Montfort27
มุมพักผ่อนหย่อนใจ ไปไหนไปกัน => โรงอาหาร => ล้อมวงนั่งตั้งวงดื่ม (มักเหล้าคลับ @montfort27.com) => ข้อความที่เริ่มโดย: Putsiland ที่ กันยายน 17, 2010, 02:53:50 PM
-
-0028 -0028 -0028 -0028 -0028 -0028 -0028
แล้วจะมาต่อครับเริ่มเมาแล้ว
-
โวยๆ เน้ออ้ายต๊อก -12
-
อันนี้อยากรู้มากครับ ว่าต้องใช้คำพูดอย่างไรครับ
ความหมายของรสชาติต่างๆที่ทางสากลใช้อธิบายเป็นอย่างไร
ที่ผ่านมาเราก็ลูกทุ่งอย่างเดียว...รู้สึกอย่างไรก็บรรยายไปตามนั้น -0014
-
ต้องขอโทษมิตรสหายร่วมวงสุราทุกๆท่าน พอดีมีประชุมด่วนต่างรัฐเลยช้านิดหนื่ง
เดี๋ยวคืนนี้แน่นอนครับ -0029 -0029 -0029 -0029 -0029 -0029 -0029 -0029
-
รับทราบครับ เดินทางไปไหนมาไหนก็ระมัดระวังเอาไว้บ้างก็ดีเน้ออ้ายเน้อ
-
เรียนท่านพี่น้องร่วมสำนักอะไรที่ผมจะเขียนต่อไปนี้เป็นเพียงการเล่าสู่กันฟังในวงเหล้านะครับ
ท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมเชิญได้เลยครับ -0029 -0029 -0029
-
รสชาติพื้นฐานหลักของเหล้า Scotch Whiskey มีอยู่ ๕ อย่างครับ
๑. พีท (Peaty)
๒. Estery
๓. BRACKENISH
4. BLAND
5. WOOD FLAVOUR ( Barrel Ageing)
ทำความเข้าเจ้ารสชาติและแหล่งที่มาทั้งห้านี้จะเข้าใจ Scotch Whiskeyมากขึ้นครับ
-
๑. PEATY
ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า พีท (Peat ) คืออะไร คือดินที่มีซากส่วนผสมระหว่างซากพึชกับสารคาบอนย์บางส่วนซึ่งสะสมกันมาเป็นล้านๆปีแล้ว
ถ้าปล่อยทึ้งไปเรื่อยๆท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นถ่านหิน พีทมีอยู่ทั่วไปในเขตใกล้นำ้ในสก็อตแลนย์ วิธีการเก็บเกี่ยวพีทคือขุดขึ้นมาตากหรือตาก
อากาศอย่างน้อย ๔ อาทิตย์ก่อนที่จะนำไปเผาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเตาอบแห้ง(kiln)
PEATY เป็นรสชาติที่เกิดจากการใช้พีทเป็นเชื้อเพลิงในการอบแห้งข้าวบาเร่ย์ก่อนนำไปกลั่น ทำให้เกิดรสชาติต่างๆเหล่านี้ในวิสกี้
(รสชาติต่างๆเหล่าอยู่ในเทอม PEATY) ดังนี้ครับ
Phenals = Tar Like นำ้มันดิน หรือยางมะตอย
Smokey = Wood Smoke รมควัน หรือ กลิ่นไหม้
Sea Tangle = Sea Shore/ Sea weed กลิ่นคล้ายเวลาเรายืนอยู่แถวโขดหินแถวทะเล กลิ่นสาหร่าย
Iodine = Sea Breeze กลิ่นลมทะเล คล้ายกับ Salt air ทำนองนี้ครับ
Kippery = Smoked Fish กลิ่นปลาย่าง
Birchy = Mossy กลิ่นออกคล้ายเฟินย์ทะเล อันนี้อธิบายยากเพราะเฟินย์ประเภทนี้จะมีโตในพีทที่สก็อตแลนย์ ส่วนมากจะเจอในวิสกี้ที่มา
จาก Islay หรือวิสกี้ที่มาจากฝั่งตะวันตกของเกาะ
แผ่นพีทที่แช่อยู่ในนำ้ทะเลในส่วนที่มีต้นเฟินย์โตอยู่ในดินพีท พอคนเอาพีทในแถบนั้นมาอบแห้งข้าวบาเรย์ทำให้เกิดรส Birchy หรือ Mossy คือมีกลิ่นเฟินย์
จากพื้นที่แถวนั้นติดมาด้วยส่วนมากจะเป็นวิสกี้ที่มีโรงกลั้นติดทะเลโดยเฉพาะวิสกี้ที่มาจาก Campbelttown
มีคำพูดๆไว้ว่ารสชาติของพีทในเหล้าสก็อตเป็นสำผัสรสชาติและกลิ่นดินของสก็อตแลนย์........
๒.Estery
-
2.Estery
ความหมายคือความหอมจากกลิ่นเหล้ารวมถึงกลิ่นหรือรสชาติของผลไม้ที่มีให้สก็อตวิสกี้
รสชาติที่อยู่เทอม Estery
Fragrant = Rose scented กลิ่นดอกกุหลาบ
Fruity = Orange/Lemony รสส้มหรือมะนาว
Floral = Carnation กลิ่นดอกคาเนชั่น
Honeyed = Blossom Honey รสหรือกลิ่นนำ้ผึ้ง
Pear Drops = Ripe Banana กลิ่นหรือรสกล้วยสุก
Acetals = Nail Varnish กลิ่นนำ้ยาทาเล็บ
-
๓.Brackenish
ความหมายของรสชาติประเภทนี้คือ Dry หรือ รสชาติออกด้านๆไม่ซับซ้อน ซึ่งตรงข้ามกับ Estery
กระบวนการหมักที่ใส่ยีสเข้าไปในข้าวบาเร่ย์ทำให้นำ้ตาลที่มีมีในข้าวถูกใช้ไปหมดหลังจากนั้นเปลี่ยนเป็น
แอลกอฮอร์หรือเหล้าใหม่ที่ยังไม่ได้กลั่น ในกระบวนการนี้ทำเหล้า Dry หรือจะพูดเป็นไทยว่าง่ายว่าไม่มี
รสหวานหรือออกด้านๆ อีกอย่างหนึ่งคือกระบวนการกลั่น เพราะต้องกลั่นหลายรอบทำเหล้าเริ่มสะสมรส
ชาติ ในเทอมที่เรียกว่าFusel จากกระบวนการกลั่นดังต่อไปนี้
Frinty:
Fusel = Cove like กลิ่นเหมือนเครี่องอย่างหนี่งของฝรั่งชื่อว่า Cove
Beewax = นำ้ยาขัดเครื่องหนัง
Earthy = Damp soil ดินชื้น
Dry Wood = ไม้แห้ง
Slate = Cardbord กลิ่นกล่องกระดาษ
Tobacco Ash = Ash trays กลิ่นควันบุหรี่
Leathery = New Leather กลิ่นคล้ายเสื้อหนังใหม่
Sweaty = Changing Rooms กลิ่นเงื้อ
Fishy = Fish Meal กลิ่นเหม็นคาว
Cereal = Cooked Mash
Spicy = Peppery กลิ่นเผ็ดคล้ายพริกไทยดำ
คนทำวิสกี้รุ่นไหม่พยายามที่สุดที่จะให้มีรสหรือกลิ่นข้างบนนี้ให้น้อยที่สุด ถ้าแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ
จะเรียกกลิ่นข้างบนนี้อยู่ในกลุ่มของกำมะถัน ซึ่งรสชาติไม่ซับซ้อนไม่มีรสหวานหรือภาษาวิสกี้เรียกว่า Dry ครับ
............................................................................
ดึกละครับ ขอมาต่อใหม่วันพรุ่งนี้
-
ปูเสื่อรอชม
-
เรื่องเล่าอ้ายต๊อกทำเอาหลายๆ เรื่องที่เคยสงสัยกระจ่างแจ้งเลยทีเดียวครับ
ยังไงมาต่อให้จบนครับอ้าย จะรออ่าน
จาก แฟนขับอ้ายต๊อก มิตรรักนักดื่ม :cheer:
-
4. Bland
อันนี้เป็นสก็อตวิสกี้ค่อนข้างอ่อน เป็นวิสกี้ที่ผลิตขึ้นโดยไม่ใช้พีท(unpeated Barley)
ทำให้รสชาติค่อนข้างออ่นคาบเกี่ยวกับรสชาติ Estery (มีกลิ่นหอมรสหวานจากดอกไม้หรือนำ้หอม)
กับ Bland
กระบวนการกลั่นเหล้าที่ใช้หม้อกลั่น(Pot still)ที่มีอิทธิพลต่อเหล้าใหม่( New spirit)ประกอบกับ
ชนิดของถังโอ้คย์ที่ใช้บ่มเหล้าทำให้เกิดรสชาติในกลุ่มของ Bland
กลุ่มรสชาติของ Bland มีดังต่อไปนี้
Buttery = creamy ออกมันแบบเนีอย
Linseed = Putty Oil กลิ่นออกคล้ายปูนฉาบตัวถังรถ
Waxy = soup กลิ่นออกสบู่
Oily = Glycerine กลิ่นคล้ายกับสบู่กีเซอร์ลีนหรือฉุนแบบนำ้มัน
Tallowy = Candles กลิ่นออกเทียนไข
รวมถึงรสรสชาติอย่าง Honey-Vanilla ก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันแต่เรียกเทอมนี้ Mellow (บางหรืออ่อนกว่า)
รสชาติประเภทนี้ไม่ค่อยนิยมมากนักในหมู่นักดื่มสก๊อตเพราะไม่มีมาดของเหล้าวิสกี้เหลืออยู่มากนักหรือพูดง่ายๆว่า
รสชาติอ่อนซ้อมจนเกินไป
-
5.Wood Flavor (Barrel Ageing)
รสชาติละเอียดอ่อนในเหล้าวิสกี้เกิดจากการผสมผสานของข้าวบาเรย์กับแหล่งผลิตเหล้า(Peat) ผนวกกับ
การออกแบบหม้อต้มเหล้า(Pot Still) โดยใช้เวลาที่บ่มในถังโอ้ดย์เป็นตัวกลางในการขัดเกลารสชาติให้เป็น
บุคลิกเฉพาะของเหล้าถังนั้น การบ่มเหล้าในถังไม้ที่เก็บไว้ในโรงบ่มต่างนับสิบปีทำให้เกิดการสร้างสมรสชาติ
ที่ซับซ้อนของเหล้าผ่านถังไม้โอ้ด
โดยวิธีปฎิบัติกันมาช้านานของการบ่มเหล้าสก็อตวิสกี้ไม่ม่การบ่มเหล้าวิสกี้ในถังไม้โอ้คใหม่เหมือนเหล้าบลั่นดี
หรือเบอเบินร์ เหล้าสก็อตวิสกี้จะบ่มในถังไม้โอ้คเก่า(White Oak)หรือถังที่ใช้บ่มเหล้ามาแล้วโดยส่วนใหญ่ใช้อยู่๒ชนิด
๑.American Oak มีความหนาแ่นนของไม้โอ้ดตำ่กว่าไม้โอ้ดจากยุโรปครึ่งหนึ่ง ผู้ผลิตเหล้าสก็อตใช้ถังไม้
โอ้คจากอเมริกาหรือถังเบอเบินย์เพื่อขยายรสชาติหวานแบบคาราเมลย์ที่มีอยู่แล้วในถังไม้เบอเบินย์ พูดง่ายคือ
รสหวานคาราเมลย์เกิดจากการบ่มจากถังเบอเบินย์นั่นเอง
๒.European Oak เช่นกัน คือต้องใช้แล้วส่วนใหญ่มาจากสเปญ เป็นถังใม้เก่าที่เคยบ่มเหล้าเชอรี่มาก่อน ถังไม้โอ้คเชอรี่
นี้มีทั้งที่มาจากยุโรปและอเมริกา จุดประสงค์เพื่อเพิ่มรสชาติเชอรี่ในเหล้าวิสกี้
รสชาติหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นในระหว่างการบ่มเหล้าอย่างเช่น Tannins (ฝาด) LIGNIS (ถ่านหิน) RESIN ( องุ่นแห้งออกไหม้) ซึ่งผู้ผลิตเหล้าส่วนใหญ่พยายามหลีกเลี่ยง
-
ถึงสหายร่วมสุราทุกท่านอย่าพยายามเข้าใจรสชาติของวิสกี้ในเวลาอันสั้น
ค่อยๆไปเดี๋ยวก็จะเคยชินเองอะครับ
อีกอย่างอย่าพยายามเข้าใจคำแปลแบบตรงตัวนะครับเพราะจะทำให้สับสน
แต่ให้เข้าใจความหมาย อย่างเช่นคำว่า Dry ในเทอมของวิสกี้คือไม่หวาน
หรือรสชาติไม่ซับซ้อน ไม่ได้แปลว่าแห้งนะครับ
เดี๋ยวผมจะแปลศัพย์ที่ใช้ในวงการวิสกี้ ดังนี้ครับ
1.Aroma = กลิ่นหอมที่จมูกจับได้เวลาเราดมกลิ่นวิสกี้จากปลายแก้ว
2.Bland = จืดไม่มีรสชาติ ไม่ซับซ้อน
3.Body = ความหนาแน่นและนำ้หนักวิสกี้วเลาอมอยู่ในปาก
..........เดี๋ยวมาต่อครับขอไปดื่มเหล้าก่อน
-
-0023 ขอคารวะ อ้ายต๊อกด้วยใจจริง ครับที่ช่วยให้ความกระจ่างในหลายเรื่องที่สงสัยมากนาน
จริงๆ แล้วผมเริ่มต้นค้นหาเรื่องราวเหล่านี้ด้วยความสงสัยในเรื่องที่ได้อ่านจากแหล่งข้อมูลในอินเตอร์เนท
เมื่อสงสัยแล้วมันก็ต้องเรียนรู้แบบงูๆ ปลาๆ โดยการอาศัยการซื้อเหล้าเข้ามาลอง
โดยยึดเอาคติว่า สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่าเอามือคลำ ลองทำๆ บ่เกยทำก็ต้องลองดู
เหอะๆ ชักนอกเรื่องไปอีกล่ะ วันนี้เรื่องราวๆ หลายๆ เรื่องที่อ้ายต๊อกเฉลยเอ่ยหื้อฟัง
ช่วยได้เยอะเชียวครับ ในการที่นำไปปฏิบัติและเรียนรู้เพิ่มเติม ขอบคุณจริงๆ ครับอ้าย... -0021
-
ปูพรมเปอร์เซียรอครับ
-
เมื่อไหร่จะมาต่อครับเนี่ย :try: หายไปเลย
-
สงสัยยังมาว....ว ไม่สร่าง :laugh1:
-
ใช่เลยครับ...แฟนคลับตั้งตารอติดตามอ่านตอนต่อไปเมื่อไหร่ พี่ Putsiland จะมาซักกะทีนี่ครับผมมม :no:
-
กลับมาต่อละครับ ต้องขออภัยช่วงนี้ยุ่งนิหน่อยครับ -0029 -0029 -0029 -0029 -0029
-
4.Bouquet= กลิ่นรสชาติที่จมูกจับได้เวลาเราดมกลิ่นวิสกี้ได้จากปลายแก้ว
5.Caramel= หมายถึงรสชาติขมนิดๆเหมือนรสชาติลูกอมไหม้ หรือในบางครั้งใช้วัดหรือปรับระดับของสีของวิสกี้
6.Coarse = หยาบ หรือ คุณภาพตำ่ราคาถูก
7.Definition=คุณสมบัติหรือลักษณะเฉพาะโดยทั่วไปของเหล้าวิสกี้ชนิดนั้น
8.Dry = ไม่รสหวานในวิสกี้
9.Fine= การอธิบายเหล้าวิสกี้ว่ามีคุณภาพดี (ส่วนมากเป็นเหล้าดีประเภทละเอียดอ่อนละเมียดละไม อย่างเช่น Bushmills 10 แต่ไม่ใช่ Highland Park 12 ถ้าในเทอมของ Highland Park 12 เรียก Rich)
10.Floral= กลิ่นดอกไม้
11.Fragrant= ใช้อธิบายลักษะกลิ่นเหล้า ในเทอมของ Fragrant นี้หมายถึงเหล้ามีกลิ่นหอมน่าทาน ดึงดูดใจ อุปมาเหมือนสาวสวยเดินผ่านเราความสวยของสาวคนนั้นทำให้เราจ้องเธออย่างไม่พรากสายตา
Fragrant ของเหล้าวิสกี้คือสเน่ย์หรือความสวยของเหล้าที่ไม่อาจริ้มรสด้วยสายตาแต่ลิ้มรสได้ด้วยจมูก ความหอมของเหล้ายิ่งดมยิ่งยั้งใจไม่ได้ที่จะต้องลิ้มลองน้องวิสกี้ขวดนั้นโดยพลั่น
ยกตัวอย่างเช่น Bushmills 10 เปิดขวดแล้วดมมีกลิ่นหอมมีสเน่ย์อย่างนี้เรียก Fragrant อย่าง Highland Park 12 นี้ไม่ใช่ จะอธิบายกลิ่นของเหล้าแบบนี้ครับ กลิ่นออกนำ้ผึ้งผสมกับความร้อนบางๆของเหล้า
และกลิ่นออกเผ็ดแรงซึ่งตรงข้ามกับบุคคลิกของ Bushmills 10 สรุปคือถ้าเหล้าไหนมีกลิ่นหอมคล้ายนำ้หอม(Fragrant)หรือดอกไม้(Floral) ไม่ฉุน หรือเหม็น (sour) จะอยู่ในเทอม Fragrant ครับ
..........................
-
12.Fresh=กลิ่นหรือรสชาติที่สดชื่นมีกำลังวังชา
13.Hard=กลิ่นค่อนข้างแรงหรือรสชาติออกฝาด
14.Heavy=ใช้อธิบายกลิ่นหรือรสชาติของเหล้าว่าหนักไปทางใดอย่างเช่น Extreme Peat หรือ Heavy Peat
15.Immature=เหล้ายังบ่มไม่ได้ที่
16.Light= กลิ่นหรือรสชาติ "อ่อน"
17.Medium=รสออกกลางๆไม่อ่อนไม่หนัก
18.Mellow=ไม่หยาบหรือรุนแแรง รสชาตินิ่มแบบอ่อนๆ
19.Mild=อ่อนไม่ฉุนทั้งรสและกลิ่น
20.Rich=อันนี้แปลขอเวลาแปลเป็นไทยก่อนอะคับ?
21.Neutral=รสชาติจริงๆก่อนปรุงแต่ง
22.Robust=อธิบายถึงเหล้าที่มีบุคคลิกที่มีรสชาติและองค์ประกอบโดยรวมดีหรือดีมาก
23.Round=ความสมดุลของกลิ่นและรสชาติของเหล้าวิสกี้
24.Short=ขาดมิติหรือความต่อเหนื่องของกลิ่นเหล้า(aroma)
25.Smooth=นิ่ม
26.Sour=ฉุน เหม็น เปรี้ยวหรือกลิ่นออกไม่ค่อยสร้างสรรย์ในเหล้า
27.Style=แสดงประเภทของเหล้า(Blended หรือ Single Malt)
28.Sweet=ในเทอมของเหล้าวิสกี้หมายถึงหวานจนเกินไป
29. Thin=รสชาติเจือจางมากหรือเรียกอีกอย่างว่า รสชาติเหมือนนำ้
30.Young=เหล้าที่ยังไม่ได้บ่ม หรือเหล้ากลั่นอย่างเดียว
จบแล้วครับ
-
ขอบคุณครับผมพี่ Putsiland ได้รู้คำศัพท์ในวงการวิสกี้ขึ้นมาอีกมากโขเลยครับผม..ต่อไปเวลาจะกินเหล้า SM
คงต้องค่อยๆ จดจำและนึกถึงคำศัพท์ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจในรสชาติของเหล้า SM ที่แท้จริงแต่ละตัวครับผมมม -0023
-
-22 เยอะนะ.... ตรูจาจำได้หมดมั้ยเนี๊ยะ
กลับไปเป็นภาษาบ้านๆ แบบเดิมๆ ดีก่า -14
-
จบซะที เยอะมากๆเลยครับ