เคยได้รับความนิยมชมชอบในรสชาติอันหอมหวนจากจักรพรรค ฮั่นหวู่ตี้ ในยุคราว 2,000 กว่าปีก่อน และสุราเหมาไถได้รับเลือกให้เป็นสุราที่ใช้ในราชสำนักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปี ค.ศ. 1915 ในงานมหกรรมสินค้านานาชาติปานามา ซึ่งจัดขึ้นที่ลอสแองเจอลิส ประเทศ สหรัฐอเมริกา เหล้าเหมาไถได้รับรางวัลเหรียญทอง และได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 ของเหล้ากลั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก จนกระทั่งกลายเป็นตัวแทนสินค้าจีนที่ก้าวสู่ตลาดโลกก่อนใคร
ปี ค.ศ. 1935 ในช่วงเวลาก่อนและหลังการเปิดประชุมครั้งสำคัญที่เมืองจุนอี้ของคณะปฏิรูปการปกครอง(พรรคคอมมิวนิสต์)ของจีน ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงที่ประเทศจีนตกอยู่ในภาวะความวุ่นวายทางการเมือง และในช่วงเวลาดังกล่าว มีประชาชนจีนที่อาศัยอยู่ในแถบเมือง จุนอี้ ต่างนำเหล้าเหมาไถไปมอบให้กับผู้นำอาวุโสและทหารของคณะปฏิรูป(พรรคคอมมิวนิสต์) เพื่อเป็นการให้กำลังใจ ผู้นำคณะปฏิรูปซึ่งได้แก่ เหมาเจ๋อตุง โจวเอินไหล จูเต๋อ และเติ้งเสี่ยวผิง ทุกคนต่างชื่นชอบในรสชาติของเหล้าเหมาไถ นอกจากนี้ อดีตผู้นำจีน โจวเอินไหล เคยกล่าวไว้ว่า ความสำเร็จของทหารคณะปฏิรูป ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้กับเหล้าเหมาไถ
ปี ค.ศ. 1949 หนึ่งคืนก่อนพิธีเปิดประเทศที่ยิ่งใหญ่ อดีตผู้นำจีน โจวเอินไหล ได้เรียกประชุมและตกลงเลือกเหล้าเหมาไถเป็นเหล้าที่ใช้ดื่มฉลองในงานพิธีเปิดประเทศ และใช้เป็นเหล้าที่ใช้ในการเลี้ยงรับรองแขกคนสำคัญ ในงานเฉลิมฉลองวันชาติจีน นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาระหว่างประเทศที่นครเจนีวา การเจรจาระหว่างจีนกับสหรัฐฯ และการเจรจาระหว่างจีนกับญี่ปุ่นนั้น เหล้าเหมาได้แสดงบทบาทสำคัญโดยเป็นตัวกลางพิเศษที่พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศคู่เจรจาซึ่งมีความขัดแย้งมายาวนาน และยังมีนับครั้งไม่ถ้วนที่ผู้นำจีนเลือกเหล้าเหมาไถเป็นของขวัญชิ้นพิเศษมอบให้กับผู้นำต่างชาติ
ปัจจุบัน ทุกครั้งที่มีการจัดงานสำคัญขึ้นที่สถานฑูตจีนในต่างประเทศ ก็มีจะมี กำหนดเสริฟเหล้าเหมาไถทุกครั้ง ดังนั้น เหล้าเหมาไถจึงได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในด้าน เสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเฉลิมฉลองความสำเร็จ และ กระชับมิตร ในปี ค.ศ. 1975 รองผู้นำจีน หวังเจิ้น ได้ประกาศในงานระดับชาติงานหนึ่งว่า เหล้าเหมาไถ เป็นเหล้าประจำชาติจีน
ปี ค.ศ. 1978 รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนสามารถควบคุมตัวผู้นำกลุ่มต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ได้ ทั้ง 4 คน นายเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำจีนในขณะนั้นทราบข่าวดีดังกล่าวก็ได้ยกแก้วเหมาไถขึ้น พร้อมกับกล่าวต่ออาจารย์และสหายที่ร่วมปฏิบัติการครั้งนั้นว่า ขอพวกเรามาร่วมดื่ม ขอให้ความไม่สงบภายในบ้านเมืองจงหมดสิ้นไป
ปี ค.ศ. 1984 นาย จู เซี๋ย ฟ่าน รองประธานสมาชิกคณะกรรมการสภาจีน มีคำกล่าวว่า เหล้าประจำชาติจีนเหมาไถ เป็นสุดยอด แห่งเมรัยจีน
ปี ค.ศ. 1999 นาย หยางปอ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมขนาดเบา มีคำกล่าวว่า เหล้าเหมาไถ เป็นเหล้าประจำชาติจีนที่คู่ควรแก่คุณค่า หลายต่อหลายครั้ง ที่เหล้าเหมาไถขึ้นแท่นอันดับหนึ่งอย่างเต็มภาคภูมิจากงานประกวดเหล้าที่ขึ้นชื่อในจีน และเหล้าเหมาไถได้กลายเป็นสินค้าจีนที่ขึ้นชื่อที่สุดรายแรก(อันดับ 1 ) ในยุค 80
ปี ค.ศ. 2000 เหล้าเหมาไถได้รับการยอมรับจากประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งสะท้อนวัฒนธรรมจีน ได้มีการบันทึกเหล้าเหมาไถลงในบันทึกประวัติศาสตร์จีน และเก็บรักษาสิ่งบันทึกดังกล่าวไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติของจีน
เหล้าเหมาไถนั้นเปรียบเสมือนนามบัตรใบหนึ่งที่ประเทศจีนแจกให้กับคนทั่วโลก ความนิยมดื่มเหล้าเหมาไถเริ่มจากทั่วทุกทิศของประเทศจีน จนกระทั่งไปสู่ทั่วทุกแห่งหนของโลก เหล้าเหมาไถถือได้ว่าเป็นสินค้าจีนตัวเดียวที่เจาะตลาดชนชั้นสูงของชาติตะวันตกซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ได้สำเร็จ.
เหมาไถ เคยได้รับรางวัลเหรียญทอง ในเทศกาล Panama International Fair ปี ค.ศ.1915 และเป็นที่นิยมชมชอบของบรรดาอดีตผู้นำรัฐบาลจีน ปัจจุบันเหมาไถยังเป็นที่นิยม เพื่อใช้ในงานพิธีต้อนรับบุคคลสำคัญของรัฐบาลจีน และประชาชนชาวจีนทั่วไปก็นิยมใช้สุราเหมาไถในต้อนรับแขก และใช้ในพิธีมงคลต่างๆอย่างแพร่หลาย จนมียอดจำหน่ายสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และปัจจุบันมีวางจำหน่ายมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ความมีชื่อเสียงของเหล้าเหมาไถ เกิดจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน โดยเหมาไถเป็นเหล้าที่ผลิตจากข้าวฟ่าง และข้าวสาลี นำมาหมักเชื้อยีสต์เป็นเวลา 8 เดือน และมีการกลั่นถึง 7 ครั้ง หลังจากนั้นจะทำการบ่มไว้ในโกดังอีก 3 ปี แล้วจึงค่อยมีการนำมาบรรจุขาย การผลิตที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการผลิตเหล้าแต่ละครั้ง ทำให้ได้เหล้าในปริมาณจำกัด และเหตุนี้เองทำให้เหล้าเหมาไถมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเหล้าที่มีการปลอมแปลงมากที่สุดในประเทศจีน
เหมาไถดังมาก และมีราคาสูง ทำให้พ่อค้าคนจีนหัวไสบางคน ไปตั้งโรงงานกลั่นเหล้า ทำการผลิตที่เมืองเดียวกับเหมาไถ และตั้งชื่อคล้ายๆ กัน ถือเป็นการลอกเลียนแบบ ไม่ใช่ของจริง และทำให้นักท่องเที่ยว หรือ คนที่อยากซื้อเหมาไถของแท้มักถูกหลอกให้ซื้อของปลอมแทน
+++วิธีเลือกเหมาไถของแท้
ดังนั้นถ้าไปเมืองจีน และอยากซื้อเหมาไถกลับมาเป็นของขวัญ หรือ เพื่อดื่มเอง มีหลักการสำคัญ 3 ประการในการสังเกต คือ 1.ต้องจำชื่อบริษัทที่ผลิตให้ดีคือ บริษัท กุ้ยโจว เหมาไถ (Kweichow Moutai Co.Ltd) เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ได้รับอนุญาตให้ทำการผลิตเหล้าเหมาไถนี้ 2.จะมีการผลิตที่เดียวเท่านั้นคือ ตำบลเหมาไถ เมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว 3.สังเกตที่โลโก้
เหมาไถ ปัจจุบันมีการผลิตมาหลายชนิด ที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมมอบเป็นของขวัญแก่กันมากที่สุดคือ Flying Fairy Moutai มี 3 ดีกรีคือ 38% 43% และ 53% ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของแอลกอฮอล์
Flying Fairy Moutai 53% มีรสชาติเข้มข้นที่สุดในกลุ่มนี้ที่คนจีนจะนิยมดื่มกันมาก เนื่องจากมีรสชาติใกล้เคียงกับรสชาติที่บ่มครบ 3 ปีที่สุด และคนภาคเหนือ และคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนก็นิยมดื่ม เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย เพราะอยู่ในพื้นที่เมืองหนาว ส่วนดีกรี 38% และ 43% นิยมซื้อมอบให้กับสุภาพสตรี หรือคนญี่ปุ่น เพราะนิยมดื่มเหล้ารสชาติไม่แรงนัก
นอกจากนี้ เพื่อใช้เป็นของขวัญ และเก็บที่ระลึก ในแต่ละปีบริษัทจะออกซีรีส์พิเศษขึ้นมา ซึ่งมาถึงปัจจุบันนี้ได้มีรุ่นพิเศษประมาณ 10 กว่ารุ่น ซึ่งต้องทำการตรวจเช็คจากเวปไซด์ของบริษัทกุ้ยโจว เหมาไถฯ เสียก่อน เพื่อดูได้ว่ามีรุ่นใดบ้างก่อนซื้อ เพราะจะได้ไม่ถูกหลอก โดยซีรีส์ที่ออกมาแล้วได้รับความนิยมมากได้แก่ รุ่น 15 ปี 30 ปี และ50 ปี ซึ่งเป็นอายุการบ่มเหล้าเหมาไถที่นานกว่าปกติ จะมีรสชาตินุ่มละมุนมากกว่าเหมาไถ Flying Fairy Moutai โดยเหมาไถอายุ 50 ปี จะมีราคาสูงสุด ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาทต่อขวด รุ่น 30 ปี มีราคาประมาณ 29,000 บาท และรุ่น 15 ปี มีราคาประมาณ 19,000 บาท
อย่างไรก็ดี เพื่อให้คนจีนหรือคนมีรายได้น้อยสามารถดื่มได้ บริษัทกุ้ยโจว เหมาไถ จึงได้ออกรุ่น Moutai Yingbin ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุด เพราะไม่ได้ผ่านกระบวนการบ่มหมัก มีราคาประมาณ 500 บาทต่อขวดออกมาด้วย
สำหรับประโยชน์ของเหล้าเหมาไถ มีนักวิจัยจีนได้ทำการวิจัยพบว่า ในกระบวนการผลิตเหมาไถจะเกิดจุลินทรีย์ขึ้นมาชนิดหนึ่งจากการหมักข้าวฟ่าง ซึ่งจุลินทรีย์นี้จะมีประโยชน์ในระบบการย่อยอาหาร การขับถ่าย และระบบหมุนเวียนโลหิต ซึ่งปริมาณที่แนะนำให้ดื่มคือ 100-150 ซีซีต่อวัน ซึ่งมีการทดลองนำไปหมัก และผลิตในพื้นที่อื่น แต่พบว่าเฉพาะที่เมืองเหมาไถนี้เท่านั้นที่การหมักจะทำให้เกิดจุลินทรีย์ตัวนี้ หากเปลี่ยนไปเมืองอื่นจะไม่เกิดจุลินทรีย์ตัวนี้ขึ้น ปัจจุบันจึงมีการผลิตในที่เดียว อนึ่งรายงานชิ้นนี้ชี้ว่าการดื่มเหล้าดีแค่ไหน หากดื่มจำนวนมากต่อวันแล้วก็จะเป็นโทษร้ายแรง จึงควรดื่มอย่างเหมาะสม